"ตึกเวิร์ดเทรดโดนถล่ม" คำบอกเล่าคำแรกที่ฉันก้าวเข้ามาในบ้าน

"หึมมม อะไรก็นึ่เพิ่งมาจากทางนั้นไม่เห็นมีอะไรเลย"

ฉันตอบกลับไปด้วยความแปลกใจ เพราะพึ่งกลับจากดูภาพยนตร์ สุริโยทัย ที่สยามสแควร์

"ไม่ใช่เวิร์ดเทรด ที่ประตูน้ำ เวิร์ด เทรดที่อเมริกา ดู ดู"

สิ้นเสียงพร้อมทั้งชี้ชวนให้ดูภาพเหตุการณ์ในโทรทัศน์ ขณะที่เครื่องบินลำหนึงกำลังพุ่งเข้าชนตึกเวิร์ดเทรด และอีกซักพักหนึ่งก็มีเครื่องบินอีกลำหนึ่งพุ่งตามมาชนตึกแฝดอีกหลังหนึ่ง ภาพผู้คนแตกตื่นวิ่งหนีตาย ภาพตึกถล่มฝุ่นควันคละคลุ้ง

ฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและหยิบโทรศัทพ์มือถือซึ่งถูกปิดอยู่ตั้งแต่เข้าไปชมภาพยนต์ และเมื่อเปิดออกหลายสายแสดงการโทรเข้า ฉันเดินกลับเข้าไปในห้องส่วนตัว ติดต่อกลับทุกสายที่ติดต่อมา เปิดทีวี คืนนั้นทั้งคืน ฉันเฝ้ามองความเป็นไปอยู่หน้าจอทีวี

โทรศัพท์ถูกใช้ติดต่อไปยังสถานที่ห่างไกลนับพันไมล์ ถึงแม้รู้ดีว่ามันไม่มีผล ภาพความเสียหายที่อยู่ตรงหน้ายิ่งเป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้กระหน่ำกดแป้นโทรศัพท์ และเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ทำได้คือการโทรกลับไปยังสายที่เฝ้ารอในสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เมืองไทย มีแต่คำปลอบโยนอย่างจริงใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน

ตึกเวิร์ดเทรด นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาถูกถล่มด้วยเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 จากบอสตันเข้าชนตึกเหนือ (ตึก 1 เป็นตึกที่มีเสาอากาศเห็นได้ชัด) ของตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ แล้วฉีกตัวตึกเป็นช่องพร้อมทั้งเกิดไฟไหม้

ในเวลาไม่ถึง 20 นาที เครื่องบินโดยสารของสายการบิน ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 จากบอสตันเช่นกัน พุ่งเข้าชนตึกใต้ (ตึก 2) ของตึกเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ และระเบิดรุนแรง ใช้เวลาอีกเพียงชั่วโมงเศษ ตึกเวิร์ดเทรดทั้งสองหลังก็ถล่มลงมากองราบอยู่กับพื้นถนน

สิ้นสุดความยิ่งใหญ่แห่งความภาคภูมิใจในฐานะตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก ด้วยน้ำมือของผู้ก่อการร้าย อัลไกด้า โดยการนำของ อุสมะ บินลาเดน ผู้ที่ซึ่งใช้อาวุธของอเมริกาทำร้ายชาวอเมริกัน ในวันที่เปรียบเสมือนรหัสแห่งการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 9/11

นอกจากตึกเวิร์ดเทรดแล้วอาคารทรง 5 เหลี่ยมของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ตั้งชื่อตามรูปร่างอาคารว่าเพนตากอน ได้ถูกโจมตีด้วย โดยมีการใช้มีเครื่องบินถึง 3 ลำในการก่อการ ซึ่งผู้ก่อการในครั้งนี้ได้เข้ายึดครองเพื่อบังคับให้พุ่งเข้าชนอาคารสำคัญ และยังมีเครื่องบินอีกหนึ่งลำที่ถูกจี้ด้วยเหมือนกันแต่ไม่สามารถชนตึกได้ ทั้งนี้คาดว่าการขัดขืนจากลูกเรือและผู้โดยสารทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวตกลงในเขตชนบทที่ซอมเมอร์เซ็ต

เหตุการณ์ในครั้งนั้น แม้นจะไม่มีข่าวคราวการสูญเสียของผู้ที่เกี่ยวข้องในชีวิตแต่ก็มีผู้เสียชีวิตในเหตุการ์ณครั้งนี้ทั้งสิ้น 2,973 คน  : 246 คน บนเครื่องบิน, 2,602 คน ในนครนิวยอร์ก ในอาคารและพื้นดิน, และ 125 คน ในเพนตากอน รวมถึงนักผจญเพลิงนครนิวยอร์ก 343 คน, ตำรวจนครนิวยอร์ก 23 คน, ตำรวจการท่าเรือของนิวยอร์กและนิวเจอร์ซี 37 คน และผู้สูญหายอีก 24 คน

สถานที่ ๆ เคยเป็นที่ตั้งของตึกเวิร์ดเทรดถูกเรียกว่า Ground Zero ทันทีที่สิ้นสุดการวินาศกรรมในครั้งนั้น หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานของเอกชนร่วมกันตำเนินการปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นสถานที่ระลึกถึงเหยื่อจากวินาศกรรม 9/11

ครั้งหนึ่งฉันได้ไปยืนอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นจุดที่เกิดความสูญเสียของชาวอเมริกันชน และชาวโลก อย่างที่ไม่ได้เคยมีแผนมาก่อน หากไม่มีใครรู้ประวัติความเป็นมา สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นไซด์งานก่อสร้างขนาดใหญ่กลางแหล่งธุรกิจของกรุงนิวยอร์ค

ถึงแม้นไม่ใช่ในวันครบรอบแห่งโศกนาฏกรรมครั้งนั้นแต่ฉันเชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่อเมริกันชนได้เดินผ่านมายังบริเวณนี้ พวกเขาก็จะระลึกถึงเหตุการณ์วินาศกรรมในครั้งนั้น รำลึกถึงภาพความสูญเสีย และยิ่งกว่านั้นผู้ที่เป็นส่วนหนึงของความสูญเสีย คงจะรู้สึกเศร้าใจที่ต้องผ่านมาในบริเวณนี้

สถานที่แห่งนี้แม้นจะเป็นศูนย์กลางของภาคธุรกิจของสหรัฐอเมริกา แต่ก็ได้รับความเคารพจากชาวอเมริกันที่ผ่านไปผ่านมา ในขณะที่ผู้มาเยือนเมืองธุรกิจแห่งนี้ แทบจะทุกคนไม่ละโอกาสที่จะเข้ามาชมจุดแห่งความสูญเสียในอดีต จนแทบจะถูกระบุอยู่ในโปรแกรมทัวร์ของทุกบริษัทนำเทีย่วนิวยอร์ค ไม่ว่าจะมาเพื่อรำลึกถึง ไม่ว่าจะมาเพื่อเที่ยวชม ไม่ว่าจะมาเพื่อให้ได้ชื่อว่าเคยมา แต่ ณ สถานที่แห่งนี้มีความรัก ความผูกพัน ความสูญเสีย และสมควรที่จะได้รับความเคารพในฐานะสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์โลก

บรรยากาศโดยทั่วไปในวันนั้นไม่ได้ต่างกันวันอื่น ๆ ที่ผู้คนยังคงเดินไปมา รถรายังคงสัญจร มีเพียงสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมา ที่มองไปที่ Ground Zero แห่งนี้ด้วยสายตาที่ต่างกัน

ในวันนี้ แม้นไม่มีชุดดำเพื่อไว้ทุกข์ ไม่มีดอกไม้ในมือเพื่อแสดงความเสียใจ ไม่มีอะไรที่จะบ่งบอกถึงความสูญเสีย มีเพียงความสงบแห่งจิตที่มุ่งรำลึกถึงความสูญเสียในครั้งนี้เท่านั้น...ด้วยอาลัย

ในทุก ๆ วันที่ 9 กันยายน ของทุกปี ผู้คนจะหลั่งไหลกันมาประกอบพิธีกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น ในปีนี้ก็เช่นกันในขณะที่ประธานาธบดี Barack Obama และสตรีหมายเลขหนึ่ง Michelle Obama ประกอบพิธีไว้อาลัยให้แก่โศกนาฏกรรมดังกล่าวที่ทำเนียบขาว และที่ตึกกระทรวงกลาโหม แพนตากอน

ในขณะที่บริเวณ Ground Zero นั้น นาย Joe Biden และภรรยา wife Dr. Jill Biden และ ผู้ว่าการนครนิวยอร์ค นาย Michael Bloomberg ได้เข้าประกอบพิธีกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงผู้สูญเสียในเหตุการณ์นี้ พร้อมด้วยบรรดาชาวนิวยอร์คและครอบครัวของผู้ที่สูญเสียในเหตุการณ์นี้

ขอร่วมไว้อาลัย และแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของผู้สูญเสียทุกผู้ทุกนาม ทุกเพศทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกภาษา ขอคัดค้านและแสดงความต่อต้านการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ

ขอบคุณภาพบางส่วนและบางข้อมูลจาก Internet