*/
<< | ธันวาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ภูกระดึง 5 งาม...กระดั๊กกระด้อ 27 พฤศจิกายน 2553 วันเสาร์ วันนี้ตามความเดิมตอนที่แล้ว คือวันที่เราเดินกันเยอะที่สุด เดินกันยาว ๆ มาก ๆ เดินหลง เดินงงกันในป่าในเขา กางเกงขาดเป็นวงกว้าง ความจริงกางเกงขาดขนาดนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการใส่กางเกงในเดินหรอกนะครับ ตอนนี้คงจะทิ้งไปแล้ว ที่บ้านเอามาซักแล้วก็งงว่าไปทำอะไรมา กางเกงขาดขนาดนี้ ในป่าวันนั้นเราก็เดินกันเป็นกลุ่ม ๆ พี่ชาลี พี่ไก่ น้องแจน พร สิงห์มือซ้าย คุณวันศุกร์ กุ้งกุลาดำ เอ้ย กุ้งกุหลาบและผม กลุ่มนี้เหลือเพียงเท่านี้ ตอนออกสตาร์ทมานั้นราว 20 กว่าคน ไม่รู้ละครับว่าไปไหนกันหมด ไปกันคนละทิศละทาง ตอนออกมาผมก็เห็นปรึกษากันดีนะครับ แต่มากลางทางเหลือกันอยู่เท่านี้เอง คราวนี้จึงได้ประจักษ์ว่า มีทางแยกกันมากมาย แต่มีคนเลือกเดินทางสายกลางด้วย เนื่องจากว่ากลุ่มนี้นับได้ว่าเป็นกลุ่มที่ต้องรักษาความสุภาพในการเจรจาเข้าไว้เป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่กลุ่มปากคอเห็ดหักเหมือนกลุ่มเพื่อน ๆ ของผม ไปทางไหนหมาป่ากระเจิง ทีนี้ผมก็ต้องสงวนปากสงวนคำเป็นอย่างยิ่ง แม้จะคันปากยิก ๆ อยากจะพูดบางคำออกมา แต่กลัวคุณนายไก่ รับไม่ได้ ก็เลยต้องถนอมน้ำใจไว้ก่อน ถ้าพูดเกินไป เดี๋ยวพี่ไก่ถีบลงห้วยไป ไม่มีใครช่วยอีก ครอบครัวที่ชาลีมีสมาชิกเกือบครบ ผมก็ได้ยินพี่ไก่บอกให้พี่ชาลีไปเก็บภาพตรงโน้นตรงนี้อยู่เนือง ๆ มีลูกไม้ชนิดหนึ่งสีน้ำเงิน ลูกเล็กมาก พี่ไก่จึงบอกกับพี่ชาลีว่า พ่อ อย่าลืมมาถ่ายรูป ลูกตรงนี้ด้วยนะ ตรงไหนละแม่ นั่นแหละ ที่คุณหนุ่ยยืนอยู่ตรงนั้น พอพี่ชาลีเดินมาถึง ก็เห็นลูกไม้ป่าอันเล็กนิดเดียวจึงเอ่ยขึ้นว่า แม่ ลูกเล็กนิดเดียวเอง ถ่ายยากจัง ผมก็ประเภททะลึ่งอยู่แล้ว จึงนึกในใจว่า เอ ทำไมพี่ชาลีพูดไม่สุภาพ พูดออกมาได้ไง แม่-ง ลูกเล็กนิดเดียว...ฯ จ๊าก เขาไม่ได้พูด นี่เราอุตริ คิดไปเอง แต่คิดแล้วออกทางปากไง นี่แหละ แม้ไม่ได้เกิดปีจอ แต่ก็มีสัตว์ประจำกาย ก็เฮฮากันไป หลังจากกางเกงขาดแบบไม่มีชิ้นดีแล้ว ผมก็ไม่อยากเดินไปไหนไกล อยากกลับเต้นท์ท่าเดียว แต่เกิดการสื่อสารกันผิดพลาด เพราะกลุ่มของคุณน้องพร ที่โด่งดังมาจากเพลง รักน้องพร นั้น ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันยังมีคนรักอยู่หรือเปล่า เดินล่วงหน้าไปกับพี่วันศุกร์ และน้องแจนแล้ว เมื่อเราเดินโผล่พ้นป่าน้ำตกขึ้นมาที่ป่าสน ก็เจอทางแยก ทางหนึ่งไปผาหล่มสัก ทางหนึ่งไปศูนย์ฯวังกวาง เอาละสิ แล้วจะรู้ไหมว่ากลุ่มสาว ๆ ไปทางไหน ถ้าจะให้ผมไปตามทางหล่มสัก ผมก็ขอ ซาโยนาระ ดีกว่า เพราะดูตามแผนที่แล้วต้องเดินอีกกว่า 8-9 กิโลเมตร เลยตัดสินใจเดินกลับแค้มป์ดีกว่า สุดท้ายเราก็ติดต่อกันได้ และมาเจอกันที่ร้านส้มตำ กลุ่มของผู้สูงวัยและไม่สูงวัยบางส่วน ก็ทำหน้าที่เฝ้าเต้นท์ อันได้แก่พี่มะอึก พี่มะยง อาจารย์สิริปตี ส่วนอาจารย์อังศนา กับพี่สุภาวรรณนั้น อาศัยเอากล้องไปส่องนกแถว ๆ นั้น พี่อัง ขึ้นชื่อว่ากลัวและเกลียดทากเป็นที่สุด เมื่อกลับมาเจอกันพี่อังก็บอกว่า เจอทาก 3 ตัว และสู้กันอย่างสุดฤทธิ์สุดเหวี่ยง จนสามารถหลุดออกจากดงทากนั้นได้ แต่ว่าพี่อังครับ ทากมันตัวเล็กนิดเดียวเอง กลุ่มของท่านนุ ก็ใช้เครื่องทุ่นแรงเหมือนผมเมื่อวาน ที่ไม่ต้องเมื่อยขา แต่เจ็บก้นแทน และกลับมาด้วยความสะบักสะบอม บ่นอุบเลยว่าจักรยานไม่ดี ปั่นจนเหนื่อย และขึ้นเนินก็ไม่ไหว เจอทรายก็ต้องเดิน ขอบอกไว้เลยว่า ทางจักรยานบนภูกระดึงนั้น ไม่ได้ราบเรียบอย่างที่ฝัน แต่มันโรยด้วยรากไม้และลูกรัง บางช่วงเป็นทรายล้วน ๆ บางช่วงเป็นดินก้อน ที่มีร่องรอยการปรับผิวถนนไหม่ แต่คิดดูเอาเองเถิดครับ บนภูเยี่ยงนี้ ใครจะเอารถบดถนนมาจากไหน พอเอาดินมาถมก็ปล่อยให้มันตะปุ่มตะป่ำอย่างนั้น ก็เลือกกันเอาเองว่า จะยอมเมื่อยขา หรือเจ็บตูด กลางคืนหลังจากเรารอกลุ่มพี่เต็งพ้ง ที่เลือกทางเดินของตนเอง ความจริงจะภูมิใจที่ได้เดินไกลดีกว่าที่จะบอกหลงเดินมาตั้งไกล เนื่องจากกลุ่มนี้มีเด็ก ๆ น้องภีม และน้องคีนไปด้วย ถือว่ายอดเยี่ยม ที่สุด กลับมาถึง 2 ทุ่ม เป็นห่วงกันแทบแย่ คืนนี้เรามีงานเสวนากับท่านหัวหน้าอุทยาน เรื่องหลากหลายที่ชาวเราช่างสรรหามาจากที่เขาล่ำลือกันต่าง ๆ นานา วันนี้จะมาค้นหาความจริงกัน เช่นเรื่อง - ค่าเช่าอุปกรณ์ที่แพงขึ้น ได้รับคำตอบว่า จำเป็นต้องปรับให้สมกับค่าแรงในการจ้างคนทำความสะอาด ซัก ตาก และดูแลอุปกรณ์ - การห้ามนำเครื่องหุงต้มขึ้นมา เหตุผลคือ อาจทำให้เกิดเปลวเพลิง ที่ทำให้ไฟ้ไม้เต้นท์มาแล้ว หากจะต้มน้ำ เพื่อชงกาแฟ หรืออย่างอื่น ให้ไปขอที่ร้านค้า - การสัมปทานเช่าร้านขายของ ขายอาหาร คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับกรมฯ เขาจัดการ - การเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม คำตอบ เป็นการปรับราคาให้เหมาะสม ซึ่งไม่ได้ปรับมานานแล้ว - การจัดการเรื่องขยะ คำตอบ มีการส่งเสริมให้ร้านค้าได้แยกขยะอย่างชัดเจน เช่นขยะเปียกขยะแห้ง และมีวิธีจัดการอย่างเข้มงวด การกำหนดน้ำหนักของขยะให้นำกลับลงไป และการติดตั้งเตาเผาขยะบนภูกระดึง - สุดท้ายเป็นเรื่องการสร้างกระเช้า คำตอบยืดยาว คือทางอุทยานไม่สามารถตอบได้ว่า จะรับหรือไม่รับ ความจริงไม่อาจปฏิเสธได้ แต่อุทยานพยายามทำในสิ่งที่เคยมีคนอ้างว่าเหตุที่ต้องสร้างเพราะต้องการจัดการกับขยะ แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการหยิบเอาเรื่องกระเช้ามาเริ่มเป็นโครงการใหม่ แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่า จะไม่มีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง เพราะในอนาคตไม่มีใครรับรู้ได้ ตอนนี้แม้เรื่องยังเงียบอยู่ การสร้างกระเช้านั้น อาจจะต้องใช้พื้นที่ด้านล่าง จำนวนหลายร้อยไร่ เพื่อพัฒนาเป็นที่จอดรถ ร้านอาหารและแหล่งพักพิงต่าง ๆ ความเจริญเหล่านี้จะตามมาแน่นอน อีกทั้งพื้นที่ด้านบนภูกระดึงก็จะถูกปรับให้มีความสะดวกมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางเดิน การรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เสน่ห์แห่งการท่องเที่ยวแบบศึกาธรรมชาติย่อมเลือนลางหายไปอย่างแน่นอน จะเหลือเพียงการท่องเที่ยวแบบ กระป๋อง เหมือนปลากระป๋องที่เราจะเปิดกินเมื่อไหร่ก็ได้ ใครมาภูกระดึงก็แค่ขับรถมาจอด ขึ้นกระเช้า แล้วมาถ่ายรูปที่ผาหล่มสัก คงจะมีเพียงเท่านั้น - ไม่มีใครได้รับรู้และซาบซึ้งในความเป็นในระหว่างการเดินทางและใช้ชีวิตอยู่บนภู - ไม่มีใครได้บันทึกความทรงจำอันงดงามแห่งความยากลำบากบนเส้นทางนี้ - ไม่มีใครได้แสดงน้ำใจ และได้เห็นว่าใครมีจิตใจอย่างไรในยามยาก - ไม่มีใครได้มิตรภาพแห่งการเดินทาง - ไม่มีใครได้มีส่วนสร้างความทรงจำร่วมกัน ต่างคนต่างไป จบแค่นั้น - ไม่มีใครได้ศึกษาตัวตนของตัวเอง และผู้อื่น ในระหว่างที่เราต้องใช้สติเพื่อมุมานะในการเดินทาง - ไม่มีใครได้เห็นค่าสิ่งที่แฝงอยู่ระหว่างความทุกข์ยากของการเดินทาง กับความงดงามที่อยู่เบื้องบนภู - ไม่มีใครได้รับรู้และเห็นในสิ่งที่ธรรมชาติอยากให้เข้าใจ แม้แต่มวลมนุษย์ด้วยกันเอง ที่ยังขัดแย้งกัน - ฯลฯ ดึกดื่นคืนนั้น ผมนอนเกือบเที่ยงคืน และป็นค่ำคืนที่ต้องหลับไหลไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยอีกครั้ง ทั้งที่เมื่อเย็นยังต้องไปดูตะวันตกที่ผาหมากดูก ถ่ายภาพได้มาบ้าง รุ่งขึ้นต้องไปดูตะวันขึ้นที่ผานกแอ่นอีก ซึ่งจะต้องตื่นตอน ตีสี่กว่า ๆ ทำไมต้องตื่นเช้าขนาดนั้น คือผมต้องเก็บเต้นท์ จากการนัดหมายที่จะต้องเคลียร์ของให้เสร็จภายใน 7.30 น. ถ้าผมไปดูตะวันก็คงจะกลับมาไม่ทัน เต้นท์ที่ผมนอนนั้น เป็นเต้นท์ของพี่อังศนา ต้องขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณาให้ผมได้ซุกหัวนอน ส่วนพี่อังนั้น ต้องไปนอนกับคนอื่น ผมตื่นขึ้นมาเก็บเต้นท์ได้ครึ่งเดียว เพราะเขานัดกันตี 5 แล้วผมกลัวไม่ทัน เลยล้มเต้นท์ไว้ ส่วนข้าวของเก็บบ้างแล้ว และรีบเดินไปกับกลุ่มนักชมตะวัน เจ้าหน้าที่นำทางเราไป เดินไวดีจริง ๆ ความเร็วใช้ได้เลยทีเดียว ระยะทาง 2 กม. กว่า ๆ ที่จะไปถึงผานกแอ่น ไปนั่นแอ่นกันแต่เช้ามืด เอ้ย นั่งรอกันแต่ยังไม่หกโมงเช้า หนาวก็หนาว ลมก็เย็น เช้านี้กลุ่มวัยรุ่นเยอะมาก สาว ๆ น่ารักกันทั้งนั้น ตอนเดินมานั้นไม่สามารถมองเห็นหน้าใครได้ เพราะมันมืด แต่นั่งรองดูพระอาทิตย์ขึ้นกลุ่มหนุ่มสาวก็มากันเต็มหน้าผา มีสาวงามกระดั๊กกระด้อกันเต็มภูกระดึง ภาษาลาวแปลว่า สาวงามที่สุด ตรงกับภาษาสิบสองปันนาว่า อีนางตัวดี วันนี้ก็เลยรับลมหนาวไปด้วย ชมเงาสาว ๆ กันไป ที่นั่งข้าง ๆ ก็ไม่รู้คุยอะไรกันนักกันหนา ถ่ายรูปจนเสียสมาธิหมด ก็ได้ภาพมาอย่างที่เห็นแหละครับ วันนี้นึกว่าพระอาทิตย์จะไม่โผล่ซะแล้ว เสียงน้อง ๆ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บ่นกับเพื่อน ๆ ว่า เขาจะมาไหมอ่ะ... ผมก็อยากจะตอบไปว่า จะไปรู้กะแกหรือ ..ฉันก็เดินมาพร้อมกะแกนี่แหละ นั่งเฝ้าลมหนาวกันอยู่นี่ ดีนะที่วันนี้กางเกงไม่ขาด มิฉะนั้นเย็นเป้าน่าดู นึกถึงเพลง "ลมโชยมา...พาใจป่วนปั่น..." เป็นยิ่งนัก ในกลุ่มของเรานั้นจะหาสาวงามกระดั๊กกระด้อก็ยากนัก เนื่องจากระทมระทวยกันไปหมด เรื่องที่เกี่ยวข้อง บล๊อกเพื่อนบ้าน....สำหรับเรื่องราวเดียวกัน ภูกระดึงเดินเองได้ บ่เอากระเช้า แต่เมื่อยหลาย (Nupong26) เรื่องแนะนำ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |