เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ไปกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน” ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยก่อนเดินทางกลับ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หยุดให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองด้านต่างๆ ปรากฏว่ามีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3 คน  ถือป้ายกระดาษพร้อมข้อความ “ชาวจุฬารักลุงตู่ (เผด็จการ)” ซึ่งมีการขีดฆ่าที่คำว่า “ลุงตู่” พยายามเดินเข้ามาใกล้ๆ พล.อ.ประยุทธ์ 

                เหตุการณ์นั้นคงจะลืมเลือนไปแล้วสำหรับหลายคน แต่ชายหนุ่มที่ชื่อนายพริษฐ์ วัชรสินธุ กลับไม่ลืมและได้มีการพบปะกันกับหนึ่งในนิสิตจุฬาที่ไปชูป้ายแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ที่ต้องหยิบยกมากล่าวถึงก็เหตุเพราะชายหนุ่มนาม พริษฐ์ วัชรสินธุ นั้นก็คือ "น้องไอติม" หลานชายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่กำลังจะเ้ดินสู่สนามเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างแน่นอน

               ทั้งนี้  นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “พริษฐ์ วัชรสินธุ - Parit Wacharasindhu” มีข้อความว่า                

               เมื่อวานได้มีโอกาสไปจิบกาแฟและพูดคุยกับน้อง หนูดี วิรัลพัชร หนึ่งในนิสิตจุฬาที่ไปชูป้ายแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ มาพูดที่มหาวิทยาลัย 

               ขอชื่นชมความกล้าหาญของน้อง สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสันติภาพเป็นหนึ่งในขาสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่เสรีนิยม สมบูรณ์แบบ และยั่งยืน 

               ดีใจที่น้องยอมสละเวลามาเจอกันในวันหยุด เดี๋ยวมาคุยกันต่อหลังพี่ออกมาจากค่าย โชคดีกับสอบและขอให้สนุกกับการฝึกงานครับ @ CentralPlaza Lardprao

               ก็ต้องชื่นชมในความเป็นตัวของตัวเองที่กล้าแสดงออก และเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในเรื่องความเป็นเสรีนิยม เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย และนี่คงเป็นเลือดใหม่อีกแรงหนึ่งที่จะเข้าไปขับเคลื่อนพรรค ปชป. ให้มีการปฏิรูปเป็น "อนาคตใหม่" ของพรรค ปชป. แต่ก็ยังจะต้องติดตามกับต่อไปว่า ภาพที่่ปรากฏนี้จะเป็นการ "หาเสียง"  กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อแย่งชิงคะแนนเสียงของพรรคใหม่พรรคหนึ่งที่มีแนวโน้มว่าจะมุ่งเป้าไปที่คนรุ่นใหม่ หรือไม่อย่างไร หรือมีแนวคิดยึดมั่นเชิงประชาธิปไตยหนักแน่น สุดขั้ว เหมือนพวกที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยพ่วงนัยยะแก้ไข ม.112 หรือไม่เพียงใด เวลาเท่านั้นท่ี่จะบอกได้