ไสยศาสตร์กับปัญหาสังคม

ถ้าให้พูดถึงไสยศาสตร์แล้วดิฉันเชื่อว่าทุกคนอาจจะเคยบางใช่ไหนล่ะค่ะ เอาง่ายๆเลย การดูดวง ก็เป็นไสยศาสตร์แบบหนึ่งนะค่ะ  จะเห็นไม่ค่ะว่าจะทำอะไรก็ต้องคอยระวังว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะนั้นมันก็เป็นสิ่งที่บังคับให้เราทำทุกสิ่งที่เป็นไปตามดวงนั้นเอง สังเกตไม่ค่ะว่าเราถูกสิ่งสิ่งหนึ่งครอบงำอยู่ แต่ถึงอย่างไรตนก็เป็นที่พึ่งแห่งตน

สำหรับความเชื่อและไสยศาสตร์กับปัญหาสังคมนั้น  ดิฉันคิดว่าถ้าหากคนเราจะมีความเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น  ไม่ใช่ความผิด  หากแต่ความเชื่อนั้นไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนรอบข้างที่อยู่ในสังคมเดีนวกันแล้วและไม่งมงายจนเกินไป จนทำให้เกิดผลเสียกับตัวเอง  แต่ถ้ามองในแง่ของการหลอกลวงต้มตุ๋นของนักต้มตุ๋นต่างๆ  ที่ใช้ความเชื่อ  ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานทางวัฒนธรรมตั้งแต่อดีต  ตั้งแต่บรรพบุรุษของเรา  มาเป็นช่องทางในการทำมาหากิน  ก็ถือว่าคนเหล่านั้น  ทำความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นจึงถือได้ว่าเป็นปัญหาสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน  เพราะถ้ามีคนจำพวกนี้อยู่มาก  สังคมเราจะเต็มไปด้วยระบบความเชื่อที่งมงายและครอบงำคนในสังคมไปหมดสิ้น

ถ้าเรายิ่งส่งเสริมก็เท่ากับว่าเรายิ่งทำร้ายสังคม  และทางที่ดีดิฉันว่าน่าจะตีแผ่เรื่องนี้ให้กระจ่างเพื่อให้สังคมภายนอกได้รับรู้ความเป็นมาว่าเพราะอะไร  จริงอยู่ทุกคนมีสิทธิส่วนบุคคล  แต่ในทางดีก็ดีไป  แต่ถ้าตรงกันข้ามคงแย่  ควรเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้กระทำดีกว่า  ผลที่ตอบแทนเราก็เป็นเช่นนั้น  การตั้งจิต  ตั้งมั่น มีความพยายาม  อดทน  และมีความสุขในการกระทำนั้นๆ  รับรองค่ะว่า  ไม่ต้องพึ่งไสยศาสตร์อีกต่อไปเพียงแค่เริ่มง่ายๆจากตัวคุณ

ดังนั้นความเชื่อและไสยศาสตร์ถือว่าไม่ผิด  เพราะความเชื่อและสยศาสตร์แม้จะเป็นที่พึ่งทางกายไม่ได้  แต่ก็เป็นที่พึ่งทางใจสำหรับบางคนได้เป็นอย่างดี  แต่สุดท้ายไม่ว่าจะมีความเชื่อเช่นไร  ก็ควรจะอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล  ความเป็นไปด้  รวมไปถึงการมีวิจารณญาณ  ตลอดจนพิจารณาอย่างรอบคอบ  และไม่เชื่อจนงมงายมากเกินไป  แต่ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของเราได้ดีที่สุด  นั้นก็คือ  " การกระทำของตัวเราเอง"