คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติชุดนี้มีอายุครบ 3 ปีไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2557 ยังเหลือเวลาทำงานอีกเกือบ 3 ปี แต่เหตุใดกระแสสังคมแทบจะไม่มีใคร"ยืนข้าง"เลย เมื่อรัฐบาลได้เห็นชอบในหลักการแก้ไขกฏหมายกสทช.ให้เปลี่ยนจาก"องค์กรอิสระ"มาอยู่ภายใต้โครงสร้างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในรอบ 3 ปี ผลงานอันเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมที่จับต้องได้ของกสทช.ชุดนี้มี 2 เรื่องใหญ่ๆ หากวัดจากตัวเงินที่ได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 92,487 ล้านบาท #ด้านโทรคมนาคม จัดประมูลคลื่นความถี่สำหรับโทรศัพท์ 2.1 GHz หรือระบบ 3G ได้ผู้ประกอบการ 3 รายใหญ่ที่เป็นรายเดิม กสทช.ได้เงินประมูล 41,625 ล้านบาท คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทค.)ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าออกแบบการประมูลมาเพื่อทำให้เกิดการ"ฮั้วประมูล" เพราะ 2 รายใหญ่คือกลุ่มทรูแลเะดีแทคไม่ได้เคาะราคาประมูลเพิ่มขึ้นจากราคาขั้นต่ำ 13,500 ล้านบาท ยกเว้นกลุ่มเอเอไอเอสเคาะราคาเพิ่มขึ้น 1,125 ล้านบาทที่ว่ากันว่าเพื่อรักษาหน้ากทค. ทำให้ราคาประมูลสูงกว่าราคาขั้นต่ำน้อยมาก แต่ในที่สุดกรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามใการทุจริตแห่งชาติได้มีข้อสรุปว่ากทค.พ้นมลทินข้อกล่าวหาเอื้อประโยชน์เอกชน สถานการณ์ของผู้ประกอบการโทรศัพท์ 3G หลังประมูลถือว่าทั้งสามบริษัทมีการแข่งขันกันลงทุนขยายโครงข่ายอย่างรวดเร็ว เพื่อแย่งชิงลูกค้าให้ถ่ายโอนจากระบบ2Gมา3G ทำให้การถ่ายโอนเป็นไปอย่างรวดเร็วถือว่าเป็นสถิติโลกในการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค กทค.ยังเหลือการประมูลคลื่นความถี่ระบบโทรศัพท์4G ที่เป็นงานใหญ่ที่สุดอีกงานที่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)สั่งให้เลื่อนการประมูลออกไปประมาณ 1 ปี หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการกสทช.จากกฏหมายใหม่น่าจะมีการประมูลคลื่นความถี่ระบบโทรศัพท์4G ภายในกลางปีนี้ #ด้านบรอดแคสติ้ง จัดประมูลคลื่นความถี่สำหรับทีวีดิจิทัล 24 ช่องได้ผู้ประกอบการ 17 บริษัทที่ส่วนใหญ่เป็นรายใหม่ กสทช.ได้เงินประมูล 50,862 ล้านบาท คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์(กสท.)ได้รับเสียงชื่นชมจากสังคมว่าสามารถจัดการประมูลทีวีดิจิทัลได้อย่างโปร่งใส เพราะได้ผู้เล่นที่เป็นกลุ่มบริษัท 17 บริษัทจาก 24 ช่อง ราคาเคาะประมูล 50,862 ล้านบาทสูงกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้ 15,190 ล้านบาท เงินประมูลจากเอกชนสูงกว่าขั้นต่ำร่วม4-5 เท่าตัว แต่สถานการณ์หลังประมูลเสร็จปลายเดือนธ.ค. 2556 ตลอดปี 2557 ถือเป็นวิบากกรรมของบริษัทที่ประมูลได้ เพราะคำมั่นสัญญาของกสท.ที่เคยให้ไว้กับผู้เข้าประมูลไม่ได้เป็นไปตามนั้นเกือบทั้งหมด เช่น โครงข่ายทีวีดิจิทัลล่าช้าไปกว่ากำหนดไม่น้อยกว่า 3 เดือน, การแจกคูปองเพื่อนำไปแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินล่าช้าไปประมาณ5เดือน , การประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเข้าใจและตื่นตัวกับการเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัลแทบไม่มีเลย ฯลฯ กสท.ยังเหลืองานสำคัญในการออกใบอนุญาตทีวีดิจิทัลประเภทบริการสาธารณะอีก 9 ช่องและใบอนุญาติทีวีดิจิทัลประเภทชุมชนอีก 12 ช่องใน 39 เสาส่งโครงข่าย การออกใบอนุญาตที่เหลือใช้ระบบบิวตี้คอนเทสต์หรือประกวดนางงาม แต่ยังมีงานต่อเนื่องที่ยังไม่บรรลุคือการเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์แบบอะนาล้อกไปสู่ทีวีดิจิทัลยังไม่ลุล่วง ต้องรอเวลาสัญญาสัมปทานของช่อง 7 สิ้นสุดปลายปี 2561 และช่อง 3 สิ้นสุดในวันที่ 24 มีนาคม 2563 แล้วหลังจากนั้นคลื่นความถี่ดังกล่าวจะนำมาใช้ในการประมูลเพื่ออัพเกรดช่องทีวีดิจิตัลความคมชัดปกติหรือ SD ให้เป็น HD รวมทั้งการบริหารจัดการคลื่นความถี่วิทยุที่ทั้งหมดยังถือครองอยู่ในภาครัฐและกองทัพ ซึ่งกสท.ได้ใช้วิธียืดเวลาการถือครองออกไปตามความจำเป็น 5 ปี แล้วกำหนดให้คืนคลื่นความถี่ หากไม่ได้ทำประโยชน์ในการบริการสาธารณะเพื่อนำมาประมูล และอีกเรื่องที่สำคัญคือการประมูลวิทยุดิจิทัลที่ยังไม่มีความชัดเจน หากใช้ยอดเงินเป็นตัววัดผลงานของกสทช.พอจะกล่าวได้ว่า ณ ปัจจุบันยังไม่มีการประมูลคลื่นความถี่ 4Gกสท.สามารถจัดการประมูลทีวีดิจิทัลได้เงินเข้ารัฐมากกว่าการประมูลคลื่นความถี่3Gของกทค. ซึ่งหากเทียบขนาดธุรกิจแล้ว กิจการโทรคมนาคมมีมูลค่ารวมกันปีละหลายแสนล้านบาท มากกว่ากิจการโทรทัศน์ที่มีมูลค่ารวมกันอย่างมากที่สุดไม่เกินแสนลล้านบาทต่อปี แต่ถ้าประเมินประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการชุดเล็ก 2 ชุดด้านความโปร่งใสหรือธรรมาภิบาลถือว่าย่ำแย่พอๆกัน ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานเมื่อต้นเดือนต.ค. 2554 ทุกครั้งในการลงมติของกทค.แทบไม่เคยมีคะแนนเสียงเปลี่ยนแปลง เสียงข้างมาก 4 เสียง,เสียงข้างน้อย 1 เสียงตลอดกาลคือนายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา แม้เวลาผ่านมา 3 ปีแล้วก็ยังเป็นแบบนี้ที่แทบไม่มีการถ่วงดุลใดๆเกิดขึ้นเลย ทำให้กฏกติกาของกทค.ที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่ จึงถูกสังคมตั้งข้อสงสัยและกังขาในการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการมากเกินไป ตอกย้ำด้วยผลประกอบการของผู้ชนะประมูลโทรศัพท์ 3G ล้วนแต่มีกำไรเพิ่มขึ้นเต็มไม้เต็มมือ แต่กสท.ค่อนข้างแปลกที่เริ่มต้นจากเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 มาโดยตลอดเช่นกัน แต่ 1 เสียงกสท.ที่เป็นตัวแปรสำคัญคือพลโทดร.พีรพงษ์ มานะกิจที่เดิมมักจะโหวตเสียงข้างมากให้ประธานกสท.คือพ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ที่มีเสียงสนับสนุนแบบถาวรคือพ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า แต่หลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.พลโทดร.พีระพงษ์ไม่ได้โหวตเสียงในเรื่องใหญ่ๆที่เสนอโดยประธานกสท. เช่น กรณีคูปองให้แลกกล่องทีวีดาวเทียมได้ , กรณีช่อง 3 ออกคู่ขนานช่องทีวีดิจิทัลไม่ได้ ฯลฯ ทำให้สภาพการทำงานของกสท.ในปัจจุบันค่อนข้างอิหลักอิเหลื่อเดินหน้าไปไม่ได้สักเรื่อง เพราะประธานกสท.พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์กลายเป็นประธานเสียงข้างน้อยที่ไม่สามารถชี้ขาดได้ทุกครั้ง คะแนนเสียงจึงออกมาเป็น 3 ต่อ 2 เช่นเดิมแต่สลับข้างเท่านั้น วิบากกรรมจึงตกหนักอยู่กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่เคาะประมูลในราคาสูงกว่าขั้นต่ำมาก ด้วยความเชื่อมั่นในการทำงานของกสท.ที่ช่วงก่อนประมูลใส่ใจเสียงของผู้แสดงตัวจะเข้าประมูลอยู่พอสมควร แต่พอประมูลทีวีดิจิทัลเสร็จแทบจะกลายเป็น"ลอยแพ"ท่ามกลางความขัดแย้งในการทำงานของกสท. 5 คนที่มีแนวคิดในการสร้างดาวคนละดวงและบางคนยังมีข้อเคลือบแคลงอย่างยิ่งว่ารักษาผลประโยชน์ของใคร แต่จุดตายจริงๆของกทค.และกสท.อยู่ที่การใช้จ่ายเงินแบบมือเติบของกรรมการกสทช.เกือบทั้งหมด(ยกเว้นแค่2-3 คนที่มักเป็นเสียงข้างน้อย)ในการเดินทางไปดูงานต่างประเทศปีละหลายร้อยล้านบาท,การตั้งที่ปรึกษาและคณะอนุกรรมการของกสทช.แต่ละคนที่เต็มพิกัดเกินความจำเป็น ,การจัดซื้อจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษา-อุปกรณ์เครื่องใช้-รถเช่า ฯลฯ เมื่อคสช.ออกประกาศให้นำเงินจากการประมูล3G และทีวีดิจิทัลในงวดต่อไปให้โอนเข้ากระทรวงการคลังแทนการจ่ายตรงเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนาของกสทช. จึงได้รับเสียงปรบมือแบบสะใจจากสังคม มากกว่าจะเห็นใจกสทช.ที่ใช้เงินยากลำบากมากขึ้น และเมื่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล แล้วแสดงเจตนาชัดเจนจะออกกกหมายกสทช.ใหม่เพื่อลดความเป็นอิสระให้มาอยู่ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แทบจะไม่ค่อยมีใครออกมาคัดค้าน แม้ไม่เห็นด้วยที่เป็นการถอยหลังมากกว่าเดินหน้า |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |