เชี้ยวยีจึงเล่าให้ อ.แหววฟังว่า ปลัดอำเภอถามว่า ทำไมอาจึงเหมยและเล่าสือซึ่งเป็นบิดามารดาของเชี้ยวยีจึงจึงไม่ได้ไปแจ้งการเกิดของเชี้ยวยีจึงต่ออำเภอหรือเทศบาล ? อ.แหววนิ่งฟังเชี้ยวยีจึงเล่า เธอผู้นี้เกิดในประเทศไทยเมื่อราว พ.ศ.๒๕๐๐ เธอแก่กว่า อ.แหวว ๑ ปี อ.แหววเกิดที่เชียงใหม่ในโรงพยาบาลหมอจินดา แต่เชี้ยวยีจึงเกิดในป่าสูงที่ดอยหัวแม่คำ แน่นอนไม่มีโรงพยายาลในเวลานั้นบนดอยดังกล่าว ในวันนี้ บนดอยสูงของจังหวัดเชียงใหม่ก็ยังไม่เป็นพื้นที่ที่เข้าถึงกันได้แบบง่ายๆ บางดอยนั้น รถที่เข้าถึงได้ ต้องเป็นรถโพว์วีล ซึ่งมีกำลังขับเคลื่อนล้อหน้าอย่างทรงพลัง และถ้าฝนตก ก็ไม่ต้องหวังว่า จะไปถึงได้ง่าย อ.แหววเกือบตายเพราะไปพื้นที่แบบนี้ในยามฝนตก ก็หลายหน คำถามของคุณปลัดหนุ่มดังกล่าวข้างต้นย่อมเป็นคำถามที่ไม่ตระหนักในบรรยากาศของสภาพบ้านเมืองของบ้านหัวแม่คำใน พ.ศ.๒๔๙๖ หรือ พ.ศ.๒๕๐๐ และยังเป็นคำถามจากผู้ถามที่อาจไม่ตระหนักในประวัติศาสตร์กฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ใน พ.ศ.๒๔๙๙ ก็อาจจะยังไม่มีอำเภอแม่จันเสียละมัง เทศบาลนั้นก็ไม่ต้องกล่าวถึง ยังไม่มี ขอให้ทราบว่า แม้มาตรา ๒ แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎรในเขตต์เทศบาล พ.ศ.๒๔๗๙ กลับบัญญัติว่า ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ในท้องถิ่นซึ่งมีฐานะเป็นเทศบาลเมื่อพ้นกำหนดหกเดือนหลังจากได้ประกาศพระราชบัญญัตินี้ในราชกิจจานุเบกษา ส่วนในท้องถิ่นใดซึ่งยังมิได้มีฐานะเป็นเทศบาลในวันประกาศพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้เมื่อพ้นกำหนดหกเดือนหลังจากได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษายกฐานะท้องถิ่นนั้นเป็นเทศบาล ซึ่งแปลว่า กฎหมายนี้ก็เข้าใจว่า ในพื้นที่ที่เทศบาลไม่มี มาตรา ๑๗ ก็ยังไม่อาจมีผลบังคับ เราต้องหันมาตั้งคำถามต่อไปว่า แล้วอำเภอหรือเทศบาลเกิดในพื้นที่บ้านหัวแม่คำเมื่อไหร่กัน ? คงไม่ใช่ใน พ.ศ.๒๔๙๖ หรือ พ.ศ.๒๕๐๐ ดังนั้น หากอาจึงเหมยจะไม่อาจแจ้งเกิดให้เชี้ยวยีจึง ก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดา และหากเชี้ยวยีจึงจะไม่มี ใบสำคัญ ซึ่งนายทะเบียนท้องถิ่นออกเพื่อบันทึกการแจ้งเกิดของเชี้ยวยีจึง ก็น่าจะยิ่งเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ดังนั้น หากเชี้ยวจึงจะตกเป็นคนไร้รัฐ ก็มิใช่เรื่องที่แปลก เพราะเธอเกิดก่อนระบบทะเบียนราษฎรทั่วไปที่รัฐไทยสถาปนาขึ้นเพียงใน พ.ศ.๒๔๙๙ โดย พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร พ.ศ.๒๔๙๙ แต่โปรดทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของเชี้ยวยีจึง และชาวเขาในสถานการณ์เดียวกับเธอ ได้ถูกบันทึกอย่างละเอียดละออโดยศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา เราจึงทราบว่า เชี้ยวยีจึงเกิดในประเทศไทย เธอจึงมีสัญชาติไทยโดยผลของกฎหมายทีเดียว แต่ด้วยประเทศไทยในราว พ.