สวัสดีคะ ห่างหายจากการเขียน Blog ไปนานพอสมควร ว่างๆ ก็แอบเข้ามาบ้าง  อยากบอกว่าคิดถึงเพื่อนๆทุกคนนะคะ เพราะช่วงนี้ตะลอนทัวร์ไปหลายที่ เหนื่อยกับการเดินทาง 

แต่ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนคะสำหรับกำลังใจที่มีให้คุณพ่อ แม้ท่านจะไม่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว. แต่ก็ทำให้แอนนี่ดีใจเสมอคะที่มีเพื่อนๆค่อยส่งข้อความและตามถามข่าวคราวอย่างไม่ขาด  ต้องขอขอบคุณจริงๆ คะ  ซึ่งผู้ที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของจังหวัดลำปางในครั้งนี้ท่านเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการปกครอง และชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากกว่า (แอนนี่เองก็แอบดีใจนิดๆ คะเพราะค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องสุขภาพท่านมากกว่า อายุก็ค่อนข้ามากแล้ว ไม่อยากให้ท่านทำงานหนักมากเกินไป)

วันนี้แอนนี่พาเที่ยวจะพาบุกค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นค่ายทหารที่ใหญ่มาก และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกองพลที่รวมตัวกันได้เร็วที่สุดของประเทศไทย ใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็สามารถรวมพลได้พร้อมเพียงกัน ซึ่ง ณ ค่ายแห่งนี้เองคะได้แบ่งพื้นส่วนหนึ่งให้เช่าเพื่อเป็นที่ตั้งของกองถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ของไทย เรื่อง "ตำนานพระนเรศวร" ที่ "พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูติโอ" ได้ขอเช่าจำนวน 1,500 ไร่ เป็นเวลา 25 ปีคะ เพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ยิ่งใหญ่นี้ ทั้ง 3 ภาค

รูปพระนางของเรื่องคะ  แต่ถ้าใครอยากเห็นความหล่อแบบชัดๆ  เข้ามาตามอ่านในตอนที่ 2 คะ

การเข้ามาเที่ยวในกองถ่ายแห่งนี้ ซึ่งอยู่บริเวณด้านในของค่ายสุรสีห์ ต้องขับรถเข้ามาหลายกิโลเมตร  และถ้าเห็นคอกม้า คอกช้าง นั้นแสดงว่าท่านมาถูกทางแล้วคะ 

และถ้าท่านเห็นกระบอกปืนใหญ่อย่างนี้เรียงรายอยู่ จอดรถได้เลยคะ

ปืนใหญ่ไทยก็มีลายไทย อ่อนช้อยงดงาม

ตอน 9 โมงกว่า นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันมาค่อนข้างมาก

ซื้อตั๋วเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท /เด็ก 50 บาท /ชาวต่างชาติ 200 บาท

ไม่ได้นั่งเกวียนไปคะ เดินเท่านั้น

แต่ก่อนจะออกเดิน ก็มาฟังคำอธิบายในการเดินตามแผนที่ และที่ไปที่มาของการสร้างสถานที่แห่งนี้คะ ซึ่งได้ สร้างมาแล้ว 5 ปี ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ไปแล้ว 2 ภาคซึ่งเหลือภาค 3 ที่กำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำและขนาดนี้กำลังจะขอเช่าที่ดินเพิ่มเติม  จากเดิม 1,500 ไร่ เป็น 2,000 ไร่ สำหรับการก่อสร้างโรงถ่ายภาพยนต์ระดับมาตรฐานโลก จำนวน 4สตูดิโอ ,การสร้างศูนย์ฝึกอบรม-สัมมนา/ค่ายลูกเสือ/ค่ายเยาชนพร้อมผจญภัย ลานกิจกรรม,การสร้างบ้านพักลักษณะเรื่อนไทยโบราณในรูปแบบโฮมสเตย์ ,การสร้างพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของศิลปินแห่งชาติสาขาภาพยนตร์

เมื่อฟังความกว้างใหญ่ของสถานที่แล้ว อาจจะรู้สึกท้อใจนิดๆ แต่ถ้าได้เห็นกลุ่ม สว.(ผู้สูงวัย) ที่เดินนำหน้าเราแล้วหล่ะก็ สาวๆ อย่างแอนนี่ก็ไม่ยอมแพ้แน่คะ

นี้ถ่ายมุมไกล จะเห็นว่ามีคนอยู่ตรงกลางด้านในเมืองหงส์สาวดีตัวเล็กนิดเดียว

ชมวิวไปเรื่อยๆ คะ นี้เป็นบริเวณหมุ่บ้านโยเดีย (เขตพม่า)

ระหว่างทางก็จะมีช้างถูกล่ามไว้กับต้นไม้อยู่หลายเชือกให้ได้ถ่ายรูปและป้อนอาหาร

ศาลเจ้าจีน และหุ่นที่กำลังนอนตายอยู่บนกำแพง

แม่น้ำ คู คลอง ก็ขุดได้กว้างใหญ่ เลี้ยงปลาไว้เต็มไปหมดคะ

เจดีย์ชเวดากอง องค์จำลองก็มี (ปีนี้แอนนี่ได้เห็นเจดีย์ชเวดากององค์จำลอง องค์ที่ 2แล้วนะคะ)

นี้คือด้านหลังของห้องเก็บศัสตราวุธ

เห็นแต่วิวอาจจะคิดว่าไม่มีคน ก็เลยเอารูปสาวๆ มาดีกว่า

บ้านเรือนไทยเนี่ยสร้างขึ้นใหม่เพื่อใช้ประกอบฉากภาพยนตร์ทั้งสิ้นคะ แต่ทำให้ดูเก่า และก็สวยงามมาก ลายไทยที่เชิงชายก็งดงามจริงๆ คะ

ระฆังใบนี้สูงประมาณ 180 เซนติเมตร แต่รอเหยื่อมาถ่ายรูปคู่กับระฆังก็ไม่มีสักที ก็เลยมองไม่ค่อยออกว่าใบใหญ่มากคะ

รูปนี้คือด้านในห้องเก็บศัสตราวุธ มีพระแสง ดาบ (ก็ยังงงอยู่คะว่าทำไมห้องเก็บอาวุธถึงมีพระพุทธรูปด้วย)

นี้คือกุฎิมหาเถรคันฉ่อง (แสดงโดนคุณสรพงษ์ ชาตรี)

ระฆังใบเล็กๆ ส่งเสียงดังเมื่อมีลมพัด เสียงระรื่นหูดี ชอบฟังแล้วเย็นสบายดี

ครัวไทยโบราณ ไม่ค่อยเห็นแล้ว จุดไฟจะแบบนี้จะติดไม่หนา

รูปปั้นที่มีปีกหันหลังให้เรา เป็นรูปหงส์ ซึ่งถ้าหงส์หันหน้าไปทางไหนแสดงว่า      เมืองหงส์สาวดีอยู่ทางทิศนั้นคะ

ดูด้านหน้าของรูปปั้นหงส์ ที่เป็นสัญลักษณ์บอกทิศทางของเมืองหงส์สาวดี

สังเกตุเห็นรุปสิงห์โตคู่ที่ตัวใหญ๋มาก ใหญ่กว่ากำแพงเมืองหงส์สาวดี

แม่น้ำที่ขุดไว้และสะพานที่ทอดยาวเข้าเมืองก็ยิ่งใหญ่ อลังกาลจริงๆ คะ

สังเกตุดูคนที่อยู่ระหว่างรูปปั้นหงส์เหลือตัวนิดเดียว

เดินไปก็แอบยิ้มไป คุณตาจูงมือยายไม่ปล่อยเลย ถ่ายรูปกันไป ยิ่งกว่าคู่หนุ่มสาวอีกนะคะเนี่ย (แอบตาร้อนเพราะไม่มีคู่มาด้วย)

กำแพงเมืองหงส์สาวดี เป็นสีแดง ดูน่ายำเกรงจริงๆ คะ ฉัตรบนกำแพงก็ดูยิงใหญ่จริงๆ

ดูระยะทางสิคะ ไกลพอสมควร ถ้าไม่มีแดดแอนนี่ถึงไหนถึงกันคะ แต่วันนี้แดดแรงเหลือเกิน โชคดีที่มีแผ่นที่สาระพัดประโยชน์ใช้นำทาง และบังแดดได้ด้วย

เดินชมวิวไปเรื่อยๆ

ถ่ายรูปวัวเสียนิดหนึ่ง เป็นนายแบบให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปด้วยกันมากมาย

ช้างตัวนี้ เป็นช้างพม่าคะ เพราะควานช้างใส่ชุดชาวพม่า

ใกล้ทางเข้าเมืองหงส์สาวดีแล้วคะ

กำแพงสีขาวเป็นเมืองไทยคะ แต่ก็ติดไว้ดูกันต่อในตอนที่ 2 แล้วกันนะคะ รับรองคะยิ่งใหญ่จริงๆ สวยงามมากทั้งเมืองหงส์สาวดี เมืองกรุงศรีอยุธยา งดงามจริงๆ อลังการงานสร้าง แล้วเจอกันใหม่คะ