เดลินิวส์

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 ม.ค.

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เดินทางมาบริเวณหลังอาคาร 1 ซึ่งเป็นจุดหย่อนคะแนนเสียงเลือกคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาจากอดีตข้าราชการตำรวจทดแทนผู้ที่หมดวาระ จำนวน 5 ท่าน

โดย ผบ.ตร. เป็นผู้มาใช้สิทธิคนที่ 2,100 จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือก 3,450 คน

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เชิญชวนตำรวจที่มีสิทธิเลือกมาใช้สิทธิ อย่านอนหลับทับสิทธิ โดยแต่ละคนสามารถเลือกได้ 5 ท่าน และขอย้ำว่าให้กากบาทเท่านั้น ถ้ากาเครื่องหมายถูกก็เป็นบัตรเสียได้ เมื่อถามว่าผู้ที่ได้รับการเลือกต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ผบ.ตร.ตอบว่า ตนเลือกจากประวัติการทำงานที่ผ่านมาต้องเป็นคนที่ทุ่มเทเพื่อประชาชนและตำรวจด้วยกัน

ด้าน พล.ต.ท.วิบูล ปรองดอง ผบช.สำนักงาน ก.ตร. กล่าวว่า ผู้มีสิทธิเลือกซึ่งเป็นตำรวจยศ “ผกก.” ขึ้นไปได้ทยอยมาใช้สิทธิต่อเนื่อง ทั้งมาหย่อนบัตรลงคะแนนด้วยตนเองและส่งมาทางไปรษณีย์ โดยจะปิดหีบในเวลา 12.00 น. ในวันที่  6 ม.ค. จากนั้น พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. ในฐานะเป็นประธานในการนับคะแนน จะเป็นผู้ดูแลในการนับคะแนนที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 คาดว่าจะรู้ผลคะแนนในเวลาประมาณ 19.00 น. และสามารถรู้ทันทีว่าใครจะมาทดแทนผู้ที่หมดวาระลงจำนวน 5 ท่าน จากนั้นจะทำเรื่องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและโปรดเกล้าฯ ต่อไป จะพยายามทำให้ทันวันที่ 24 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการชุดเก่าจะหมดวาระเพื่อคณะกรรมการชุดใหม่จะสามารถทำหน้าที่แทนได้ทันที และจะอยู่ในวาระต่อไป 4 ปี

   
พล.ต.ท.วิบูล กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่าน ๆ มา มีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนประมาณ 85% ขึ้นไป สำหรับปีนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า 90% แต่ยังห่วงผู้ที่ส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ เพราะว่าหากไปรษณีย์มาส่งหลังเวลาปิดหีบ ทางคณะกรรมการจะไม่สามารถรับบัตรลงคะแนนนั้นได้ หลังจากเลือกคณะกรรมการ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ (ฝ่ายตำรวจ) แล้ว จะเป็นการเลือกคณะกรรม การ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ อีก 6 ท่าน โดยจะเริ่มสมัครในวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งคาดว่าจะสามารถคัดเลือกได้ในวันที่ 20 ม.ค. สำหรับการคัดเลือกคณะกรรมการ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ จะให้ ก.ตร. ในตำแหน่งและ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ได้รับเลือกตั้งครั้งนี้เป็นผู้คัดเลือก.

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ก.ตร. ถือว่าเป็นหน่วยงานสำคัญยิ่งของ สตช.

เพราะสามารถออกกฎ คำสั่ง มีผลกระทบต่อข้าราชการตำรวจโดยตรง

มติ ก.ตร. รวมทั้งการแก้ไขปัญหาทางการบริหารภายในองค์กร

จริง ๆ แล้ว ก.ตร.

น่าจะต้องมาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจ "ทั่วประเทศ"

ทุกตำแหน่ง ทุกชั้นยศ ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ

เพราะ ก.ตร.มีความสำคัญต่อข้าราชการตำรวจทุกคน

ไม่ใช้เฉพาะ ข้าราชการตำรวจ ยศ พันตำรวจเอก

ตำแหน่ง ผกก.ขึ้นไปเท่านั้น

ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน จบปริญญาตรี - โท กันมากมาย

อาตี๋ ร้านขายยา เขาจบปริญญากันหมดแล้ว ครับนาย 

การเลือกตั้ง สามารถกระทำในแต่ละจังหวัด แล้วส่งผลมายัง สตช.

เพื่อรวมคะแนนทั้งประเทศ ว่าใครควรได้ ใครควรเป็น

ไม่ใช่เป็นการลาก (ให้มา) ตั้ง ???

ให้ ผกก.ชี้เป็น ชี้ตาย แทนข้าราชการตำรวจทั้งประเทศ

หรือ จากผู้มีสิทธิเลือก สามพันกว่าคน เท่านั้น

การเลือกตั้ง ก.ตร. ไม่มีการซื้อสิทธิ - ขายเสียง คืนหมาหอน

เหมือนนักการเมือง ไม่มีบัตรเสีย  ฉีกบัตร   

ไม่มี NO VOTE แต่มี VOTE NO. การล็อบบี้แทน

ยิ่งการแต่งตั้ง ระดับ รอง ผบก. - สว. ยังไม่คลอด

ยิ่งมีผลต่อการเลือกตั้งมากมาย และน่าจะตรวจสอบได้ไม่ยาก

หากการเลือกตั้งทั่วประเทศ แต่ละแห่งส่งผลคะแนนมา

จะไม่สามารถตรวจสอบได้

นอกจากจังหวัดนั้น ๆ จะเทคะแนนให้กับใคร

แต่ก็ยาก สำหรับข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ที่ใครจะมาบังคับกดดันได้

เพราะเป็นการลงคะแนนลับ

และ ผู้ที่จะมาเป็น ก.ตร. ก็จะต้องเป็นผู้ที่ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ

รู้จัก เคยทราบบทบาท เคยเป็นผู้บังคับบัญชามาก่อน รู้ว่าดีมากดีน้อย อย่างไร

ไม่ใช่ โนเนมมาจากไหนก็ไม่ทราบ พวกนี้จะตกไป

ด้วยเหตุนี้ ก.ตร. จึงคือตัวแทนของข้าราชการตำรวจกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

สักวัน เมื่อแสงทองผ่องอำไพ

ตำรวจคงได้เป็น "ตำรวจประชาธิปไตย" เพื่อ-โดย-ของ

เสียที  ?????