สินเชื่อประเภทนี้ เด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จักแล้วละ เพราะส่วนมากจะหลงระเริงกับสินเชื่อส่วนบุคคล  คนสมัยก่อนยุค 80-90 จะรู้จักดี มันก็คือสินเชื่อที่เอาเงินฝากมาค้ำประกันเท่านั้นเอง  หลายคนสงสัยมีเงินฝากแล้วจะขอสินเชื่อไปทำไม ไร้ประโยชน์  นั่นนะซิ  มีเงินสดแล้วไปกู้มาทำไมให้เสียดอกเบี้ย  คำถามนี้น่าคิด

ถามใครไม่สู้ถามลูกค้าเลย  จะเอาไปทำไมกันสินเชื่อประเภทนี้  

คำตอบคือ ก็เอาไปหมุนเวียนในธุรกิจซิ  เพราะเงินต้นอยู่ครบ ค้ำประกันไว้   เงินที่เอามาหมุนก็มีดอกเบี้ยน้อยมาก เพราะอัตราดอกเบี้ยจะอิงกับส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เรียกว่า Spread +1.5% ต่อปี  คนแก่สมัยก่อนผมว่าฉลาดกว่าเด็กสมัยนี้นะ เพราะเด็กสมัยนี้เรียนมากโง่มาก  เอาสินเชื่อส่วนบุคคลที่ดอกเบี้ย 18 -22% ต่อปี มาหมุนใช้ในธุรกิจ กำไรมันจะเหลืออะไรละ  กำไรส่วนมากก็ไม่ถึง 5 -10 % ต่อปี  กลับมาเสียดอกเบี้ยแพงกว่ากำไรเสียอีก  คุ้มจริงๆ    บางคนอวดฉลาดผมสู้ครับ  สู้แล้วรวย  เวรกรรม เตือนแล้วยังไม่ฟังอีก ค้าขายทั้งวันไม่มีกำไร แล้วยังบอกว่าสู้อีก  บ้าบอแล้วละเธอ 

จริงๆ ตอนนี้จะหาสินเชื่อประเภทนี้ก็ยากมาก เพราะธนาคารไม่ค่อยจะปล่อยแบบนี้แล้วละ กำไรมันน้อยมากเลย ยิ่งธนาคารต่างประเทศไม่เอาด้วยละ   ธนาคารที่ชอบปล่อยก็ต้องพวกธนาคารไทยแท้  สมัยก่อนปล่อยกัน 2 เท่าของเงินฝากเลยละ  เงินมันก็หมุนไปเรื่อยๆ     ผมว่าจริงๆ ตอนนี้ก็น่าใช้นะ เพราะดอกเบี้ยเงินฝากแค่ 1.3% ต่อปี จะเอาไปใช้อะไรได้ละครับ    เอาไปค้ำประกันเงินกู้ดีกว่าไหม   หลายคนบอกว่าดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะไปฟังข่าวในอินเตอร์เนตเยอะ   นั่นมันดอกเบี้ยเมืองนอกครับ  

แต่เมืองไทยนะ  ผมเจอเซียนตัวจริงแล้ว  เพราะผมก็อยากรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร  เขาบอกผมว่า ดอกเบี้ยจะขึ้นนะต้องอยู่ที่ปริมาณเงินกู้ครับ  ถ้าคนกู้มาก ดอกเบี้ยก็จะขึ้นทันที  ถ้าไม่มีคนกู้ดอกเบี้ยมันก็ไม่ไปไหนหรอก  เรื่องดอกเบี้ยต่างประเทศมันก็อีกเรื่องหนึ่งที่ นักวิเคราะห์ชอบเอามาพูด    ผมเองก็ติดตามข่าวมานาน 20 ปี ก็พอแยกแยะว่าใครพูดแล้วเป็นจริง ใครพูดแล้วไม่เป็นจริง    ผมเห็นด้วยนะ ดอกเบี้ยในเมืองไทยต้องอิงกับการกู้ในประเทศไทย  ถ้าดอกเบี้ยมันต่ำเลข 1 ผมว่า ไม่จูงใจลูกค้าเลยละ  บางคนเอาไปลงทุนในกองทุนรวม ก็ได้บ้างเสียบ้าง  ที่เสียก็เพราะเขาเอาเงินไปแช่ไว้ในกองทุนนานเกินไป  แบบว่า หลงเข้าใจว่า ลงทุนยิ่งนานยิ่งดี จะมีกำไร  ...... ผมเถียงนะว่าไม่จริง   

กลับมาเรื่องสินเชื่อเงินฝากค้ำเต็ม  ตอนนี้ที่ผมเช็คสอบมาก็อยู่ในช่วง Spread 1.50% ต่อปี  บางคนก็กำลังหา 1.00% ต่อปี  อันนี้ก็ต้องใช้ฝีมือและอาศัยช่วงเวลาที่ผู้จัดการสาขาจะเร่งเป้าเร่งยอดนะครับ   แบบว่าช่วงปิดไตรมาส ต้องทำตัวเลข บอกเขาไว้ เดี่ยวผู้จัดการสาขาก็โดนงับเองแหละ  สมัยนี้ผู้จัดการสาขาไม่หยิ่ง เหมือนสมัยก่อนแล้วละ   วันๆ ยกมือไหว้ ลูกค้าไปทั่ว จนจะเรียกว่า แย่งยอดขายเด็กก็ได้นะ  เกือบลืมบอกไป สินเชื่อเงินฝากค้ำเต็ม ควรจะไปอิงเป็นวงเงินประเภทโอดีนะ  เพราะวงเงินโอดี ไม่ตีเช็คออกไป ก็ไม่เสียดอกเบี้ย  แต่หากไปอีกวงเงินประเภทเทอมโลน (เงินกู้)  แบบนี้เหมือนกับว่าเราได้เบิกเงินกู้ออกไปแล้ว  ดังนั้นดอกเบี้ยมันจะวิ่งทันทีเลยนะ    ข้อเสียของเทอมโลนมันคือ ดอกเบี้ยคิดเต็มครับ