ฟังดูก็ง่ายๆนะคะ แต่ปฏิบัติตามได้ยากอย่างยิ่ง แต่ถ้าปฏิบัติได้แล้ว เราเองนั่นแหละค่ะจะเป็นสุข จะอยู่ที่ไหน จะอยู่กับใคร หรือจะอยู่คนเดียว หาความสุขให้กับตนเองได้ทั้งนั้น เพราะเป็น"ผู้ไม่ยึดถืออะไร ปล่อยได้วางได้ " ใครจะมาแสดงกิริยาอาการทางกาย ทางวาจา หยาบละเอียดอย่างไรกับเราๆก็ไม่ยึดไม่ถือ หรือใครจะคิดดีคิดร้ายกับเรา เราก็ไม่ยินดียินร้ายด้วย เราย่อมจะเป็นคนหนึ่งละค่ะ ที่ทำให้ใจเป็นสุขได้ และความสุขนั้น ก็ไม่ได้อยู่ไกลจนเกินเอื้อม อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง

"ความสุข หรือความทุกข์นั้น อยู่ที่การทำใจของเราเอง"

การที่ใจของเรา ยังมีแต่ความทุกข์อยู่ เปรียบไปก็เสมือนคนเดินทางในท่กันดารในเวลากลางคืนอันมืดมิด ย่อมตกหลุมตกบ่อถุกหินอันคม หรือหนามอันแหลม ขูดข่วนทิ่มตำ ให้ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส!!!

"ถ้ามีประทีป หรือโคมไฟสักดวงหนึ่ง คอยส่งหนทาง เราย่อมจะเดินได้สะดวกขึ้น และบาดเจ็บน้อยลง"

พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อศึกษาเล่าเรียนแล้ว จะเกิดปัญญา อุปมาเหมือนเป็นแสงสว่าง คอยส่องหนทางชีวิต ให้เราเดินไปในหนทางอันกันดารด้วยความปลอดภัย เดินตรงไปแต่ในหนทางที่เป็น"กุศล"เท่านั้น ไม่คดเตี้ยวเลี้ยวไปในทางที่ชั่วที่เลว อันจะพาตัวให้ตกหล่มจมปลัก ตกเหวตกนรก!!!

"ปัญญา อันเปรียบเหมือนแสงสว่าง จะช่วยเราได้มากมายมหาศาลอย่างนี้"

(จากหนังสือฆ่าตัวตายพ้นทุกข์ได้จริงหรือ? .....พูลศรี เจริญพงษ์)

บัวบาน แสงทิพย์

BuabanSangthip@hotmail.com

www.buddhapoem.com

www.buddha-dhamma.com

www.abhinyayai.com