ฮึดอีก 2 วันเข้ม ขอคืนพื้นที่ม็อบเหลือง รอบทำเนียบฯ
ผบ.ตร.ฮึดลั่นอีกสองวันเข้มข้นขอคืนพื้นผิวจราจรถนนราชดำเนิน-หน้าทำเนียบฯ ลั่นถ้าจำเป็นอาจต้องใช้กำลังขอคืนพื้นที่ ปลงเคลียร์ม็อบขาใหญ่ไม่ลงกระเทือนเก้าอี้ ทำใจทำเต็มที่ถ้าไม่เข้าตาก็แล้วแต่…

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่ลานเอนกประสงค์ ตลาดนัดจตุจักร พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าในการขอคืนพื้นผิวจราจรบนถนนราชดำเนิน และถนนพิษณุโลก คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรนประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติว่า ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้ให้นโยบายกับกองกำลังไปแล้วว่า เรามีความจำเป็นต้องเปิดผิวการจราจร โดยอาจเปิดเส้นคู่ขนานด้านทำเนียบรัฐบาล หรือคู่ขนานด้านกระทรวงศึกษาธิการ หรือด้านถนนพิษณุโลก ต้องพยายามไปเจรจาเปิดให้ได้โดยเร็วที่สุด ในอีกสองวันจะมีการเข้มเข้นเรื่องการเปิดผิวการจราจร

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการเจรจาต่อเนื่องแต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมคืนผิวการจราจรจะทำอย่างไรต่อไป ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ตนได้สั่งการไปแล้ว ต้องรอดูนิดหนึ่ง เมื่อถามว่า ที่บอกว่าอีกสองวันจะมีการเข้มข้นเรื่องการเปิดการจราจรจะใช้วีธีไหน ผบ.ตร. กล่าวว่า ถนนบางสายที่ผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้อยู่แล้ว เราก็น่าจะไปเปิดให้ประชาชนวิ่งผ่านไปมาได้ โดยเฉพาะเส้นถนนราชดำเนิน ซึ่งต้องรอ ผบ.กองกำลังไปดำเนินการและแจ้งมาให้ทราบภายในวันสองวันนี้ก็รู้ เมื่อถามว่า ในการขอเปิดพื้นที่จราจร จะถึงขั้นต้องใช้กำลังในการผลักดันขอเปิดพื้นที่เจรจาหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องใช้ แต่คงไม่ไปกำหนดเส้นตาย เดี๋ยวจะกลายเป็นไปยั่วยุผู้ชุมนุม ค่อย ๆ คืบทีละนิดดีกว่า ถ้าไปใช้กำลังแล้วเกิดความไม่สงบเรียบร้อยก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร

เมื่อถามว่า การที่ ผบ.ตร.ไม่สามารถคลี่คลายปัญหานี้ได้ก็กระทบต่อตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ก็แล้วแต่หากเห็นว่าวิธีการปฏิบัติงานของตนไม่เหมาะสมหรือไม่เข้าตาก็ช่วยไม่ได้ก็ต้องแล้วแต่ เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่กับการคุยไม่รู้เรื่องกับกลุ่มผู้ชุมนุม ผบ.ตร. กล่าวว่า มันเป็นหน้าที่ โดยองค์ประกอบสองส่วนในการดูแลการชุมนุมขนาดใหญ่ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2544 แล้ว ส่วนหนึ่งต้องมีกำลังคน บุคลากร การฝึกฝน อาจต้องถึงขั้นมีกำลังคนที่เชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น ตำรวจเกณฑ์ในประเทศเกาหลี และความชอบในการไปสั่งให้เลิกยุติชุมนุมที่จะเป็นอันตรายต่อสังคมส่วนรวม คือการบังคับใช้กฎหมาย ตอนนี้หลายฝ่ายก็ค่อนข้างเห็นพ้องกับการเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การควบคุมการชุมนุมในที่สาธารณะที่อยู่ในสภาแล้ว.

ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์

0000

ที่จริงก็อยากให้ชุมนุมต่อนะครับ เพียงขยับที่ขยับทางเปิดทางให้ชาวบ้านเค้าบ้าง เพราะสร้างความเบื่อหน่ายคับข้องหมองใจของผู้ใช้รถใช้ถนนมาเป็นเวลานานพอสมควร

พูดไปในฐานะคนคุ้นเคย เคยร่วมต่อสู้กันมาก็แค่อยากขอเปิดทางให้ชาวบ้านเค้าบ้าง หลบๆ เข้าข้างทางพอให้คนอื่นได้หายใจหายคอกันบ้าง

หรือจะหลบไปด้านข้างคลองผดุงกรุงเกษม จัดชุมนุมเป็นที่เป็นทางซะ แค่นี้ทุกอย่างก็ลงเอยสวยงามทุกฝ่าย คนชุมนุมก็จำนวนร้อย ไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเวลาตั้ง 1 เดือน เคลื่อนไปไหนก็ยาก

ฝ่ายผู้ชุมนุมก็ไม่ต้องเกรงว่าจะมีการสลายการชุมนุมอะไรอีกต่อไป พ่อยกแม่ยกก็จะได้สบายใจเพราะยังไงๆ เราต้องเอื้อเฟื้อ สุภาพสตรี เด็กคนชรา สมณะและทหารผ่านศึกอยู่แล้ว

อยากเปิดวิกลิเก เต้นรำร้องเพลงก็ถือเป็นการออกกำลังกาย ทำให้คนแก่ได้บริหารกล้ามเนื้อ มีอาหารถูกสุขลักษณะ มีส้วมสะอาดใช้ อะไรจะดีกว่านี้ไม่มีแล้ว

อาหารดี ดนตรีไพเราะ ประชาชนได้ตะโกนสิ่งคับข้องหมองใจ ตะโกนดังแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า เพราะรู้ว่านั่นเป็นม้อบ

อยากมาก็มา อยากไปก็ไป ไม่มีใครเดือดร้อน ถ้าเปิดทางให้การจราจรบ้าง

ส่วนข้อเสนอที่เป็นไปไม่ได้ 3 ข้อนั่น เก็บเข้าลิ้นชักเถอะครับคงไม่มีวันได้คำตอบอะไรกลับมา

พูดง่ายๆ เราวัดชัยชนะหรือพ่ายแพ้ ก็ตรง "ข้อเสนอ" ของการชุมนุมนี่แหละครับ

เสนอแล้วรัฐบาลไม่รับ เอาผิดรัฐบาลไม่ได้ นายกไม่ยุบสภา ไม่ลาออก เรื่องก็ค้างๆ คาๆ อยู่แบบนี้

เอาไว้ให้พรรคการเมืองใหม่มาเป็นรัฐบาลค่อยทำก็ไม่สาย กองทัพก็รออยู่ ที่ดินก็ไม่สูญหายไปไหน อยากไล่ อยากรบก็เชิญได้ทุกเมื่อหากมีอำนาจสั่งการ

ที่จริงผมช้อบชอบ ม้อบที่เพิ่มคะแนนเสียงให้รัฐบาลแบบนี้ เพราะผมอยู่ฝ่ายเชียร์รัฐบาล

ยิ่งอยู่นาน คนยิ่งเห็นความดีรัฐบาล เห็นความเข้มแข็ง เห็นความยืดหยุ่น เห็นการทำงานภายใต้วิกฤติ

ยิ่งด่าอภิสิทธิ์ แรงส่งมุมกลับทำให้แม่ยกพ่อยกต้องออกมาแสดงความคิดความเห็นประกาศตัวกันยกใหญ่

พันธมิตรทั้งหลายต้องไม่ลืมว่า ฐานเสียงประชาธิปัตย์ จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วไม่น้อย เกือบๆ 13 ล้าน ถ้าจะว่าไปก็เกือบๆ ครึ่งหนึ่งของผู้มาลงคะแนนเลือกตั้ง

การชื่นชอบพรรคการเมืองดูจะเป็นเรื่องรสนิยม ผสมกับมันสมองที่มองพรรคการเมืองนักการเมือง

เมื่อเค้าเลือกมาแล้วเค้าก็รักของเค้า เหมือนพวกเสื้อแดงรักทักษิณซึ่งพวกเค้าเลือกมาเหมือนกัน

คนเสื้อแดงชื่นชอบทักษิณกับแม่ยกพ่อยกปชป.รักอภิสิทธิ์ก็ความรู้สึกเดียวกัน แบบไม่ต้องมองเหตุผล ก็เขาเลือกของเขามาแบบนั้น ใช้สมองเลือก ใช้รสนิยมเลือกแล้วแต่เปอร์เซ็นต์อ่อนแก่แตกต่างกันไป

ผมถึงบอกว่าชอบนะที่ออกมาด่าอภิสิทธิ์ ทำให้คนทั่วไปได้คิด

อภิสิทธิ์เลวจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่?

อภิสิทธิ์ขายชาติแล้วได้อะไร?

อภิสิทธิ์ชั่วพอๆกับทักษิณจริงหรือ?

ผมคิดว่าคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นคนมีสมอง จะเลือกใคร เชียร์ใครต้องชั่งใจว่ามั่นใจแล้วถึงจะเลือก

ไม่ใช่เลือกเพราะไม่มีตัวเลือก แต่เลือกเพราะมั่นใจว่าคนที่ตัวเองเลือกจะสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติได้มากที่สุด

ชุมนุมต่อไปนะครับ แต่ขอทางให้ชาวบ้านเค้าใช้บ้าง เพราะทางสาธารณะก็เป็นเงินจากภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ

อย่าได้ถือสิทธิ์พิเศษยึดเอาแต่ความพอใจของพวกตัวเองแต่เพียงอย่างเดียว

ถ้าเป็นรัฐบาลชาติชั่วแม้ยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ยึดช่อง 11 ฯลฯ ผู้คนเค้าสนับสนุนเค้าไม่ว่าหรอกครับ เชียร์ให้สู้ด้วยซ้ำไป

แต่เที่ยวนี้เหตุผลในการชุมนุมในสายตาพ่อยกแม่ยกประชาธิปัตย์ เค้ามองว่าเหตุผลไม่เพียงพอ แถมยังก่อความเสียหายที่นำข้ออ่อนด้อยของประเทศชาติมาประกาศให้ศัตรูรู้

ลองคิดดู หนึ่งนิ้วที่ชี้ไปที่อภิสิทธิ์ขายชาติ อีกสี่นิ้วมันหันมาชี้เข้าตัวเองหรือเปล่า

โตๆ กันจนหัวหงอกแล้ว กลับไปคิดดูใหม่บ้างก็ได้ ยังไม่สายหรอกครับ

อีก 2 วันก็หลบๆทางกันหน่อยละกัน ตำรวจจะมาแล้ว

อ้อ..มากลางวันครับรับประกันซ่อมฟรี

ไม่มีหรอกจะมาสลายกลางคืน เค้ากลับต้องเพิ่มอารักขาให้ม้อบตอนกลางคืนด้วยซ้ำ เพราะกลัวมือที่สามจะมาแทรก

ยังไงก็ช่วยแหวกทางให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนกันบ้างละกัน อยู่กันยันสิ้นปีก็ไม่มีใครว่า

แคน ไทเมือง