ทักษิโนมิกส์หรือระบอบทักษิณ  บริหารแบบยึดครองประเทศมาตั้งแต่ปี๒๕๔๔ มาถึงทุกวันนี้  หากถามว่าวันนี้ระบอบนี้สลายหมดไปหรือยัง?  คำตอบง่ายๆหาได้ไม่ยากเพราะระบอบนี้ยังมีอยู่  มันฝังรากลึกลึกจนเกินประมาณ  ข้าราชการทั้งการเมืองและข้าราชการประจำ  ปัจจุบันกลายเป็นข้าราชการการเมืองไปหมดแล้วเพราะน้ำมือระบอบนี้  ข้าราชการประจำจะทำงานก็เพื่อสนองการเมืองเท่านั้น  ไม่ได้ทำงานโดยจรรยาบรรณคือให้บริการประชาชน  ทำงานต่างพระเนตรพระกัณฑ์ให้สมกับที่เป็นข้าราชการ  จุดเปลี่ยนมันเกิดตั้งแต่ประเทศไทยมีนายกฯชื่อทักษิณ ชินวัตร  การคุมเกมในงานระบอบบริหารราชการทักษิณทำได้เนียนมาก  มีผลโดยตรงกับข้าราชการที่ตั้งใจทำงานแต่ไม่ยอมสยบให้กับทักษิณ  ก็ต้องยอมแพ้กับความอันธพาลของระบอบนี้  ถ้าคนใดยอมทำตามในสิ่งที่ทักษิณปรารถนาคนนั้นก็เจริญในอาชีพ  เรียกว่าใครยอมข้าฯอยู่ใครขวางข้าฯตาย  จนเกิดเป็นนิสัยชินชาให้ระบอบนี้แผ่กระจายมากขึ้น  จนเป็นที่ยอมรับของบุคคลบางกลุ่มว่า “เค๊าโกงบ้านโกงเมืองไม่ว่า แต่ขอให้เราได้มั่งเป็นพอ”  ทักษิณจึงยึดกุมอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งข้าราชการประจำรวมถึงพรรคการเมืองต่างๆด้วย  ที่ยอมให้เขาชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้มาตลอดระยะหลายปี  นี่ไม่รวมกลุ่มคนชั้นล่างที่ถูกเรียกว่า “รากหญ้า”  ก็ต้องยอมสยบให้เพราะโครงการ “ประชานิยม”ลดแลกแจกแถมกันไม่อั้น  เขาจึงเป็นหนึ่งในดวงใจเป็นวีรบุรุษของคนกลุ่มนี้  ในทางตรงกันข้ามหากไม่เห็นด้วย  ก็จะถูกบีบบังคับลิดรอนสิทธิในหลายๆเรื่อง  สร้างก๊วนสร้างแก๊งค์อันธพาลทางการเมือง  โดยมากมีนักการเมืองในปกครองของทักษิณหนุนหลังอยู่  บางรายไม่เห็นด้วยจึงต้องเจอกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา  จนสุดท้ายต้องยอมตกเป็นเบี้ยล่างของระบอบนี้  นี่เหมือนเป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู”  ลิงตัวไหนไม่ยอมก็จะต้องเป็นเหมือนไก่ที่ถูกเชือดเช่นนั้น  ปัจจุบันแม้ทักษิณจะต้องพบกับวิบากกรรมที่เขาก่อไว้  เมื่อเดือนกันยายนปี๔๙เขาถูกทำรัฐประหารต้องหนีออกนอกประเทศ  หลังจากที่เขาพยายามให้ระบอบของเขาทำงาน  เขาก็สามารถกลับมาได้เพราะพรรคพลังประชาชน  ซึ่งเป็นนอมินีร่างทรงได้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ  แต่กลับต้องหนีออกนอกประเทศอีกครั้งเพราะกลัวถูกจำคุก  หลังจากรู้ตัวว่ายังไงเสียศาลอาญาแผนกคดีอาญานักการเมืองพิพากษาในคดีทุจริตในหน้าที่  ซึ่งเขารู้อยู่เต็มอกว่าผิดเต็มๆ  ต้องระเหเร่ร่อนไม่มีที่ซุกหัวนอน  เงินทองที่มีอยู่เงินทองที่โกงประเทศมาได้  ก็เริ่มจะร่อยหรอลงทุกทีเพราะต้องอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อการหนีตายของตัวเอง  อัดฉีดลิ่วล้อให้ทำหน้าที่ป่วนบ้านกวนเมือง  อัดฉีดนักการเมืองในพรรคต่างๆมิให้แตกแยก  และเป็นฐานให้เขากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง  ทำทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่ประเทศเลย  เพราะเขาเชื่อว่าระบอบของเขายังคงใช้ได้กับพวกขี้ข้าพวกนี้  ดังนั้นระบอบทักษิณจึงยังคงอยู่และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  ยังไม่รวมข้าราชการประจำที่คอยแต่สนองตัณหานักการเมือง  ซึ่งมีอยู่อีกมากที่เราได้เห็นพฤติกรรมผ่านสื่อต่างๆเกือบทุกวัน  แต่คงไม่ออกหน้าออกตาเหมือนสมัยทักษิณเป็นนายกฯ

          มาวันนี้วันที่การเมืองเปลี่ยนขั้วสลับสายน้ำ  กลายเป็นพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกสบประมาทจากทักษิณว่า “รออีก๒๐ปีก็คงไม่ได้เป็นรัฐบาล”  และเป็นพรรคที่ขับเคี่ยวประลองกำลังกับทักษิณมาตลอด๗-๘ปี  หากจะเป็นรัฐบาลบริหารประเทศด้วยความราบเรียบไม่สะดุดกลางคัน  ต้องแสดงผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้  ในกรณีความวุ่นวายในประเทศก็เหมือนกัน  ตอนนี้ยังเหลือแต่คนกลุ่มนึงที่ยังคงท้าทายอำนาจรัฐ  กลุ่มนี้มีนักการเมืองรวมถึงข้าราชการในระบอบทักษิณคอยหนุนหลังอยู่  ปฏิบัติการท้าทายอำนาจกฎหมายมานาน  แต่ดูเหมือนไม่มีบทลงโทษจากกฎหมายให้พวกเขาเข็ดหลาบเลยกลับเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกๆวัน  กระบวนการทางกฎหมายจะดำเนินไปได้อย่างไร?  ในเมื่อตำรวจซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเป็นซะเอง  ความวุ่นวายต่างๆสร้างความเดือดร้อนให้คนทั้งประเทศทั้งที่เสียชีวิตพิกลพิการรวมทั้งความเสียหายทางทรัพย์สิน  และทุกครั้งก็มีหลักฐานพยานบุคคลดำเนินการตามกฎหมายได้อยู่แล้ว  อย่ามัวเชื่องช้าในการแก้ปัญหาเพราะใกล้การประชุมอาเซียนซัมมิตเข้าไปทุกที  หรือจะปล่อยให้ความวุ่นวายเกิดขึ้นจนไม่มีทีท่าว่าจะจบลงอย่างนั้น  ปล่อยให้นักโทษหนีอาญาและคุมเกมอย่างนายทักษิณอยู่เบื้องหลังคนพวกนี้  ถึงเวลาใช้กฎหมายกับกลุ่มคนพวกนี้หรือยัง?  ถึงเวลาที่อภิสิทธิ์ “เชือดไก่ให้ลิงดู”แล้วหรือยัง?  ไม่มีใครว่าคุณหรอกเพราะว่าไก่และลิงมันทำผิดกฎหมายเอง  อย่าปล่อยให้ทั้งลิงและไก่มันดูถูกได้ว่าคุณมีภาวะผู้นำต่ำ  โดยเฉพาะลิงที่อยู่ต่างประเทศถ้าคุณเชือดได้ก็รีบเชือด  บริวารในระบอบอย่างพวกไก่ทั้งหลายจะได้เลิกวุ่นวาย  ไม่ว่าคุณจะ “เชือดไก่ให้ลิงดู”หรือ “เชือดลิงให้ไก่ดู”คุณก็สามารถทำได้ด้วยอำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ  แต่มันขึ้นอยู่กับว่า “คุณอภิสิทธิ์..คุณกล้าพอหรือไม่?” เท่านั้นเอง.