*/
โจวเอินไหล ฝากชื่อไว้ในแผ่นดิน | ||
![]() |
||
เป็นหนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งที่ได้อ่านในชีวิต |
||
View All ![]() |
trouble | ||
![]() |
||
ช่างเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์อะไรเยี่ยงนี้ ฮ่าๆ |
||
View All ![]() |
<< | ตุลาคม 2007 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |
คิดอยู่นานเชียวค่ะว่า จะเขียนถึงหนังเรื่องไหนดี ท่ามกลางสภาวะกดดันแบบนี้! พอกดดันมากๆเข้า..เคยมีคนบอกว่า ถ้าได้ตะโกนออกมาบ้างจะทำให้รู้สึกดีขึ้น! ใครหนอที่อยู่หลังประตูสีแดง กำแพงสูงใหญ่.. ร้องตะโกนออกไปด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราดขนาดนั้น!
THE ONE ..And the only!.. อั้ยซิง เจียวหรอ ฟู่อี้.. หรือจักรพรรดิ"ปูยี" นานเลยนะคะสำหรับหนังเรื่องนี้.. ไม่รู้ว่ายังมีใครจำกันได้หรือเปล่า?
เก่งมากๆ! น่าจะส่งไปกล่อมให้ช่วยพูดเรื่อง พม่ามั่งเนอะ! ทั้งหมดที่ว่ามา ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้.. แล้วมันเกี่ยวกับความกดดันที่ตรงไหน? ............................................................................... คนเราถ้าถูกคุมขัง มันก็คงรู้สึกอึดอัด กดดันด้วยกันทั้งนั้น
เพราะว่าก่อนหน้าที่องค์จักรพรรดิจะร้องอยู่หลังประตูวังต้องห้ามว่า Open the door!.. นั้น หนังเขาแนะนำให้เรารู้จักกับภาพแรกของพระองค์เมื่อปี 1950 ..ในฐานะ "อาชญากรสงคราม"..
นี่ไง! จักรพรรดิปูยี.. .......................................................................................... แค่เริ่มเรื่องพระองค์ก็เป็นอาชญากรแล้ว.. ต้องถูกสอบสวน ติดคุก ติดตะราง แต่สำหรับนักโทษ.. ถ้าไม่ใช่คดีที่มีโทษถึงประหาร ก็ยังมีวันได้รับอิสระ..
เพราะตั้งแต่วัยเด็ก.. แค่ 3 ขวบเท่านั้น!.. ก็ถูกนำตัวเข้าวังตามพระราชโองการของพระนางซูสีไทเฮา โดยทันที่ที่สิ้นเสียงของพระนางซูสีไทเฮาที่มีรับสั่งสุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ว่า ให้ปูยีเป็นโอรสแห่งสวรรค์.. นั่นก็เหมือนเป็นประกาศิตที่ลิขิตให้ชีวิตของพระองค์ถูกจองจำอยู่ในวังแห่งนั้นเป็นต้นมา.. การจองจำ จนไม่รู้จักคำว่า "อิสระ" ขององค์จักรพรรดินั้น มันช่างยาวนานนัก.. "เราไม่เคยพบเด็กคนอื่นเลย ทุกคนเหมือนเจ้ามั้ย?" นี่เป็นคำถามที่ปูยีถามกับปูเจี๋ย พระอนุชาที่เข้าวังมาเป็นครั้งแรก "หม่อมฉันมีน้องสาว 3 คนและเพื่อนอีก 2 คน" ปูเจี๋ยตอบด้วยความยินดี แล้วก็ชวนปูยีต่อด้วยประโยคที่ว่า.. "ถ้าฝ่าบาทเสด็จไปที่บ้าน เราจะได้ไปเล่นด้วยกัน" "แต่..จักรพรรดิออกจากวังไม่ได้".. เป็นคำตอบของจักรพรรดิปูยีที่มีให้กับพระอนุชา! ด้วยประโยคนี้ ฉันรู้สึกว่า พระองค์ช่างเป็นเด็กในเรือนจำที่เปลี่ยวเหงาเสียเหลือเกิน.. หลายปีผ่านไป.. พระชนมายุมากขึ้น.. มีพระอาจารย์คนใหม่เป็นชาวต่างชาติ
คำตอบนี้ส่งผลอย่างไรต่อองค์จักรพรรดิบ้าง? "พวกนักศึกษามีสิทธิที่จะโกรธ เราก็โกรธ..แต่ว่าเราออกไปจากวังต้องห้ามไม่ได้..เราอยากออกไปข้างนอก อยากเห็นบ้านเมืองข้างนอก!" จักรพรรดิตะโกนตอบ.. ทรงตะโกนน่ะ.. "ได้".. แต่ออกไป.."ไม่ได้"..
หนังเล่าถึงช่วงเวลาแห่งการเติบโตของพระองค์ผ่านการเล่าเรียนกับพระอาจารย์ชาวต่างชาติที่รับบทโดย" ปีเตอร์ โอทูล" .. จนกระทั่ง..
"อิสรภาพ" มาทำความรู้จักกับพระองค์ในแบบที่เผชิญหน้ากันจริงๆเป็นครั้งแรก.. ผ่านคำพูดของนายทหารที่ทำการปฏิวัติ..
และหลังจากออกไปจากประตูวังได้เป็นครั้งแรกนี้ .. ที่ได้พบคือ อิสรภาพ ที่ทรงรอคอยมานานจริงๆและตลอดไปหรือว่าเป็นเพียงแค่ภาพ แค่เงา ที่เข้าใกล้แล้วก็จางหาย..? ..............................................................................
ฉันว่า The Last Emperor เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของจักรพรรดิพระองค์นี้มีวิธีการเล่าด้วยท่วงทำนองที่น่าสนใจ.. เป็นการเล่าซึ่ง.. ให้อิสระในความคิดกับคนดู ยุติธรรมกับทุกฝ่ายในเรื่อง.. ไม่สุดโต่งไปกับข้อมูลด้านเดียว แต่ทุกฝ่ายในเรื่องนี้.. ต่างก็มีเหตุปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป..
การจองจำองค์จักรพรรดิในฐานะอาชญากรสงครามนั้น "ผู้คุม"บางคน ก็ดูเข้มงวดกับพระองค์เกินไป.. และการที่เขาปล่อยให้จักรพรรดิพ้นสภาพการเป็นนักโทษ เขาบอกทหารว่า ต้องมีการเข้าใจผิด.. ผู้ชายคนนี้เป็นคนดี!
เห็นเหมือนกันมั้ยคะว่า แค่ "อิสระในการคิด" ตอนดูหนัง มันยังสำคัญขนาดนี้เลย..! ไม่ว่าคนชาติไหน หรือระดับใด เมื่อถูกจำกัดอิสรภาพ เขาก็ย่อมอึดอัด กดดันเป็นธรรมดา เสียงตะโกนที่ออกมาจากองค์จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนนั้น..สิ้นสุดไปแล้ว.. แล้ว.. ถ้าจะสร้างจริงๆ.. ฉันฝากแถวราชดำเนินหลายช่วงเวลาด้วยนะคะ.. กรือเซะก็ด้วย..ทนายสมชายก็อีก.. ฆ่าตัดตอนยาเสพติด 2,500 ก็ควร.. ฯลฯ เฮ่ย!.. ทำไมของไทยมันเยอะนักนะ ? ..???... เมงกาละบา Everybody ค่า.. BeckyBlooms P.S. ใครบ่นว่ายาวโปรดรับรู้.. เพราะหนังเรื่องนี้มันยาวเช่นกัน เรียกว่าเขียนแบบให้เกียรติหนังนั้นแล อิๆๆ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |