*/
<< | กรกฎาคม 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
หลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ตั้งแต่วันที่ 25 เดือนที่แล้ว อันเริ่มมาจากการคัดค้านยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาปักหลักที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ จนกระทั่ง วันที่ 20 ที่ผ่านมา จึงได้ยกขบวนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เดิมนั้นรัฐบาลไม่เปิดโอกาสให้รัฐสภาทำงานทั้งการอภิปรายทั่วไปของ สว. และการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน จนในที่สุดคอการเมืองเรียกว่า "รัฐบาลจนตรอก" หรือ "ยุทธการไล่สุนักเข้ากรง" ทำให้รัฐบาลจำต้องเปิดสภาเพื่อให้วุฒิสภาและฝ่ายค้าน อภิปรายทั่วไป และอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะแรงกดดันจากกระแสสังคมมีมากจนอั้นไม่อยู่ ส่วนจะเป็นการแค่นเขียนกระทู้หรือกระเหี้ยนกระหือรืออภิปรายหรือไม่ ประชาชนชาวไทยก็ได้รับรู้กันแล้วว่า ฝ่ายค้าน สว. และพันธมิตรคิดยังไง รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลคิดยังไง จะปรับครม.หรือไม่ นั่นก็แล้วแต่ว่า ตัวนายกรัฐมนตรียังเขินอายต่อคำแนะนำของสื่อมวลชนหรือไม่ .... หากจะพูดถึงชัยชนะจากการกดดันรัฐบาล ตั้งแต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ การดำเนินคดีรัฐมนตรีข้อหาหมิ่นฯเบื้องสูง หรือแม้กระทั่งกรณีการลงนามรับรองในแถลงการณ์ร่วมการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหารของรัฐมนตรีต่างประเทศ จากการฟ้องร้องศาลปกครองของฝ่ายพันธมืตร ทำให้รัฐบาลจำต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล ให้ยับยั้งการลงนามนั้นไว้เป็นการชั่วคราว นั่นถือเป็นชัยชนะของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งในวานนี้นี้ครม.ก็ลงมติให้ รมว.ต่างประเทศไปชี้แจงในที่ประชุมมรดกโลกด้วยตนเอง แต่จะได้ผลในทางกฎหมายหรือไม่ ต้องแล้วแต่การตัดสินใจของรัฐบาลเขมร เพราะเมื่อลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว มันมีผลตามกฎหมายทันที การคัดค้านการขึ้นทะเบียนมาดกโลกฝ่ายเดียวจะมีผลหรือไม่ยังเป็นปัญหา ส่วนการดำเนินการด้านอื่นๆ ทั้งฝ่าย สว. และพรรคฝ่ายค้าน ก็ดำเนินการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อมาตรา 190 หรือไม่ ล่าสุด ประธานรัฐสภาก็ได้รับเรื่องไปดำเนินการต่อเรียบร้อยแล้ว ฟังเสียงนักวิชาการทางกฎหมายมหาชนแนวโน้มน่าจะออกมาทางบวกต่อฝ่ายต่อต้านค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันฝ่ายรัฐบาลก็ยังยืนยันว่า ...ครม. ไม่ผิด...แต่ก็นั่นแหละหลักการทางกฎหมายย่อมเป็นหลักการที่ยืนยงมาตั้งแต่อดีต ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นักกฎหมายมหาชนเขียนบทความเรื่องนี้ความยาว 2 ตอนบ่งบอกว่า การลงนามในแถลงการณ์ร่วม คือการทำสนธิสัญญาและส่อว่าขัดต่อมาตรา 190 อย่างชัดเจนเพราะเรื่องนี้ รัฐบาลต้องนำเข้าปรึกษาหารือในรัฐสภาและต้องนำข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนได้ร่วมรับรู้ เรื่องนี้ฝ่ายค้านได้ดำเนินการตาม มาตรา154(1) และประธานรัฐสภาได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตั้งแต่ 16.00 น. วันที่1 กรกฎาคมแล้ว คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อมาตรา 190 ครม.ทั้งคณะมีโอกาสถูกถอดถอนได้ไม่ยาก เพราะเป็นการกระทำตามมติครม. ตราบใดที่อำนาจตุลาการทำหน้าที่ได้ และได้รับการยอมรับ และนี่คือการคานอำนาจ การถ่วงดุลของอำนาจอธิปไตยทั้งสาม ตามรัฐธรรมนูญ ( มาตรา 3 ได้เพิ่มเติมข้อความให้ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการและองค์กรอื่นๆ ทำตามหลักนิติธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่มี ) วกมาเรื่องการชุมนุมหน้าทำเนียบนั้น ถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิ์ ของฝ่ายผู้ชุมนุมและฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ ต่างฝ่ายก็อ้างความชอบธรรมในการต่อสู้ไม่ลดละ แม้ฝ่ายรัฐบาลเองก็ใช้ทุกวิถีทางที่จะจำกัดการชุมนุม การเผยแพร่การถ่ายทอดสดของ ASTV แต่ก็ไม่มีผลใดๆ ฝ่ายกองกำลังของ สส.ฝ่ายรัฐบาล จัดหน่วย นปก. และกลุ่มมหาประชาชน ดำเนินการต่อต้านการชุมนุมของพันธมิตรมาโดยตลอด แต่หาได้ทำให้กลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมกันอยู่นานนับเดือนลดน้อยถอยลงไม่ เมื่อนักเรียน ครูอาจารย์จำนวน 10 คน ได้ไปยื่นร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้คุ้มครองชั่วคราว กรณีนี้ ศาลแพ่งโดยนายวรวิทย์ ฤทธิทิศ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งในคดีดังกล่าว ซึ่งระบุว่า หลังจากที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์ในชั้นไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวแล้ว เห็นว่าคดีนี้โจทก์ทั้งสิบ ฟ้องขอให้จำเลยทั้งหกรื้อถอนเวทีปราศรัย รวมทั้งขนย้ายสิ่งกีดขวางอื่นๆ ทั้งหมดที่ปิดกั้นบนถนน พระราม 5 และถนนพิษณุโลก ออกไปโดยอ้างว่า จำเลยทั้งหกกับพวกร่วมชุมนุม ปิดถนนดังกล่าวและตั้งเวทีปราศรัยประท้วงขับไล่รัฐบาลเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ทั้งสิบ และนักเรียน เพราะทำให้โจทก์ทั้งสิบ และเด็กนักเรียนไม่สามารถใช้ถนนได้ตามปกติ และเป็นการรบกวนการเรียนการสอนของ ร.ร.ราชวินิตมัธยม เพราะจำเลยทั้งหกกับพวกเปิดเพลง ปราศรัยถ่ายทอดเสียงผ่านเครื่องขยายเสียงที่ส่งเสียงดัง จึงขอให้ศาลห้ามมิให้จำเลยทั้งหกใช้เครื่องขยายเสียง ระหว่างเวลา 07.30 น.-14.30 น. กรณีนี้ จึงมีเหตุอันสมควรที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ในกรณีนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน หรือความเสียหายที่โจทก์ทั้งสิบและเด็กนักเรียน อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.254 (2) จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหกกับพวก เปิดพื้นที่จราจรบนถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลก ให้โจทก์ทั้งสิบ รถยนต์โดยสารสาธารณะและประชาชนสามารถผ่านไปมาได้โดยสะดวก และห้ามจำเลยทั้งหกกับพวกใช้เครื่องขยายเสียงในลักษณะที่เป็นการรบกวนการเรียนการสอนของโรงเรียนราชวินิตมัธยม ในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 07.30 น.-16.30 น. ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น คำขอนอกจากนี้ให้ยก ให้คำสั่งศาลนี้มีผลทันที ************************* แม้ทางหนึ่งเมื่อวานนี้ ทนายความฝ่ายพันธมิตรจะไปยื่นร้องคัดค้านที่ศาลแพ่งตามแนวทางการต่อสู้ แต่อีกทางหนึงฝ่ายพันธมิตรก็ได้รื้อถอนเต้นท์ จากเดิมที่กางเรียงราย ได้รื้อออกไปหมดแล้ว ส่วนเวทีก็มีการปรับเปลี่ยนเวทีให้มีขนาดเล็กลง และเปิดเวทีชุมนุมเมื่อเวลา 16.30 น. ตามคำสั่งศาล ดูเหมือนว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับพันธมิตร จะรู้สึกดีใจ สะใจ ที่พันธมิตรต้องแพ้คดีนี้ แต่หากมองการต่อสู้ในภาพรวมก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ในทางการเมืองนั้น ฝ่ายรัฐบาลและบริวาร หาได้กระทำการใดๆ ที่ระคายเคืองพันธมิตรได้แต่อย่างใด เว้นแต่นำกลุ่มอันธพาล มาไล่ตีคนแก่และเด็ก ผู้หญิง จนฝ่ายพันธมิตรต้องจัดตั้งกองกำลังรักษาชีวิตและทรัพย์สินของกลุ่มพันธมิตรเอง ส่วนการดำเนินการทางศาล ฝ่ายพันธมิตรดูเหมือนจะสะสมชัยชนะมาโดยตลอด การปฏิบัติตามคำสั่งศาลของพันธมิตรครั้งนี้ น่าจะถือว่าระบบนิติรัฐยังใช้ได้ในสังคมไทย สิทธิและเสรีภาพของบุคคลจะใช้ได้ต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น และเด็กนักเรียนก็ได้ใช้สิทธิ์นั้นและได้รับการตอบรับจากศาลดังกล่าว ถึงที่สุด การใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ก็ยังคงใช้ได้เพราะศาลมิได้มีคำสั่งห้ามการชุมนุมแต่อย่างใด การร้องค้านของฝ่ายพันธมิตรได้แถลงต่อศาลไปแล้วในวันนี้ ศาลสั่งให้มาฟังคำวินิจฉัยในวันนี้ เวลา 13.00 น. การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด...การชุมนุมก็ยังจะมีต่อไป แต่อาจปรับเปลี่ยนยุทธวิธี เพื่อทำตามยุทธศาสตร์ใหญ่ นั่นคือ "ขับไล่รัฐบาล" แต่ก็นั่นแหละครับการถอยกรูดๆของรัฐบาลยังมองไม่เห็นหนทางที่จะดึงดันอยู่ในอำนาจต่อไปได้ แม้จะผ่านคะแนนไว้วางใจจากเสียงในสภา แต่เสียงนอกสภานั้นรัฐบาลแพ้หลุดลุ่ย และ...สุภาษิตของรัฐบาลไทยวันนี้ต้องขอบอกว่า ..".เดินตามเด็ก...หมาไม่กัด"... แคน ไทเมือง |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |