*/
<< | ธันวาคม 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
มหากาพย์โอเค..แหวกเลตรัง..ปลูกหญ้าทะเลให้พะยูน ปี 3 ตามรอยพ่อ (เอ็นทรี2) ...ไปไหนดี
ตอนที่ 2 ไปไหนดี.. การโคจรมาพบกันของบล็อกเกอร์ชาวโอเคเพื่อทำกิจกรรมก่อการดีร่วมกันที่ จ. ตรัง ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ ทว่าเป็นชะตาฟ้า ฉันถือว่าเพื่อนๆ ทุกคนที่มาเยือนตรัง เมือง “คนใจกว้างสร้างแต่ความดี” บ้านฉัน คือ แขกคนพิเศษ ฉะนั้นการจัดร้อยเรียงโปรแกรมทริปไปตรังแต่ละครั้งเสมือนเป็นเมนูอาหารที่จะนำมาเสริฟให้แขกคนพิเศษ ซึ่งนอกจากจะมีอาหารจานหลัก จานรองตลอดจนของหวานรวมถึงเครื่องดื่มแล้ว ยังมีมีอาหารว่างอย่างที่จั๊กเด๋บอก ฉันต้องใส่ใจคัดสรรและปรุงอย่างพิถีพิถัน ดูรวมไปถึงการจัดหายานพาหนะนับตั้งแต่การเริ่มเดินทางให้แขกคนพิเศษได้เดินทางมารับประทานอาหารอันโอชะนี้ ช่างโชคดีที่เมืองตรัง ซึ่งเปรียบดัง “ไข่มุกอันดามัน” ที่ร่ำรวยไปด้วย เขา ป่า นา เล ล้วนเป็นวัตถุดิบล้ำค่าให้ฉันนำมาปรุงอาหาร กอปรกับนิสัยการซอกแซกเที่ยวแบบบ้านๆ เบิร์ดๆ ตามธรรมชาติห้วยนาป่าเขาลำเนาไพรของฉันช่วยได้มาก ในการจัดทริปแต่ละครั้ง นอกเหนือจากการทำกิจกรรมหลัก คือ การปลูกหญ้าทะเลให้พะยูนและกิจกรรมจิตสาธารณะแล้ว ฉันจะต้องมีการเที่ยวเมืองตรังเป็นกับแกล้มแถมให้ด้วย แม้ฉันจะไม่ได้มีอาชีพท่องเที่ยว แต่ฉันก็ท่องเที่ยวเป็นอาชีพ จนเพื่อนๆ หาว่าฉันทำงานอยู่การท่องเที่ยว หากใครจะถามฉันถึงห้างสรรพสินค้าหรูและสินค้าแบรนด์เนม ท่านถามผิดคน เพราะฉันใส่รองเท้าแตะและสะพายย่าม ฉะนั้น สถานที่ที่จะพาเพื่อนไปเยือนจะเน้นแหล่งทางธรรมชาติ วัดวาอารามที่โดดเด่น สถานที่ในประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชาวบ้านชาวเมืองบอกเล่าเรื่องราวตรัง เพราะรู้ดีว่า บล็อกเกอร์ชาวโอเคมักจะ “หาเรื่อง” แม้เรื่องไม่เป็นเรื่องก็สามารถทำให้เป็นเรื่องได้
เรามาดูกันว่า ที่ผ่านมาฉันพาเพื่อนไปไหนกันมาบ้าง พระนอนสวมเทริดแห่งเดียวในภาคใต้ อายุนับหลายร้อยปี วัดภูเขาทอง ต. น้ำผุดเหนือ ชมศิลปะการแสดงภาคใต้ รำมโนราห์ ถวายองค์พระนอนสวมเทริด และต้อนรับเพื่อนๆ ชาวโอเค รองเจ้าอาวาสกรุณาบรรยาย ให้ความรู้มากมาย รอบๆ โบสถ์ ท่านรองเจ้าอาวาส นำเงาะโรงเรียนมาเลี้ยงคณะ ท่านเรียก คณะของพวกเราว่า "คณะเงาะโรงเรียน" เพื่อนๆ จำได้ไหมคะ แล้วก็หิ้วเงาะวัดที่พระท่านให้แล้ว กลับขึ้นรถ พาเพื่อนเข้าถ้ำ หาช้างที่หายไป ที่ "ถ้ำช้างหาย" ภายในถ้ำวิจิตรพิศดาร แต่ขาออกจากถ้ำ ต้องคลานสี่ขากันออกมา ชมการทอผ้ากลุ่มทอผ้านาหมื่่นศรี ผ้าทอพื้นเมืองตรัง กระจายรายได้สู่ชุมชน พญาสุขุม กำกระเป๋าเงินแน่น ตั้งใจจะควักเงินซื้อไปฝากภริยาสุดที่รักสักตัว มาเมืองตรัง ต้องกินหมูย่าง..เจ้าหญิงเปิดบ้าน เลี้ยงอาหารกลางวัน ..มีหมูย่าง 1 ตัว สับๆ ไปเลย อาหารทั้งคาวหวานและผลไม้ ยกมา มาเมืองตรัง หากไม่ไปบ้านน้าชวน ถือว่ามาไม่ถึง เราจึงไปเยือน บ้านนายหัวชวน และกราบแม่ถ้วน รถคันแรก..ที่นายชวนใช้ในการหาเสียง พี่ลูกเสือกับเพื่อนบล็อกเกอร์สนิทที่ไม่ได้เจอมานาน ไปกราบพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี๋) เจ้าเมืองตรัง ผู้นำยางพาราต้นแรกมาปลูกในประเทศไทย ที่จวนกันตัง จวนเจ้าเมืองเก่าตามกาลเวลา แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนบล็อกเกอร์ไม่เคยเลือน ใครเป็นใคร จำได้ไหม ชบาตานี..เกสรมาเฟีย..เจ้าหญิง ..กำหนัน ..อะหนึ่ง สถานีรัก สถานีรถไฟสุดคลาสสิคกันตัง แวะทุกที เพราะมีน้ำมะม่วงเบาปั่นอร่อยเจ้าแรก (เสื้อสีส้มบล็อกเกอร์มีนา) หนังตลุง น้องของน้องเดียว..ขอให้มาจัดแสดงให้เพื่อนๆ ชม ที่หน้าสถานีคนเดิน สถานีรถไฟตรัง ในค่ำคืนวันแรก ผู้ชม เป็นลูกใครกันบ้าง จำได้ไหมเอ่ย นักแสดงรุ่นใหญ่ มิใช่ใคร มาตรัง ..ต้องกินขนมจีนคุณปุ้ม กับหมูย่างเมืองตรัง ห้ามพลาด มาตรัง ..ต้องกินติ่มซำ เห็นสีหน้าของพี่วารีแล้ว บอกไม่ถูกว่า จะกินเข่งไหนดี มาเยือนจวนผู้ว่าราชการจ. ตรัง ที่เป็น 1 ใน 20 โบราณสถานที่ให้เข้าชมได้ ทั้งๆ ที่ผู้ว่าฯ ก็ยังพักอยู่ เมืองตรังนี้ดีนักหนา
ผู้ว่าฯ เป็นเพื่อนกับบล็อกเกอร์พี่มะอึก ช่างโชคดีสองชั้น ท่านต้อนรับและบรรยายใต้ต้นประดู่อายุกว่าร้อยปีที่ปลูกบนจวน เข้าชมภายในเจดีย์ทรงแปลกที่สวยงามตระการตา (ฉันมักจะเรียกว่า เจดีย์ทรงไอติมโคน) ซึ่งปกติไม่เปิดให้เข้าชม ภายในตัวเจดีย์ งานตระการตา น้อยคนนักจะได้ยล ด้วยการประสานงานของบล็อกเกอร์อิงตะวัน ททท. ตรังขณะนั้น พวกเราจึงได้เข้าสักการะและชมความงาน แหงนคอตั้งบ่า อย่างบล็อกเกอร์หมอสมชัย สวัสดีทริป ชิมตรัง..พวกเราต้องไป ฟังคลื่น ที่กระบี่แล้วหละ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 ในเวลาไม่ถึง 3 เดือน ..ชาวโอเคกลับมาแหวกเลตรัง ..ปลูกหญ้าให้พะยูน ..ปี 1 และยามค่ำคืน เราก็มีการแสดง เป็นการแสดงให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมภาคใต้ "ละเกป่า" ที่นับวันจะหายากขึ้นทุกที และนี่เป็นคณะลิเกป่าคณะสุดท้ายของเมืองตรัง คนริมเลภูมิใจนำมาเสนอให้ชม ยาหยี..ร้องขับทำนอง ได้ไพเราะมาก ยาหยีเป็นคนกันตัง ชมลิเกป่าคณะสุดท้ายของเมืองตรัง คณะถาวรสุนทรศิลป์ จาก พรุจูด โดยคนริมเล จัดมาให้ชม แขกแดงกำลังบรรยายเรื่องท้องทะเลอันดามัน สนุกมาก เครื่องดนตรี และผู้เล่นดนตรี ผู้ชมฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ เพราะภาษาของแขกแดงลึกล้ำ ทริปของเราให้ความรู้วิชาการ แก่เพื่อน ๆ ....ฟังบรรยายสรุปที่หมู่บ้านน้ำราบ ชุมชนเข้มแข็ง เขตรักษาเล เสบ้าน อ. กันตัง ได้ทราบถึงการรวมตัวของชาวบ้านในการป้องกันแนวป่าโกงกางเพื่อการอนุรักษ์สัตว์น้ำ และป้องกันเรือที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมายเข้ามาลักลอบจับปลาและสัตว์น้ำในน่านน้ำเขตนี้ โดยแสดงให้เห็นถึงเครื่องมือจับสัตว์น้ำที่เป็นอันตรายต่อ ปลา เต่า และพะยูน แสดงให้เห็นเบ็ดราว ที่ทำได้ง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูงในการทำให้เต่า พะยูน ตาย หากมากินเหยื่อแล้วถูกเบ็ดนี้เกี่ยวจนตาย เครื่องมือเหล่านี้ยึดได้มาจากเรือต่างๆ ที่ทำลอบเข้ามาจับสัตว์น้ำ เต่าหรือพะยูน หากโดนเบ็ดนี้เกี่ยวเข้า ไม่รอดแน่ กระบอกทุบน้ำ อันตรายมาก ทำให้ปลาตกใจ ช็อค..หากคนที่อยู่ใต้น้ำได้ยินเสียงเครื่องมืออันนี้ อาจทำให้หูแตกได้ เพราะเสียงจะดังมาก ด้านความรู้วิชาการและประวัติศาสตร์ เราก็จัดให้....ที่ศูนย์การเรียนรู้เหมืองแร่ห้วยยอด ชมการสาธิต วิธีร่อนแร่ของชาวบ้านจริงๆ พี่่ลูกเสือกำลังสนใจอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ดีบุก ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ชมการแกะสลักไม้หอม เทพทาโร
ต่อมา ใน เดือนเมษายน พ. ศ . 2558 ชาวโอเคชวนกันมาแหวกเลตรัง ปลูกหญ้าให้พะยูนเป็นปี ที่ 2 คราวนี้ต้องหามุขใหม่ๆ อย่างไรก็ต้องเริ่มด้วยการกินติ่มซำ
สร้างภาพก่อนกิน คือ งานของเรา ไปแช่น้ำแร่ร้อน ควนแคง อ. กันตัง ท่ามกลางธรรมชาติเขียวชะอุ่ม เพิ่งจะได้เห็นขาอ่อนของพี่ลูกเสือ ไฮโซ จะแช่เท้า เสียแค่ 20 บาทเอง อุดหนุนชุมชน ค่ำคืน หลังอาหารอร่อยมากๆ ที่ฟาร์มบ่อหิน การแสดงปีนี้..ลูกสาวของชบาตานี..แสดงโชว์การรำมโนราห์ ให้รู้ว่า เลือดสาวใต้รุ่นใหม่ไม่ทิ้งศิลปะวัฒนธรรมภาคใต้ คนใต้สายเลือดศิลปินมโนราห์ แม้จะไปอยู่อเมริกา ก็กลับมาขับมโนราห์ให้เราฟัง..บล็อกเกอร์ครูหนวด นั่นเอง ดนตรีที่ชาวโอเคหาได้ไม่ยาก หม้อ รามชามไห ใช้ได้หมด วันที่กลับจากเกาะลิบง ในการมามอบห้องพยาบาลให้โรงเรียนบาตูปูเต๊ะ ปี 2558 (พะยูนปี 2) พี่ใหญ่ได้เชิญให้แวะที่รีสอร์ตถ่ายรูปกันสักครู่ โดยหารู้ไม่ว่า..นี่จะเป็นที่พักครั้งต่อไป ..หากจะมาลิบงอีก ในปี 4 ไม่มีใครตอบได้ ..แต่พี่ลูกเสือได้ขึ้นไปสำรวจมาแล้ว..และบอกว่า..มีอ่างจากุสซี่ทุกห้อง อาบน้ำใต้แสงจันทร์ อาบลม ห่มฟ้า..เอาหละสิ การท่องเที่ยวทางธรรมชาติในแดนตรัง ยังไม่หมดง่าย ๆ เมื่อ "เจ้าปาด" นุ่งกางเกงฟิตไปเดินป่าทุ่งค่าย ที่สวนพฤกษ์ศาสตร์ทุ่งค่าย เพื่อจะเดินข้ามสะพานยอดไม้ (Canopy) แห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อนๆ เดินกันหมด ยกเว้น นรอง "นรอง ขอไม่เดิน ค่ะ นรองกลัวความสูง พี่ๆ ไปเถอะค่ะ นรองรออยู่นี่่" เห็นสีหน้านรองแล้ว เธอกลัวความสูงจริงๆ ฉันบอกนรองว่า " นรองจะรออยู่ได้อย่างไร เราไปแล้วก็กลับออกอีกทาง เราไม่กลับมาทางนี้แล้วนะ" "มาเถอะ นรอง ไม่ต้องกลัว" กำหนันให้กำลังใจ หากอยากรู้ว่า..ในที่สุด ..นรองกล้าเดินสะพานยอดไม้ได้หรือไม่ ...ต้องรอไปถามนรองกันเองนะคะ ระหว่างที่พวกเราเดินลงมาจากสะพานยอดไม้ด้วยความสนุกสนานฮาเฮ พลัน ต้องเงียบเสียงกริบ เมื่อบล้อกเกอร์คนดีมีวินัยส่งสัญญาณถึงภัยที่อยู่ข้างหน้า "ห้ามใช้เสียงเด็ดขาด" ภาพที่ค่อยปรากฏต่อสายตาพวกเรา คือ ภาพนี้ คนเค้ากำลังจะยิงนก ต่อมา..เยี่ยมบ้านตระกูลคีรีรัตน์ โบราณสถาน ที่ไม่ได้มีใครรู้จักและเข้าชมบ่อยมากนัก บ้านสมัยก่อน มีบ่อน้ำในบ้านทุกหลัง กำหนันโชว์ฝีมือการตักน้ำด้วยการสาวเชือก พาจรดอทคอม สาธิตการสีข้าวซ้อมมือ ด้วยครกสีข้าว พาจรดอทคอมสาธิต เล่าวิธีสร้างกลอนสลักประตูของคนโบราณ นับเป็นภูมิปัญญาที่เฉียบแหลม ภายในบ้านหลังใหญ่โบราณหลังนี้ ..ไม่น่าเชื่อ..ว่าสมัยก่อนจะมีการแบ่งเป็น "ห้องหอ"..ความรู้ตรงนี้มีอะไรมากมาย ทำให้ฉันคิดถึงพิพิธภัณฑ์ เปอรานากัน (Peranakan Museum) ของสิงคโปร์ หากผู้บริหารเมืองตรังจะหันมาเหลียวดูให้ดี ที่นี่ ..จัดทำเป็นมิวเซียมไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย ฝากไว้ให้คิดหละกัน มาตรัง สิ่งที่ต้องหากินให้ได้...อาหารจานแนะนำ "เกายุค" เจ้าหญิงสรรหาให้เพื่อนได้ชิม ชอบไม่ชอบค่อยว่ากัน เกายุค..ไม่ได้หากินง่ายๆ ต้องชิม การช็อปปิ้ง มีแน่ แต่ต้องมีความหมาย สาวๆ ในชุดผ้าถุงปาเต๊ะ จากเมืองตรัง ใส่เลย..ซิตี้ทัวร์ ..กับตึกสไตล์ชิโนโปตุกิส ที่เหลือไม่มากเท่าภูเก็ต พอทำยา ไม่ว่า มุมไหน..ก็สวย..เมืองตรัง อนุรักษ์ตึกบ้านเรือนเก่าๆ ไว้พอสมควร เกือบจะสายไปเหมือนกัน โบสถ์คริส เก่าแก่ กว่า 150 ปี เมืองตรัง ..มีศิลปะอยู่ตามจุดต่างๆ โดยศิลปินชาวตรังที่หวนคืนถิ่นสร้างศิลป์ให้เมืองตรัง ขอขอบคุณ น่าชมเชย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เราขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์..สถานที่นี้ ..เป็นโรงพระท่ามก๋งเยี้ย..ที่ชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย และคนตรังมาไหว้ขอพร คุณแม่พาฉันพาประจำตั้งแต่เล็กจนโต ..ปลูกหญ้าพะยูนปี 2 ..ฉันพาเพื่อนมากราบท่าน
แรงศรัทธา สถานที่แห่งนี้ ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือของคนตรัง ..เจ้าหญิงพาเพื่อนมา นับว่าคนที่ไหว้จะกลับไปโชคดีทุกคน
เป็นอันว่า..สามครั้งมาแล้วที่เพื่อนชาวโอเคมาเยือนตรังได้แก่ทริป “ชิมตรัง” “ปลูกหญ้าให้พะยูนปี1” และ “ปลูกหญ้าให้พะยูนปี 2” ฉันสรรหาที่พาเพื่อนเที่ยวที่ไม่ซ้ำกัน แต่บางแห่งเราก็ไปแล้วก็ไปอีกรื้อฟื้นความหลัง การมาปลูกหญ้าให้พะยูน ปี 3 สร้างความกดดันให้ฉันจะต้องมองหาที่เที่ยวแหล่งใหม่ เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวที่ฉันเที่ยวสต็อกเอาไว้เริ่มจะลดน้อยร่อยหรอ พาเพื่อนไปไหนดีหนอ เอ็นทรีนี้ ฉันเลยต้องขอยืมชื่อแม็กกาซีน ของจั๊กเด๋มาตั้งชื่อ “ไปไหนดี” อา...ฉันคิดออกแล้วหละ ฮิๆ บัดนั้น..มาจะกล่าวไป ถึง “พี่ใหญ่” ผู้มีอัชฌาศัย กำลังซ่อมหลังคาปีนลงมาไม่ลาไล รับสายโทรศัพท์ทันใด แล้วเอ่ยความ “ตกลงจะมาเมื่อไหร่ ทางนี้เค้ารอ เห็นเลื่อนมาสองรอบแล้ว” “พฤศจิกายนไม่มา เลื่อนเป็นเดือนธันวาคม 9-12 ค่ะพี่ มาแน่ แล้ว” เสียงเจ้าหญิงที่ปลายสายตอบมา “หนูไม่ว่างกลับตรัง งานยุ่งมาก รบกวนพี่ขึ้นไปบนเกาะลิบง ช่วยถามที่โรงเรียนบาตูปูเต๊ะให้ที ว่าเค้าต้องการยาอะไรบ้างจากที่เคยเอามาให้ นรองจะเอายามาให้เพิ่ม ส่วนที่ศูนย์กู้ชีพ เราจะซื้อเครื่องช่วยหายใจและถังอ๊อกซิเจนให้ เช็คราคาแล้ว” “เครื่องช่วยหายใจ เอาแบบที่มีที่ซัคชั่น (suction) ดูดเสมหะได้ด้วย” พี่ใหญ่แนะนำ แล้วถามต่อ “แล้วโปรแกรมเป็นยังไง ทางเกาะลิบงจะได้เตรียมตัวถูก” “มานอนเกาะลิบง 1 คืน นอนฟาร์มบ่อหิน 1 คืน วันเดินทางกลับออกจากสิเกาไปทางห้วยยอด แวะเที่ยววังมังกรเทพทาโร และศูนย์ศิลปะวิถี คลองคุ้ย เราจะซื้อข้าวห่อไปกินข้าวเที่ยงที่นั่น จะได้ทานของหวานของอาจารย์สัมฤทธิ์ และมีขนมพื้นบ้านซื้อกลับเป็นของฝาก” เจ้าหญิงตอบอย่างฉะฉาน “เอา..ก็ดี..แล้วส่งรายละเอียดโปรแกรมมาให้พี่ เดี๋ยวพี่ซ่อมปั๊มน้ำเสร็จแล้วจะขึ้นไปบนเกาะ ช่วยประสานให้ ช่วงนี้ฝนตกหนัก พายุเข้าทุกวัน ปั๊มน้ำก็ดันเสีย” เสียงพี่ใหญ่บ่นให้ฟัง “แล้วจำนวนคนเท่าไหร่” พี่ใหญ่ถาม “ยังไม่รู้เลยพี่ ยังไม่ได้ประกาศรับสมัคร คิดว่าสัก 15 ถึง 20 คน ที่แน่ๆ ก็มีหนูกับนรองสองคนค่ะ” ฉันบอกอย่างมั่นใจ
ไปศูนย์ศิลปะวิถี ที่คลองคุ้ย ของอาจารย์สัมฤทธิ เพ็ชรคง กับวังมังกรเทพทาโร ที่ฉันบอกกับพี่ใหญ่ คือสองแห่งที่ฉันตั้งใจจะพาเพื่อนไปเที่ยวในวันเดินทางกลับ
ตอนที่ 2.1 ...ไปยังไงดี แต่การจัดทริปไปตรังถึงสี่ครั้งของชาวโอเค ฉันพบว่าไม่ง่ายสะดวกโยธินอย่างที่ใครคิด ครั้งแรก “ชิมตรัง” และตามมาในครั้งที่สอง “ปลูกหญ้าทะเล ปี 1” (สิงหาคมและพฤศจิกายน พ.ศ. 2556) ฉันได้จัดโปรแกรมโดยเดินทางไปกลับโดยรถทัวร์ ข้อดีของการเดินทางโดยรถทัวร์เช่าไปจากกรุงเทพฯ คือทุกคนได้เดินทางไปด้วยกันหมดในรถเดียวซึ่งจะพูดคุยสรวลเสเฮฮาในรถได้หมด แต่ค่าเช่ารถแสนแพงหูฉี่ ต้องเก็บค่าใช้จ่ายแพง (ซึ่งฉันไม่อยากทำ) และต้องมีจำนวนคนไปหลายคน เงินที่ได้ก็ต้องใช้เป็นค่าเช่ารถหมดไปกว่าครึ่งแสน
ทริป "ชิม ตรัง ฟังคลื่นกระบี่" รถทัวร์ชั้นดี ค่าเช่าวันละ 18,000 ไปสี่วัน จ่ายไป 72,000 บาท รถทัวร์โดยสารไปทริปปลูกหญ้าให้พะยูนปี 1 พ.ย. 2556 ค่าใช้จ่ายจำไม่ได้
เดินทางไปปลูกหญ้าทะเล ปี 2..(วันที่ 15-18 เมษายน 2558) ฉันจึงเปลี่ยนแผนเป็นการเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพ-ตรัง โดยขบวนรถด่วน 83 จะถึงตรังราว08.05 นาที จากนั้นก็ง่ายต่อการจัดโปรแกรมทริปในตรัง
ทว่า..การจองตั๋วรถไฟหมายถึงการซื้อเลย และฉันก็ไม่มีเงินสำรองที่จะซื้อตั๋วล่วงหน้าโดยที่ยังไม่รู้จำนวนคนไป และการประกาศออกไปก็ใช่ว่าคนจะสมัครล่วงหน้าเร็วนัก ยิ่งการเดินทางครั้งปลูกหญ้าทะเล ปี 2 เป็นวันที่ 15 เมษายน โอ้พระเจ้า..ผู้คนกำลังเดินทางช่วงหยุดยาวสงกรานต์ รถไฟตั๋วเต็มอย่างแน่นอน เมื่อฉันไปติดต่อซื้อตั๋วที่สถานีศาลายา คนขายตั๋วบอกว่า “มีที่ว่างชั้นสองนอน 11 ที่ มีนอนบนและนอนล่างคละกัน คุณจะเอาไหม วันเดินทางกลับตั๋วเต็มทุกที่นั่ง ทุกชั้น” ฉันไม่มีเวลาคิดนาน หันไปมองคนที่ยืนต่อคิวซื้อตั๋วด้านหลังรออยู่ยาว จึงตัดสินใจ “เอาค่ะ ขาไป 11 ที่นั่ง” ฉันจ่ายเงินค่าตั๋วรถไฟ แล้วรีบขับรถบึ่งไปขนส่งสายใต้ทันที การตัดสินใจช้าแม้วินาทีเดียว หมายถึงเพื่อนๆ ที่ไปรถไฟจะไม่มีรถกลับ “ขอให้ลูกช้างได้ตั๋วรถทัวร์ขากลับกรุงเทพฯ ด้วยเถิดเจ้าพระคุณ” ฉันภาวนากลางอากาศ ฉันไม่มีเวลาพอที่จะโทรปรึกษาใครทั้งนั้น เมื่อฉันไปถึงขนส่งสายใต้ ยังมีแต่รถวีไอพี 32 พอมีที่ว่าง ส่วนรถวีไอพี 24 ที่นั่งเต็มหมดแล้ว ฉันเกรงว่าเพื่อนๆ จะนั่งไม่สบายและอาจจะต่อว่าฉันได้ที่ไม่ได้กลับรถไฟอันแสนสบาย ฉันรีบโทรถามบก. ชาลี ปรึกษาทันที “บก. คะ ..รถไฟขากลับเต็มทุกที่นั่ง เราได้นั่งรถไฟแต่ขาไป ขากลับมาซื้อตั๋วรถทัวร์นะ วีไอพี 24 เต็มหมดแล้ว เหลือรถวีไอพี 32 ที่นั่ง แม้จะแคบหน่อยก็นั่งสบายดี เจ้าหญิงเคยนั่ง เอานะ” ฉันถามอย่างกังวล แต่ในนาทีนั้น ฉันไม่มีทางเลือก เสียงบก. ชาลีพูดมาตามสาย “ได้เลย กลับรถทัวร์ 32 ที่นั่ง โอเคเลย” และนี่คือ รถที่พวกเรานั่งกลับมาจากตรัง ในทริปปลูกหญ้าให้พะยูน ปี 2 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2558 สำหรับการแหวกเลตรัง ปลูกหญ้าให้พะยูน ปี 3 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 9-12 ธันวาคม 2559 ฉันจึงคิดว่า..การเดินทางจะเดินทางโดยรถไฟอีกครั้ง เพราะเพื่อนๆ จะได้นอนหลับบนรถไฟ สะดวกสบายดีด้วยประการทั้งปวง แต่ทว่า..เหตุการณ์จะราบรื่นสะดวกพหลโยธินหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ... |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |