เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปดูนกที่พุทธมณฑล กะไว้ว่าจะไปหานกตบยุง ปกติจะพบนกตบยุงเล็ก (Indian Nightjar | Caprimulgus asiaticus) นอนอยู่ตามพื้นหลายตัวในเขตเวฬุวัน แต่เมื่อพาคนอื่นไปตามหามันมักรับประทาน"แห้ว"อยู่เสมอ ไม่เจอแม้แต่เงา จนทำให้ต้องลงทุนเดินลุยกองใบไม้แห้งเข้าไปรบกวนมันนอนเผื่อว่ามันจะบินขึ้นมา เนื่องจากสีของมันกลมกลืนมากจนบางครั้งยากที่จะมองเห็นหากมันนอนสงบนิ่งอยู่กับพื้น แต่ในครั้งนี้ไม่มีเลยแม้แต่ตัวเดียว พุทธมณฑลในช่วงนี้มีน้ำขังตามพื้นจนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เป็นอุปสรรคในการดูนกพอสมควร การที่ยุงเยอะนี่ไม่ได้หมายความว่านกตบยุงจะเยอะตามไปด้วยหรอกนะครับ เนื่องจากอาหารหลักของนกตบยุงคือผีเสื้อกลางคืน ลองคิดดูสิครับว่านกตัวเท่านกเขานี่จะต้องกินยุงสักกี่ตัวมันถึงจะอิ่ม พุทธมณฑลยังคงเต็มไปด้วยคนใจบุญมาให้อาหารสัตว์ หารู้ไม่ว่าสัตว์ที่ท่านให้อาหารเหล่านั้นหลายชนิดเป็นสัตว์ต่างถิ่นที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในเมืองไทยได้เก่งกาจจนก่อปัญหาให้กับสัตว์พื้นเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม ตัวที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดที่นี่เห็นจะเป็นเจ้าปลาดุกพันธุ์ผสมระหว่างดุกอุย(บางทีก็ดุกด้าน)และดุกรัสเซีย (จริงๆแล้วมาจากแอฟริกา) ที่เรียกว่า "บิ๊กอุย" ซึ่ง big สมชื่อครับ หลายๆท่านที่เคยไปให้อาหารปลาที่พุทธมณฑลคงเคยเห็นปลาดุกที่ปากกว้างขนาดอมมือเราได้ และมีความยาวเกือบเมตรนึง แม้แต่น้องเต่าที่มีพฤติกรรมสุดแสนจะน่ารักในการมาแย่งกินขนมปังที่โยนให้ปลาพวกนี้ก็หาใช่สัตว์พื้นเมืองบ้านเราไม่ครับ พื้นเพมาจากอเมริกา แต่ลูกมันตัวเล็กๆลายๆสีเขียวๆแก้มสีแดงน่ารักน่าเอ็นดูที่ขายกันอยู่ทั่วไปถูกเรียกกันอย่างติดปากว่า "เต่าญี่ปุ่น" ทำไมชื่อไทยของสัตว์แต่ละชนิดถึงฟังดูผิดที่ผิดทางแบบนี้ผมก็ไม่ทราบชัดเจนครับ แต่เข้าใจว่ามันคือกลยุทธ์ในการตั้งชื่อ"สินค้า"ให้ติดปากเข้าว่า ถ้าหากจะให้ยกตัวอย่างชื่อทำนองนี้ขึ้นมาก็ยังมีอีกเพียบ ที่ตลาดธนบุรี (สนามหลวง2) เองก็มีร้านที่จัดจำหน่ายสัตว์ในราคาถูก (สำหรับปล่อยโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้) ไม่ว่าจะเป็นปลานิล ปลาหมอเทศ ปลายี่สกเทศ ปลานวลจันทร์เทศ ฯลฯ (ที่ลงท้ายด้วย"เทศ"ก็เพราะมันไม่ใช่ปลาไทยนั่นเอง แต่บนถุงปลาอย่างยี่สกเทศก็จะเขียนว่า"ยี่สก"เท่านั้น ไม่มีคำว่า"เทศ"กำกับอยู่ด้วยหรอกนะครับ) คิดดูละกันครับว่าถ้าเจ้าพวกนี้ถูกปล่อยลงแม่น้ำลำคลองทีละมากๆเข้าจะเกิดอะไรขึ้นกับปลาไทยของเรา ได้บุญหรือบาปครับแบบนี้? ขอพักเรื่องภัยของสัตว์ต่างถิ่นไว้ ณ ที่นี้ก่อนที่จะกลายเป็นบล็อกกลายพันธุ์ออกปากแม่น้ำลอยทะเลไปไกลเกินนะครับ (สักวันจะต้องกลับมาเขียนถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดแน่นอน แหม คันไม้คันมือ) เมื่อไม่เจอนกตบยุง เจอแต่ยุง(ซึ่งเยอะโคตร) จึงตัดสินใจทานข้าวมื้อเช้าควบเที่ยงแล้วมุ่งหน้าไปยัง "ศูนย์วิจัยป่าชายเลนมหาชัย" เมื่อมาถึงที่หมายผมก็ไม่รีรอที่จะไปแอบดูนกอาบน้ำ อุตส่าห์ขับมาตั้งไกล อากาศก็ร้อน ก็ต้องมาแอบดู(แอบถ่ายรูปด้วย)น้องนกอาบน้ำให้กระชุ่มกระชวยกันหน่อย เอาใจคนชอบสาวแว่นด้วยนกแว่นตาขาวสีทอง (Oriental White-Eye | Zosterops palpebrosus williamsoni) ที่ยกโขยงมาอาบน้ำกันเป็นฝูง เจ้าตัวเล็กพวกนี้จริงๆแล้วว่องไวปราดเปรียวมากจนโอกาสใช้กล่องส่องดูตัวมันให้ทันได้ยากเวลาพบเห็นมันในป่า นอกจากเวลาอาบน้ำก็จะมีจังหวะที่มันกำลังกินน้ำหวานดอกไม้ที่จะได้เห็นนก hyperactive ชนิดนี้เกาะอยู่นิ่งๆบ้าง นอกจากแว่นตาขาวฯ ก็มีนกอีกหลายชนิดที่มาใช้บริการอ่างน้ำ นกกินปลีคอสีน้ำตาล (Brown-throated Sunbird | Anthreptes malacensis) ตัวผู้ ตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกจากนี้ยังเจอ นกโกงกางหัวโต (Mangrove Whistler | Pachycephala grisola) ออกมาโฉบจับแมลงกินบริเวณอ่างอาบน้ำนกนี้ด้วย ซึ่งก็เป็นนก"กวนteen"อีกหนึ่งชนิดในความเห็นผม เนื่องจากเวลาไปตามหามักไม่เจอ แต่เจอแทบทุกครั้งเมื่อไปป่าชายเลนแบบชิวๆ คือไม่สนใจที่จะตามหา การดูนกนี่มันขึ้นอยู่กับ"จังหวะ"ที่บางทีก็ยากที่จะคาดเดา ที่เรามักพูดกันว่า"ขึ้นอยู่กับดวง"นั่นเอง
ที่ศาลาริมทะเลตอนนี้หากน้ำลงจะพบนกชายเลนเยอะมากครับ แต่อาจจะอยู่ไกลลิบกันสักหน่อย มีนกอีก๋อยเล็ก นกนางนวลแกลบเคราขาว ฯลฯ อยู่มากมาย ที่ผมแปลกใจเพราะนกเหล่านี้ควรจะอพยพกลับประเทศเขตหนาวทางเหนือเพื่อทำรังวางไข่ แต่เหตุใดพวกมันจึงยังคงหากินกันอยู่ในเมืองไทยเป็นจำนวนมากก็ยังเป็นที่น่าสงสัย เมื่อลองนำเรื่องนี้ไปบอกเล่านักดูนกหลายๆท่านก็ได้คำตอบ(ยอดฮิต)ว่า Global warming! จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่ทราบนะครับ แต่การที่โลกเราร้อนขึ้นอาจเป็นต้นเหตุของการอยู่ผิดที่ผิดเวลาของสัตว์หลายชนิด ต่อจากป่าชายเลนก็ตัดสินใจแวะที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เนื่องจากเป็นสวนที่มีโอกาสพบนกหลายชนิดที่พบน้อยในแถบกรุงเทพฯได้ง่ายๆ และอยู่ในเส้นทางพอดิบพอดี หอชมวิวของที่นี่ถือเป็นจุดที่มักเห็นนกที่น่าสนใจได้เสมอๆ แต่วันนี้ไม่เจออะไรมากไปกว่านกเปล้าคอสีม่วง (Pink-necked Green Pigeon | Treron vernans) ที่ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมากที่สวนแห่งนี้ นกเปล้าเป็นนกในวงศ์เดียวกับนกเขาและนกพิราบ คือ Columbidae แต่นกเปล้า(และนกลุมพู)เป็นกลุ่มที่กินผลไม้ ต่างจากนกเขาและนกพิราบซึ่งกินเมล็ดพืชเป็นหลัก เมื่อเริ่มเย็นมากแล้วจึงตัดสินใจกลับบ้าน ในระหว่างทางเดินกลับมาที่รถนั้น ก็ได้เจอนกเปล้าอีกฝูงหนึ่งเกาะอยู่บนพุ่มไม้หนาทึบ ใช้กล้องส่องดูก็เห็นว่ามีปีกสีน้ำตาลแดง ในใจคิดว่าเป็นนกเขาเปล้าธรรมดา (Thick-billed Green Pigeon | Treron curvirostra) ที่พบเห็นค่อนข้างบ่อยที่นี่ (นกเปล้าคอสีม่วงมีปีกสีเขียวทั้งตัวผู้และตัวเมีย) แต่.. เอ๊ะ ความรู้สึกมันไม่ใช่เขาเปล้าธรรมดาครับ ปากไม่มีสีแดง หน้าตาดูโล่งๆไม่มีวงรอบตาอย่างที่เขาเปล้าธรรมดาพึงมี
นี่ถือเป็นครั้งที่สองของผมสำหรับการได้เห็นตัวนกเปล้าชนิดนี้ (ครั้งแรกก็ที่สวนหลวง ร.๙ เมื่อเดือนธันวาปีที่แล้วพร้อมๆกับคนอื่นๆนั่นแหละครับ) ได้รายงานการพบเห็นไปยังเวบของสมาคมอนุรักษ์นกฯเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนจุดที่พบนกในสวนนั้นหากต้องการไปดูก็ส่งข้อความถามมาได้นะครับ ของดไม่โพสต์รายละเอียดลงในบล็อกเนื่องจากจุดที่พบเป็นต้นไม้ที่พวกมันใช้เป็นที่เกาะนอนหลับ จึงไม่ต้องการให้มีคนไปรบกวนพวกมันมากเกินไป ในสวนแห่งนี้ผมพบเด็กพกหนังสะติ๊กไล่ยิงจักจั่นเพื่อจับไปเลี้ยงกันเป็นเรื่องปกติ (หากมันยังรอด) อาจยิงนกด้วยถ้ามีโอกาส สำหรับนกที่เรียกได้ว่าหาดูตัวได้ค่อนข้างยากชนิดนี้จึงค่อนข้างห่วงเป็นพิเศษ การมาได้เจอพวกมันอย่างไม่คาดคิด ทั้งๆที่เดิมทีแค่หวังว่าจะหานกกะเต็นใหญ่ธรรมดาให้คนอื่นได้ดูกันเพราะเจอได้บ่อยที่นี่ การที่มีโอกาสเจออะไรเหนือความคาดหมายอยู่เสมอนี่นับเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ได้จากกิจกรรมดูนก(ซึ่งอาจจะมีให้ลุ้นได้มากกว่าการตามหาสัตว์ประเภทอื่น) คงเป็นเพราะนก(ส่วนใหญ่)เห็นตัวได้ง่ายกว่าสัตว์ประเภทอื่นๆ และไม่จำเป็นต้องลงไปในน้ำหรือพลิกขอนไม้เพื่อตามหา แต่พบเห็นได้ทั่วไปในทุกสถานที่ หลายชนิดมีการอพยพย้ายถิ่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัจจัยทางด้านภูมิอากาศหรืออาหารการกิน ก็นกมีปีกบินไปไหนมาไหนได้นี่ครับ ขอขอบคุณ พี่อุ๊, คุณเจษฎา, คุณเด่นดวงจันทร์ ที่ชวนไปร่วมดูนกในครั้งนี้ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มิถุนายน 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 |