ศ.๒๕๑๕ กลัวภัยคอมมิวนิสต์ที่แพร่หลายเข้ามาจากทางลาว เขมร เวียด และจีน รัฐบาลทหารในยุคนั้นจึงผลักดันกฎหมายออกมา ๑ ฉบับที่เรียกว่า ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ ซึ่งมีผลถอนสัญชาติไทยของบุคคลที่เกิดในประเทศไทยจากบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศไทยในลักษณะไม่ถาวร แล้วกฎหมายนี้เกี่ยวอะไรกับเชี้ยวยีจึง ? เชี้ยวยีจึงเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกถอนสัญชาติไทยเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ โดยกฎหมายนี้ เพราะ อาจึงเหมยและเล่าสือ เป็นชาวเขาที่เดิมอาศัยอยู่ตามแนวชายแดน และต่อมา จึงอพยพเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย แม้ถูกถอนสัญชาติไทยแล้ว เชี้ยวยีจึงก็ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย และยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรของรัฐไทยประเภทคนต่างด้าวอยู่ชั่วคราว แต่เมื่อประเทศลีซูไม่มีอยู่จริง เชี้ยวยีจึงจึงไร้สัญชาติ แต่ในวันนี้ เรื่องราวความไร้สัญชาติของเชี้ยวยีได้รับการเรียนรู้และรับรู้ จึงได้มีนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๗ ที่จะให้คืนสัญชาติไทยแก่เชี้ยวยีจึง นโยบายนี้เรียกกันโยทั่วไปว่า มติโภคิน เพราะคนที่ผลักดันเรื่องนี้ ก็คือ ดร.โภคิน พลกุล ในสมัยที่ท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และวันนี้ เชี้ยวยีจึงก็ได้รับการรับรองสิทธิในสัญชาติไทย โดยได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านในสถานะคนสัญชาติไทย และได้รับบัตรประชาชนของคนสัญชาติไทย หลังจากที่มีการต่อสู้อยู่นาน และยังมีคนในสถานการณ์เดียวกับเชี้ยวยีจึงอีกมากมาย ที่ได้คืนสิทธิในสัญชาติไทย แต่ยังไม่ได้รับการรับรองสิทธิ ทำอย่างไรดี ? |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
เยี่ยมชุมชนคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติในภาคใต้ | ||
![]() |
||
เคยเชื่อว่า ไม่มีคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติในภาคใต้ แล้วก็รู้ว่า คิดผิด เมื่อรู้ว่า มี ก็ต้องสำรวจปัญหากัน จะแก้ปัญหา แล้วจะไม่ทราบสาเหตุของปัญหา ก็แก้ไม่ได้หรอกค่ะ |
||
View All ![]() |
ห้วยน้ำอุ่น อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย : ห้องทดลองทางสังคม | ||
![]() |
||
เป็นวีดิโอที่เรียบเรียงจากภาพนิ่งที่ถ่ายในราววันที่ ๑๑ - ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ เราทดลองพิสูจน์สัญชาติไทยให้แก่ชาวเขาที่ห้วยน้ำอุ่น ถามมานะต้องตี๋หน่อยจอยบี ฯลฯ ว่า ยังจำได้ไหม ? |
||
View All ![]() |
<< | สิงหาคม 2007 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |