*/
<< | มกราคม 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
คดีล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มีนายตำรวจตกเป็นผู้ต้องหา แต่ในชั้นตำรวจ พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องนายตำรวจ และสั่งฟ้องเพียง 8 คน ทำให้ทีมงาน OK Nature ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มกราคม เป้าหมายเพื่อไปให้กำลังใจ หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” เพราะรู้สึกว่า หัวหน้ากำลังสู้อยู่คนเดียว และไม่อยากให้คดีนี้ต้องเงียบหายไป “ ไม่หรอกครับ ผู้ใหญ่ในกรมก็สอบถามมา ให้กำลังใจ และคงต้องตั้งนิติกรมาช่วยทำ ที่เหมือนกรมเงียบๆ คงเพราะมั่นใจว่าผมยังรับมือได้ และ ท่านจรัมพร (พล.ต..ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร.) ประสานงาน เข้าตรวจสอบพื้นที่ จุดที่มีการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว ” คือสิ่งที่ หน.ชัยวัฒน์ อัพเดทความคืบหน้าของคดีล่าสัตว์ป่า ซึ่งเป็นที่กังขานี้ !!! . . และไหนๆก็ได้พบกันแล้ว ทีมงาน OK Nature ก็เลยถือโอกาสพูดคุย แม้จะไม่อาจเรียกว่าเจาะลึก แต่ก็เข้าข่าย เปิดใจ ในประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับ หน.อช.แก่งกระจานคนนี้ ... ที่ชื่อ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” เป็นที่รู้จักกันในข่าวเหตุการณ์กู้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ที่ตกกลางป่าแก่งกระจาน ที่ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นข่าวทุกวัน จนได้ภาพเป็น “ฮีโร่” จากความตั้งใจที่จะนำผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด ออกมาจากป่าศักดิ์สิทธิ์ ส่งกลับบ้านได้ ให้ครบทุกคน “ ผมก็คิดนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น จากจุดสูงสุดที่เป็นฮีโร่ตอนนั้น แล้วก็ตกๆๆๆๆ มีสถานะเป็นผู้ต้องหา มีคดีติดตัว ” คดีเผานั่งยางช้างป่า ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตกเป็นผู้ต้องหาซะเอง แม้ หน.ชัยวัฒน์ จะไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาโดยตรง แต่ลูกน้อง หรือ ผู้ช่วยหัวหน้าตกเป็นผู้ต้องหา ยิงช้างและเผาทำลายหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งกรมกอง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อมัดตัวผู้กระทำผิด หน.ชัยวัฒน์ เปรียบเทียบ คดีล่าสัตว์ กับคดีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตกเป็นผู้ต้องหายิงช้าง อย่างออกอาการน้อยใจ ว่าทำไม? คดีล่าสัตว์ ไม่ทำกันให้ละเอียดแบบนี้บ้าง กลับมาหักล้างหลักฐานที่ส่งให้ด้วยการอ้างภาพถ่ายที่ส่งไปไม่มีวันที่ ทั้งๆที่คนทั่วไปก็รู้ว่าจะแสดงวันที่ของไฟล์ได้เพียงแค่คลิ๊กเม้าท์คอมพิวเตอร์ “ ตำรวจ จะช่วยตำรวจ ผมไม่ว่าหรอกครับ เพราะเข้าใจวิธีการดี แต่ขอให้ตอบสังคมได้ พิรุธของผมที่ไม่แจ้งความนายตำรวจตั้งแต่แรก แต่แจ้ง 8 คน ลักลอบเข้าพื้นที่ป่า เพราะผมไม่มีหลักฐาน แต่เมื่อผมได้หลักฐานภาพถ่าย ซึ่งก็เป็นภาพจากล้องผู้ต้องหาเอง จึงแจ้งความเพิ่ม และข้อหาลักลอบล่าสัตว์ป่าเพิ่มทั้ง 9 คน มันก็อยู่ในกระบวนการ แม้จะคนละวัน” แม้คดีนี้ หน.ชัยวัฒน์ จะไม่ตอบว่า ผช.ยิงช้างจริงหรือไม่ เพราะรายละเอียดคดีอยู่ในสำนวนคดีหมดแล้ว แต่ หน.ชัยวัฒน์บอกว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ใช้คำเรียก “พี่ใหญ่” กับช้างทุกตัว และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกคนสะเทือนใจทุกครั้ง ถ้าจะมีการแจ้งหัวหน้าว่า ... “พี่ใหญ่ของเราโดนอีกแล้ว” ... นั่นหมายถึงการพบศพช้างป่าถูกฆ่า หลายต่อหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตกเป็นผู้ต้องหาจากการปฏิบัติหน้าที่ จากการถูกย้อนรอย ย้อนเกล็ด เพราะพบผู้เข้ามากระทำผิดเป็นผู้มี “ตำแหน่ง” “ เขาย้อนรอยเราได้ทุกครั้งแหละ ด้วยการแจ้งความกลับว่า พวกเราคือผู้กระทำผิดซะเอง ลูกน้องผมติดคดีกันอยู่หลายคน บางคดีจากการวิสามัญผู้กระทำผิด ก็ถูกกล่าวหาจากพวกพิทักษ์สิทธ์ทั้งหลายว่าเราทำเกินกว่าเหตุ ” หน.ชัยวัฒน์ ตกเป็นผู้ต้องหาเต็มๆ ก็คือถูกออกหมายจับในข้อหาเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในคดีลอบสังหาร นายทัศน์กมล โอบอ้อม หรือ อาจารย์ป๊อด NGO ที่เคลื่อนไหวกรณีกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี … “ คดีนี้ศาลนัดและคิดว่าจะสิ้นสุดในเดือนเมษายน ถ้าศาลตัดสินผมผิด ก็คงต้องออกจากราชการก่อน และต่อสู้ตามกระบวนการอุทธรณ์กันต่อไป ” หน.ชัยวัฒน์ ยอมรับว่ามีความขัดแย้งกับ อ.ป๊อด โดยเคยสั่งห้าม อ.ป๊อด เข้าพื้นที่ อช.แก่งกระจาน รายละเอียดความขัดแย้งมีมานานเป็นสิบปี ตั้งแต่ก่อนจะมาเป็น หน.แก่งกระจานซะอีก แต่เพื่อความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตที่เขาลุกขึ้นมาแย้งไม่ได้ จึงขอที่จะไม่เล่าให้ฟัง !!! เขาถูกนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมร้องเรียน และตั้งข้อสงสัย กรณีบ้านพักในจังหวัดเพชรบุรี ที่ก่อสร้างและตกแต่งด้วยไม้สัก ไม้มะค่า และไม้หายาก ... “ ผมเปิดบ้านพักหลังนี้ และเชิญทั้งสื่อ บุคคลที่รู้จัก เพื่อนพ้อง ฉลองวันแรกที่รับตำแหน่ง หน.แก่งกระจาน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าผมมีอะไรบ้าง ไม้สัก และไม้พะยูง ในพื้นที่เพชรบุรีไม่มีไม้พวกนี้ ถ้าจะมีก็คือไม้มะค่า ที่หาได้ในเพชรบุรี และทั้งบ้านก็มีส่วนที่เป็นไม้มะค่าอยู่ชิ้นเดียว ที่เหลือเป็นไม้เก่า แต่ไม้ทั้งหมดซื้อมาถูกต้องจาก ออป. ถ้าถามว่าเป็นข้าราชการป่าไม้ เงินเดือนเล็กน้อย เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ต้องถามกลับว่า ผมไม่มีครอบครัวเหรอ เมียผมไม่มีเงินหรือ และผมทำงานมา ผมไม่มีเงินเก็บหรือ” เป็นคำตอบที่ไม่ตอบคำถาม แต่ก็น่าคิดตามได้ !!! ข้อกล่าวหาที่หนักหนาสาหัส ขนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าเผาบ้านพักและไล่ที่กลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง กระหร่าง ชุมชน “โป่งลึก บางกลอย” ในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน “ ผมเผาจริงครับ แต่ไม่ได้เผาบ้านในชุมชน แต่จุดที่เผาคือเพิงพักของชาติพันธุ์ ที่เข้ามาลักลอบทำนาแซมไร่กัญชา ตามแนวขอบชายแดน และในวันที่เข้าไปเผา ก็ไม่มีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ เพราะพวกเขาหนีข้ามฝั่งพม่ากันไปหมด เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่อยู่รอให้ใครจับ และเมื่อจับใครไม่ได้ ผมก็คงแจ้งความจับคนทำผิดไม่ได้ เพราะไม่มีตัวบุคคลให้แจ้งจับดำเนินคดี ” ชุมชนโป่งลึกบางกลอย เป็นชุมชนชาติพันธุ์กระเหรี่ยง ที่ อช.แก่งกระจาน / องค์กรปกครองท้องถิ่น / ชุมชน และ โครงการปิดทองหลังพระ มีแนวคิดที่จะพัฒนาจัดการให้เป็นอีก 1 ชุมชนเข้มแข็ง ส่งเสริมวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ด้านดี งดงาม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิต เพื่อที่ชุมชนมีรายได้ จะได้ไม่ต้องล่าสัตว์ ตัดไม้ หรือ ลักลอบปลูกสิ่งเสพติด ซึ่งแม้เหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตมาตั้งแต่อดีตกาลโบราณ แต่ยุคสมัยปัจจุบันเปลี่ยนไป วัฒนธรรมเชิงลบควรถูกจำกัด ด้วยการให้ความรู้ และส่งเสริมสิ่งดีงามให้ . . . . . . . . ปัญหาใหญ่ในการอยู่กับป่าของชาวกระเหรี่ยง กระหร่างก็คือการล่าสัตว์ ทุกครั้งที่มีการจับล่าสัตว์ได้ มักมีกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้เป็นผู้ต้องหาด้วยทุกครั้ง เพราะชาติพันธุ์เหล่านี้มีความรู้ ความชำนาญ วิถีชีวิตล่าสัตว์เป็นอาหารแต่ดั่งเดิม เปลี่ยนไป เมื่อมี “ทุน” มาสู่พวกเขา ถูกว่าจ้าง เพราะมีความต้องการ ทั้งล่าเพื่ออวัยวะ ทั้งล่าเพื่อธุรกิจการเปิบพิศดาร ขณะที่สถานการณ์ล่าสัตว์ป่าเพื่อการณ์เหล่านี้ยังหนักหน่วง ก็กลับมีรูปแบบและรสนิยมการล่า เพื่อความสนุกสนาน เพื่อการพักผ่อน หรือแม้แต่ทดลองอาวุธปืน เพิ่มขึ้นมาอีก “ กลุ่มที่เราจับได้ ก็จัดว่าเป็นกลุ่มล่าเพื่อความสนุกสนาน และก็เป็นกลุ่มล่าที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งก่อนหน้าจับกุมกลุ่มที่เป็นข่าวนี้ ก็มีคดี และยังถือได้ว่าใหญ่กว่ากลุ่มนี้ด้วย มีการแจ้งความดำเนินคดีกันไปแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยละกันว่าผู้ต้องหาเป็นใคร เพราะ มันใหญ่มาก ” .. ไม่รู้หัวหน้ามุกหรือป่าว แต่ ก็ทำให้การสนทนา มีเสียงหัวเราะแทรกขึ้นได้ ในเรื่องแสนเครียด .. อย่างที่บอกว่าเป้าหมายในการไปหา หน.ชัยวัฒน์ ของทีมงาน OK Nature เพื่อต้องการให้กำลังใจในการต่อสู้คดีล่าสัตว์ที่มีการสั่งฟ้อง และไม่ฟ้องบางราย เพื่อให้คนทำงานได้รู้ว่า เรื่องนี้มีเราตามอยู่ และ เขาไม่ได้สู้ลำพัง ส่วนข้อมูลจากการพูดคุย สามารถใช้วิจารณาญาณในการเชื่อ หรือจะไม่เชื่อ / เชื่อบางส่วน ไม่เชื่อบางส่วน / เชื่อทั้งหมด หรือไม่เชื่อทั้งหมด แล้วแต่ดุลยพินิจ เพราะมันคือข้อมูลที่อาจไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด หรือ เรื่องจริงบางส่วน แต่งเติม เพื่อให้ได้คำตอบที่ดูดีบางส่วน แต่ที่แน่ๆ ที่ได้สัมผัส “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” จากการพูดคุย .. คนคนนี้ ตอบ โดยมองตาคู่สนทนาในทุกคำถาม !!! .
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |