นิทรรศการ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" เริ่มเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา 15.30 น. ก่อนกำหนดเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นประธานพิธีเปิด โดยมีนายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์และประสานงานการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน

                          นิทรรศการ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" แบ่งเป็น 12 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 ตามรอย พระบาทแก้วกัลยา, โซนที่ 2 สมพระเกียรติยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ, โซนที่ 3 กัลยาณิวัฒนาแห่งราชสกุลมหิดล, โซนที่ 4 สมเด็จเจ้าฟ้าในใจประชา, โซนที่ 5 พระอุปถัมภ์ ค้ำจุนประชา, โซนที่ 6 องค์อุทิศ เพื่อปวงชน, โซนที่ 7 พระโกศจันทน์, โซนที่ 8 ราชรถน้อย, โซนที่ 9 ริ้วขบวนพระอิสริยยศ, โซนที่ 10 พระเมรุ, โซนที่ 11 มูลนิธิในพระอุปถัมภ์ และ โซนที่ 12 ส่วนจำหน่ายของที่ระลึก

                     นับว่าเป็นโชคดีของผมที่ได้มีโอกาส ไปทำข่าวการเปิดนิทรรศการ โดยการหน้านั้นระหว่างที่มีการจัดสร้างพระเมรุ จนกระทั่งงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ เสร็จสิ้นลง ผมไม่มีโอกาสเข้าไปในพื้นที่มณฑลพิธีเลย ได้แต่ดูรูปพระเมรุจากที่ช่างภาพหลายๆ ท่านถ่ายเอาไว้แล้วนำออกมาแบ่งปันชาว OKNATION ได้ดูกัน ผมได้แต่คิดอยู่เสมอว่าต้องหาโอกาสไปถ่ายรูปพระเมรุเก็บเอาไว้ และตั้งใจว่าจะไปถ่ายรูปในวันที่เปิดให้เข้าชม แต่ว่าครั้งนี้ผมได้้เข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 18 ได้ชื่นชมความงดงามของพระเมรุแบบใกล้ชิดและเก็บภาพมุมต่างๆ ของพระเมรุ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเรื่อยไปจนหลังเปิดงานอย่างเป็นทางการ

                      ในส่วนของนิทรรศการฯ ผมถ่ายรูปมาเพียงบางส่วน ส่วนที่สำคัญก็คือ โซนที่ 1 ตามรอยพระบาทแก้วกัลยา ซึ่งตั้งแสดงอยู่บริเวณทับเกษตร เป็นส่วนที่จัดแสดงภาพเขียน จำนวน 84 ภาพ ตามพระชนมายุ ซึ่งศิลปินร่วมสมัยสาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรมจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 84 คน ได้แสดงความจำนงขอมีส่วนร่วมในงานสร้างสรรค์งานศิลป์พระประวัติ และพระกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผมถ่ายรูปภาพเขียนขนาดใหญ่พิเศษ จำนวน 4 ภาพ คือ ทรงพระเยาว์, ทรงกรมฯ, พระกรณียกิจ, ภาพพระชันษาสูง เรียงตามลำดับ

                        แต่ที่ประทับใจที่สุดก็คือ ความงดงามวิจิตรตระกาลตาของพระเมรุ ที่ไม่คิดฝันว่าจะได้เข้าไปถ่ายรูปในขณะที่ยังไม่มีผู้คนเดินกันขวักไขว่ ทุกมุมล้วนแล้วแต่สรรค์สร้างอย่างวิจิตรบรรจงงดงามเกินบรรยาย บริเวณโดยรอบที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน ยิ่งทำให้พระเมรุยิ่งงดงามมากยิ่งขึ้น ดุจดังสวรรค์

                        ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าจะมีการจัดนิทรรศการ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" และจะเปิดให้เข้าชมกันตั้งแต่วันที่ 18 - 30 พฤศจิกายน 2551 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 21.00 น. ประชาชนที่เฝ้ารอที่เข้าชมนิทรรศการฯ และบริเวณโดยรอบ มณฑลพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ต่างมาเฝ้ารอตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเวลา 10.00 น. แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อคณะผู้จัดงาน จะเปิดให้เข้าชมหลังจากที่ผ่านพิธีการเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 แต่ทุกคนก็ยังเฝ้ารออย่างไม่ย่อท้อ และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นลง ทางคณะผู้จัดงานก็ต้องเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมก่อนเวลาจริงที่กำหนดไว้ที่ 16.30 น.

                       ย้ำกันอีกครั้งนะครับ ขอเชิญประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ เข้าร่วมชมนิทรรศการ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟัากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" และร่วมน้อมใจรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 18 - 30 พฤศจิกายน 2551 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และระหว่างการเข้าชม ทางคณะผู้จัดงานไม่อนุญาตให้นำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปในบริเวณงาน และห้ามเด็ดดอกไม้เป็นอันขาด รวมถึงแต่งกายสุภาพ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมภาพถ่ายของผม ที่ถ่ายมาเพียงบางส่วน แต่ก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเก็บภาพงานประวัติศาสตร์นี้ไว้ ขอบคุณจากใจจริงครับ