*/
<< | กุมภาพันธ์ 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 |
![]() (ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต) .... แกนนำพันธมิตรผายลม !!! วิเคราะห์แถลงการณ์ ยกระดับการต่อสู้ เพื่อใคร ???.... ความเห็นบลอกเกอร์ รอฟัง คำแถลงเรื่อง "การยกระดับ" การชุมนุมของพันธมิตรด้วยใจระทึก แล้วก็สมใจครับ .. ตื่นเต้นเร้าใจ ตลอดการแถลง ซึ่งมีทั้งอารมณ์ ความดุดัน ของโฆษก คุณปานเทพ แต่..พอถึงบทสรุป ก็ต้องยอมรับ ว่าผิดหวัง ผมขอตัดตอนมาลงบางตอนนะครับ "....ขอ
ฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และคณะรัฐมนตรี
พิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี
เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ กล้าหาญ
กล้าตัดสินใจในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ
มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในชาติให้หมดสิ้น
มีวุฒิภาวะและมีความเป็นผู้นำที่ ซื่อสัตย์ต่อชาติ
ต่อประชาชนไม่โกหกหลอกลวงประชาชน มีคุณธรรม ศีลธรรม
เข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองต่อไป...." เริ่มต้นที่เรียกร้องให้นายกฯอภิสิทธิ์ลาออก ก็ดูจะเป็นการ "ยกระดับ" เสียแล้ว เพราะพันธมิตร ยืนยัน นอนยันมาตลอดว่า ไม่มีเจตนา "ขับไล่" รัฐบาล ตอนนี้ชัดเจน แล้วว่า ต้องการให้นายกฯอภิสิทธิ์ "ออกไป ออกไป " ที่ดูไม่จืดเอาจริงๆ ก็ตรงที่บอกว่า " .. เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ กล้าหาญ กล้าตัดสินใจในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ ..." ดูเหมือน "หางจะโผล่" ออกมาซะแล้ว ใครละ คือ "บุคคล" ที่พูดถึง และ "บุคคล" เหล่านี้ จะเข้าสู่อำนาจด้วยวิธีไหน ?? ยิ่งฟังคำปราศรัยของคุณสนธิ ซึ่งตามติดมา ที่ตัดพ้อต่อว่า "ผิดหวัง" กับผบ.ทบ. ว่าไม่แน่จริง ก็ดูจะยิ่งพอเข้าใจ อ่านคำแถลงการณ์จนจบ ก็พอสรุปได้ว่า โกรธ เกลียด ไม่ชอบ ไม่พอใจ ต้องการให้อภิสิทธิ์ออกไป แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร .. รอคอย "อำนาจพิเศษ" แต่เขาดูจะไม่เอาด้วย เลยยิ่งโกรธ เกลียด ใหญ่ อย่างนั้น ใช่ไหมครับ ? (เวลาประมาณ 22:10 น. คุณประพันธ์ คูณมี ขึ้นเวที "เพิ่มเติม" เงื่อนไขการ "ยกระดับ" โดยยื่นคำขาด ว่านายกฯ ต้องออกไปภายในเจ็ดวัน..แต่ยังไม่ได้บอก ว่า "บุคคล" ที่เขาจะเชิญมาเป็นรัฐบาล คือใคร.. คอยดูกันต่อไป) ๐๐๐๐๐๐๐๐๐ คำต่อคำ แถลงการณ์การชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ฉบับที่ 1/2554 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรื่อง ขอฉันทานุมัติพี่น้องประชาชนเพื่อให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยได้ใช้สิทธิการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 63 ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554 เพื่อทำหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันประเทศ รักษา เอกราช อธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 70 และ 71 โดยแสดงเป้าประสงค์ในการชุมนุมที่จะรักษาป้องกันไม่ให้ประเทศไทยต้องสูญเสีย อธิปไตยเหนือดินแดน และกำหนดข้อเรียกร้องเอาไว้ 3 ประการคือ 1.เรียกร้องให้รัฐบาลแห่งราช อาณาจักรไทยยกเลิก บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักร ไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 เพื่อยุติความเสียเปรียบทั้งปวงที่กัมพูชาได้เป็นฝ่ายละเมิดและรุกรานดินแดน ไทยมาโดยตลอด 2.เรียกร้องให้รัฐบาลแห่งราช อาณาจักรไทยถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก เพื่อเป็นการประท้วงและไม่ยอมรับ การดำเนินการตามคำร้องขอของประเทศกัมพูชาในคณะกรรมการมรดกโลกที่ว่าเสียง ส่วนน้อยที่ต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ในเวทีคณะกรรมการมรดกโลกที่ได้ดำเนินการ ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทยมาหลายครั้ง ในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารและนำพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทซึ่งเป็นดินแดน ไทยให้เป็นมรดกโลกของกัมพูชา 3.เรียกร้องให้รัฐบาลแห่งราช อาณาจักรไทยดำเนินการผลักดันทหารและชุมชนกัมพูชาที่รุกล้ำและยึดครองดินแดน ไทย เพื่อทวงคืนดินแดนไทยที่ได้สูญเสียอำนาจอธิปไตยในทางปฏิบัติไปให้กับกัมพูชา เป็นเวลาเกือบ 11 ปี นับตั้งแต่ที่รัฐบาลไทยได้ลงนามใน MOU 2543 เป็นต้นมา ในระหว่างการชุมนุมนั้นได้ ปรากฏหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าวมาโดยตลอด อีกทั้งยังปรากฏว่ารัฐบาลไทยไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาการละเมิดอธิปไตย ของประเทศไทยได้แต่ประการใด บัดนี้ปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่า รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาที่กัมพูชาได้รุกล้ำและยึดครองดินแดนไทย ทั้งนี้ภายใต้การยึดถือบันทึกความเข้าใจฯ และข้อกำหนดใน MOU 2543 ทำให้กัมพูชาสามารถใช้เงื่อนไขดังกล่าวยึดครองดินแดนไทยได้ไม่มีกำหนดระยะ เวลา จนกว่าผลการเจรจาจะเป็นที่พอใจของทางการกัมพูชา ดังปรากฏข้อเท็จจริงที่ทหารและชุมชนกัมพูชาได้ยึดครองดินแดนไทยบริเวณโดยรอบ พื้นที่ปราสาทพระวิหาร 2,800 ไร่ (4.6 ตารางกิโลเมตร) โดยปรากฏมีกองกำลังทหาร ชุมชน และวัดแก้วสิขะคีรีสะวาราอยู่บนพื้นที่ดังกล่าว ทั้งได้ยืนยันว่าดินแดนดังกล่าวนี้เป็นของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ดังปรากฏตามแถลงการณ์ในปีนี้ของกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 และเหตุการณ์ที่ตอกย้ำและแสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่าดินแดนบริเวณดังกล่าวเป็น ของกัมพูชานั้น ก็คือเหตุการณ์การปะทะและยิงกองกำลังทหารไทยที่ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทยใน บริเวณ ภูมะเขือ โดยยิงเข้ามาในพื้นที่ของไทยและประเทศไทยทำให้ประชาชนไทยและทหารไทยต้องสูญ เสียชีวิต บ้านเรือนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้บริเวณค่ายอพยพหนอง จานซึ่งอยู่ในดินแดนไทยก็ได้ปล่อยให้ชาวกัมพูชาเข้ามายึดครองแย่งที่ดินทำ กินของราษฎรไทยบริเวณดังกล่าวจนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส คนไทยผู้รักชาติ 7 คนที่ได้ไปสำรวจในพื้นที่เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับราษฎรไทยบริเวณดังกล่าว กลับถูกทหารกัมพูชาติดอาวุธเข้าจับกุม และนำตัวขึ้นสู่ศาลกัมพูชาและพิพากษาตัดสินลงโทษคนไทยทั้ง 7 โดยที่รัฐบาลไทยมิได้ให้ความช่วยเหลือหรือแสดงอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนดัง กล่าว ไม่ประท้วงและไม่คัดค้านใดๆในการนำตัวคนไทยทั้ง 7 ขึ้นสู่ศาลเลยอันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นผู้แทนแห่งรัฐไทย ซ้ำร้ายกลับสร้างหลักฐานช่วยเหลือทางการกัมพูชาและศาลกัมพูชาปรักปรำและยัด เยียดข้อหาให้ 7 คนไทยจนได้รับโทษอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของนายวีระ สมความคิด และนาสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ จึงถือได้ว่ารัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้จำยอมต่อการสำแดงอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาเหนือดินแดนประเทศไทย ทั้งนี้ตลอดแนวชายแดนไทย กัมพูชาได้รุกล้ำและยึดครองดินแดนไทยอย่างต่อเนื่องอย่างที่ไม่เคยปรากฏมา ก่อน อาทิ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ภูมะเขือ ฯลฯ และยังกระทำการรุกล้ำและยึดครองดินแดนไทยเพิ่มเติมโดยอ้างแผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 และ MOU 2543 ซึ่งไม่เพียงจะทำให้ดินแดนไทยต้องสูญเสียในบริเวณเขาพระวิหารประมาณ 2,800 ไร่เท่านั้น แต่จะทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 1.8 ล้านไร่ และยังจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาในอ่าวไทยที่ มีพื้นที่ทับซ้อนเกินความเป็นจริงซึ่งมีผลประโยชน์อันเป็นแหล่งพลังงานใน ทะเลบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอีกซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้านบาท ไม่เพียงแต่มีการรุกล้ำและยึด ครองดินแดนไทยในพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น ทางการกัมพูชายังได้ออกแถลงการณ์และยื่นคำฟ้องต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อตอกย้ำว่าดินแดนดังกล่าวเหล่านั้นเป็นดินแดนและอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าวจึง เห็นได้ว่า ประเทศไทยได้เสียดินแดนให้กับกัมพูชาไปแล้วหากมิดำเนินการใดๆ อันเป็นสาเหตุมาจากความล้มเหลวและความอ่อนแอของรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ กลับกระทำการในลักษณะสมยอม จำนน หรือมีพฤติกรรมยอมรับการเข้ายึดครองและรุกล้ำดินแดนไทยโดยกัมพูชา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงก็ดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ดี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ดี ตลอดจนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ล้วนแต่มีพฤติกรรมสมคบกันทำให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยต้องตกอยู่ ภายใต้อำนาจอธิปไตยของกัมพูชาทั้งสิ้น ทำลายเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ก่อความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อชาติและแผ่นดินไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งเป็นการทำให้ราชอาณาจักรไทยต้องเสียดินแดนให้แก่ประเทศกัมพูชาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันอีกด้วย นอกจากนี้ภายใต้การบริหาร ราชการแผ่นดินของรัฐบาลตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมานั้น ได้ปรากฏข้อมูลและข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งว่า คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมบริหารชาติบ้านเมืองที่เป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นรุนแรงมากที่สุด ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยปรากฏข้อมูลและเท็จจริงว่ามีการทุจริตจากงบประมาณแผ่นดินทำให้ประเทศชาติ เสียหายเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ดังปรากฏตามผลการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาลของวุฒิสภา และตามผลการสำรวจศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตลอดจนเป็นไปตามข้อมูลการศึกษา สำรวจและวิจัยของหอการค้าไทย และข้อมูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พฤติกรรมการทุจริตของนักการ เมืองและรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณชนและประชาชนโดยทั่วไป นอกจากจะมีการทุจริตในโครงการขนาดใหญ่หลายแสนล้านบาทแล้ว ยังมีพฤติกรรมการทุจริตคอร์รัปชั่นหาประโยชน์กับสินค้าอันเป็นเครื่องอุปโภค และบริโภคของประชาชนอีกด้วย อาทิเช่น ข้าว น้ำมันปาล์ม ฯลฯ อันเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นบนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนโดยทั่วไป ทำให้เกิดสภาวะสินค้าขาดแคลนมีราคาแพง ซึ่งหนักหน่วงร้ายแรงและอำมหิตต่อประชาชนยิ่งกว่ารัฐบาลใดๆ พฤติกรรมดังกล่าวนี้ถือเป็น ความผิดอย่างร้ายแรงและสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างยิ่ง แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกลับเพิกเฉย ไม่อนาทรร้อนใจต่อปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนและความรู้สึกของ เพื่อนร่วมชาติ ทั้งยังมีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ อันเป็นการสนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมดังกล่าวอีกด้วย นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีสัจจะและไม่รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในหลายกรณี อาทิเช่น ไม่หยุดยั้งปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ตระบัดสัตย์ต่อคำมั่นสัญญาว่าจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญและหากจะมีการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญก็จะทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่กลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองด้วยกันเองโดยไม่มี การทำประชามติ โกหกต่อภาคประชาชนว่ารัฐสภาจะไม่พิจารณาบันทึกผลการประชุมของคณะกรรมาธิการ เขตแดนร่วมไทยกัมพูชา (เจบีซี) ทั้ง 3 ฉบับ ต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ไม่ปฏิบัติตามคำสัญญาที่จะสะสางคดีการรุมสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุลให้แล้วเสร็จในปี 2552 ไม่รักษาสัตย์ที่ให้ไว้กับประชาชนว่าจะบริหารบ้านเมืองด้วยหลักคุณธรรมและ จริยธรรม มีความโปร่งใสและให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยปล่อยให้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรมอย่างไร้จริยธรรม ไร้คุณธรรม และไร้ศีลธรรม ทั้งยังกระทำการเสนอกฎหมายเพื่อขึ้นเงินเดือนให้กับนักการเมืองด้วยกัน เองอย่างไร้ยางอาย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไร้ความสามารถ ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารชาติบ้านเมืองที่ดี ไร้วุฒิภาวะ และไร้สภาวะความเป็นผู้นำที่ดี มีความคิดและจิตใจคับแคบ ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ยึดมั่นถือมั่นในความคิดเห็นผิดๆของตัวเองและคนใกล้ชิดเพียงไม่กี่คน ปราศจากทีมงาน คณะทำงาน และที่ปรึกษาอันเป็นที่เคารพเชื่อถือและไว้วางใจของประชาชน มีวิธีคิดและวิธีการทำงาน ในการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้วนแต่เป็นปัญหาและสร้างความล้มเหลวเสียหายต่อ ชาติบ้านเมือง จึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในการดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ดังปรากฏเหตุผลและข้อเท็จจริงทั้งหมดตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จากการที่รัฐบาลภายใต้การนำ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้บริหารประเทศชาติมาด้วยความล้มเหลวและสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงในการ ปกป้องอธิปไตยของชาติ ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมากมาย ไม่รักษาสัจจะวาจาต่อคำพูดและคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในเรื่องสำคัญๆ ทั้งสิ้น อันเป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรง ละเมิดต่อหลักคุณธรรม จริยธรรม มโนธรรม และศีลธรรมในฐานะเป็นผู้บริหารประเทศชาติ ละเมิดแม้กระทั่งกฎเหล็กของตัวเองแบบเขียนด้วยมือลบด้วยเท้าอีกด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงเป็นบุคคลที่ไร้ความน่าเชื่อถือ เป็นอุปสรรคและเป็นปัญหาต่อการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ และการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง ตลอดจนการรักษาประโยชน์ของประชาชน พันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยจึงเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมดความชอบธรรมที่จะบริหารชาติบ้านเมืองอีกต่อไป สมควรที่จะต้องแสดงสำนึกและแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อความล้มเหลวและ การสร้างความเสียหายในการบริหารชาติบ้านเมือง ซึ่งเป็นความรับผิดชอบที่ต้องอยู่เหนือกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย ดังที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ให้สัญญาต่อประชาชนเอาไว้ เพื่อ ให้ข้อเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบรรลุผล จึงขอเรียกร้องพี่น้องประชาชนออกมาร่วมแสดงประชามติ และเห็นสมควรขอฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะรัฐมนตรี พิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ กล้าหาญ กล้าตัดสินใจในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในชาติให้หมดสิ้น มีวุฒิภาวะและมีความเป็นผู้นำที่ ซื่อสัตย์ต่อชาติ ต่อประชาชนไม่โกหกหลอกลวงประชาชน มีคุณธรรม ศีลธรรม เข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองต่อไป ด้วยจิตคารวะ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ๐๐๐๐๐๐๐๐๐
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |