การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของ "พี่ติ๋ม" พันธ์ทิพา ศกุนต์ไชย ที่ส่งจดหมายบอกเลิกช่องทีวีดิจิทัล 2 ช่องคือ ช่องไทยทีวีและช่องโลก้าไปถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) ไปเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค. ถือเป็นปฏิบัติการกามิกาเซ่ถล่ม กสท. ที่จะสร้างปมปัญหายุ่งเหยิงยากต่อการแก้ไขแบบ WIN-WIN หากทั้งสองฝ่ายยัง“ชี้หน้า”กล่าวหาอีกฝ่ายว่ากระทำความผิด ฝ่ายทีวีพูลชี้หน้า กสท.ว่าบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่กำกับและดูแลการเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกสู่ดิจิทัล ขาดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ การแจกคูปองเพื่อแลกกล่องล่าช้า ฯลฯ ยืนยันไม่จ่ายเงินงวดที่ 2 รวม 288 ล้านบาท และ กสท. ไม่มีสิทธิ์ยึดแบงก์การันตรีก้อนที่เหลือประมาณ 1,600 ล้านบาท ฝ่าย กสท.ตอกกลับบอกว่าแผนการเปลี่ยนผ่านทำได้อย่างน่าพอใจ โครงข่ายของช่อง 5 กับ ไทยพีบีเอส ขยายครอบคลุมมากกว่าแผน ยกเว้น อสมท. ที่ไม่เป็นไปตามแผนและช่องของทีวีพูลใช้โครงข่ายของ ไทยพีบีเอส ที่ขยายได้มากที่สุด ผู้ถือใบอนุญาตทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ ยังดำเนินงานไปได้ “ฐากร ตัณสิทธิ์” เลขาธิการ กสท. ยืนยันว่าถ้าทีวีพูลขอยกเลิกใบอนุญาต จะต้องถูกยึดเงินตามหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ ที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 1,600 ล้านบาท และทีวีพูลจะเลิกไปเฉยๆ โดยไม่ได้รับการอนุมัติจาก กสทช. ไม่ได้และทีวีพูลจะไปทำทีวีดาวเทียมไม่ได้หากถูกลงโทษจาก กสทช. ลำดับต่อไป ฝ่ายทีวีพูลคงใช้สิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้คุ้มครองไม่ถูกยึดเงินค้ำประกันจาก กสทช. แต่ศาลปกครองคงใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมีคำพิพากษาทางใดทางหนึ่ง ฝ่ายทีวีพูลยืนยันแล้วว่าเมื่อครบ 15 วัน ในวันที่ 10 มิ.ย. หลังจากยื่นหนังสือบอกเลิกใบอนุญาตจะยุติการออกอากาศช่องไทยทีวีทางโครงข่ายทีวีดิจิทัลของ ไทยพีบีเอส แล้วไปออกอากาศทางดาวเทียมทั้ง 2 ช่อง ประเด็นที่ต้องจับตาคือธนาคารกรุงเทพจะทำอย่างไร หาก กสท. ยืนยันจะยึดหนังสือค้ำประกันประมาณ 1,600 ล้านบาท ทางเลือกของธนาคารกรุงเทพ มีอยู่แค่ 2-3 ทาง เช่น เจรจากับทีวีพูลเพื่อผ่อนผันให้กู้เงินไปชำระเงินงวดที่ 2 ก่อนยืดอายุหาพันธมิตรใหม่, ยอมจ่ายเงินงวดที่ 2 แทนทีวีพูลไปก่อนเพื่อซื้อเวลา ฯลฯ ธนาคารกรุงเทพคงไม่ยอมให้ยึดแบงก์การันตรี แม้ว่าจะมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเงินฝากของทีวีพูลเพียงพอ แล้ว กสท. กับ กสทช. ยังมีทางเลือกแบบไหน แนวทางที่น่าจะเลือกมากที่สุดคือเล่นไม้แข็งอย่างเดียวเพื่อไม่ให้ช่องทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ เอาเป็นเยี่ยงอย่าง หาก กสท. “อ่อนข้อ” ให้ทีวีพูลยกเลิกใบอนุญาตไปแบบง่ายๆ โดยไม่ถูกยึดหนังสือค้ำประกันจะทำให้ช่องทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ อีกหลายรายที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ไม่น้อยกว่าทีวีพูลคงจะตัดสินใจแบบเดียวกัน แม้จ่ายเงินงวดที่สองไปแล้วเพราะหากอยู่ต่อไปอีกก็จะมีโอกาสตายมากกว่ารอด หนทางสุดท้าย ทุกฝ่ายจะไปหวังพึ่ง “ศาลปกครอง” ให้เป็นผู้ตัดสินความถูกผิดของแต่ละฝ่ายเพื่อไปต่อให้ได้ แล้วกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษาใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่? ระหว่างทางจะมีใครอยู่ได้หรือตายไปบ้าง ระบบรวมทีวีดิจิทัลเสียหายไปแค่ไหน? ก่อนจะเปลี่ยนผ่านยุติการออกอากาศระบบอนาล็อก ศาลปกครองเป็นองค์กรอิสระที่มีความยุติธรรม แต่ปัญหาในเชิงเทคนิคหลายอย่างไม่ควรจะไปให้ศาลปกครองตัดสิน ทำไม “ผู้เล่น” ในกิจการทีวีดิจิทัลไม่หันหน้ามาร่วมคุยกันอย่างรอบด้าน ยกระดับให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ในการแก้ปมทีวีดิจิทัล ข้อเสนอของผมอยากให้คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดทีวีดิจิทัลเพื่อหาทางสางปมอันยุ่งเหยิง อาจจะต้องถึงขั้นใช้อำนาจในมาตรา 44 เข้ามาแก้ปมที่อยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจของ กสทช. เพราะดูๆ ไปแล้วแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องล้วนแต่มีจุดยืนต่างกันเพราะมองเผินๆ ผลประโยชน์ขัดกัน แต่ผลประโยชน์ปลายทางน่าจะเหมือนกันคือการจัดระเบียบอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในแต่ละประเภทให้อยู่ร่วมกันได้ ผู้เล่นที่เป็นผู้กำกับดูแลคือ กสทช., กสท. ผู้เล่นที่เป็นผู้ถือใบอนุญาตประเภทกิจการโทรทัศน์ที่มีอยู่ 3 ประเภท ทีวีดิจิทัล, ทีวีอนาล็อก, ทีวีดาวเทียม ผู้เล่นที่เป็นผู้ถือใบอนุญาตประเภทโครงข่ายที่มีอยู่ 3 ประเภท ผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิทัล, เคเบิลทีวีระดับท้องถิ่น, เคเบิลทีวีระดับชาติ,โครงข่ายทีวีดาวเทียม ผู้เล่นที่เป็น Supply Chain ที่สำคัญ ผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน (DVB T2), เครื่องรับโทรทัศน์ที่มีจูนเนอร์ กลุ่มผู้บริโภคและผู้ชม รวมไปถึงภาควิชาการในสายนิเทศศาสตร์ ทีวีอนาล็อก ยังไม่มีกำหนดแน่นอนว่าจะยุติการออกอากาศได้เมื่อไหร่ เมื่อกรณีสัญญาสัมปทานช่อง 3 ของ อสมท.ยังมีอายุไปถึงวันที่ 24 มี.ค. 2563 ท้ั้งๆ ที่ อสมท.ได้ทำข้อตกลงร่วมกับไทยพีบีเอส,ช่อง 5 และกรมประชาสัมพันธ์จะยุติการออกอากาศภายในปี 2561 ทีวีดิจิทัล ด้วยเงื่อนไขประมูลจะต้องวางหนังสือค้้ำประกันเต็มจำนวนเงินประมูล ทำให้กลายเป็น “บ่วง” รัดคอผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ยื่นขอยกเลิกก็ทำไม่ได้ต้องถูกริบเงินประกันทั้งหมด หาก กสท. ไม่ทำตามก็กลายเป็นตัวอย่างให้ทีวีดิจิทัลรายอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง กสท. ทำได้ทางเดียว“ห้ามทีวีดิจิทัลตาย” ก่อนตายต้องยื่นขออนุมัติก่อน ทีวีดาวเทียม เกิดความรู้สึกเป็น "ลูกเมียน้อย" ของ กสท.ที่ออกกฎหลายอย่างทำให้ธุรกิจทีวีดาวเทียมถูกตีกรอบในการทำธุรกิจและยังเกิดความรู้สึกถูกเอาเปรียบจากทีวีดิจิทัลที่ใช้กฎ Must Carry บังคับโครงข่ายจานดาวเทียมให้ล็อกหมายเลข 1-36 ให้ทีวีดิจิทัล ผู้บริโภคกลายเป็นผู้ถูกเอาเปรียบโดยไม่รู้ตัว เข้าใจผิดไปว่ากำลังรับชมทีวีดิจิทัลจากจานดาวเทียมเพียงพอแล้ว จึงไม่ได้ใช้สิทธิ์นำคูปองไปแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล ทั้งๆ ที่มีสิทธิ์เท่าเทียมกันทุกครัวเรือนในการรับชมทีวีดิจิทัล 48 ช่อง จากกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินหรือโทรทัศน์ที่มีจูนเนอร์รับชมได้ในเครื่อง ซึ่งถือเป็นบริการพื้นฐานเหมือนกับกิจการสาธารณูปโภคน้ำไฟที่กสท.มีหน้าที่ต้องทำทุกวิถีทางให้การเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกไปสู่ทีวีดิจิทัลแบบครอบถ้วน 100% หรือ 22.8 ล้านครัวเรือน ผมเสนอให้ “ประชุมสุดยอดทีวีดิจิทัล” เพื่อทำให้เป็นวาระแห่งชาติ ร่วมกันแก้ไขให้ไปต่อได้ น่าจะดีกว่าชี้หน้ากล่าวหากันด้วยถ้อยคำรุนแรง หรือผู้คุมกฎยืนกระต่ายขาเดียวไม่สนใจความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | พฤษภาคม 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |