วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม 2557
Posted by
ลูกเสือหมายเลข9
,
ผู้อ่าน : 2704
, 10:20:00 น.
หมวด : ท่องเที่ยว
พิมพ์หน้านี้
โหวต
24 คน
ว่าที่ร.ต.สมโชคเฉตระการ
,
เพลงธรรม
และอีก 22 คนโหวตเรื่องนี้


การมาสวิสครั้งนี้ เป็นข้อยืนยันความเชื่อผมที่ว่าคนสวิสเป็นชาติที่มีความสุขมาก ผมลองตรวจค้นดู พบว่าไม่ว่าจะสำรวจกี่ครั้ง ผลการการสำรวจของ World Database of Happiness จะระบุว่าชาวสวิสมีความสุขมาก และเคยเป็นประเทศที่คนมีความสุขมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2007 คือ 8.3 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งแม้ผลสำรวจล่าสุดของ The World Database of Happiness เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดประจำปี 2013 ถึง"ความสุข"ของคนในแต่ละชาติ ผลระบุว่า ชาติที่คนมีความสุขมากที่สุดคือชาว Costa Rica แต่ชาวสวิสก็ยังติดอันดับทอปไฟฟ์ คืออยู่อันดับ 4 ต่อจาก Costa Rica , Denmark และ Iceland ผมว่าความสุขของคนเรานั้นอยู่ที่เรา"เลือกอยู่"และ"เลือกเป็น" การจะ"เลือกอยู่" หรือ"เลือกเป็น"เพื่อให้ตัวเองมี"ความสุข"นั้น ผมว่าอยู่ที่ 5 อ. คือ อากาศ ออกกำลังกาย อารมณ์ดี อาหาร และอ.สุดท้าย อุจจาระ คือระบบขับถ่ายของเสีย(ต้อง)ดี เหมือนครั้งก่อน คือแม้ผมจะไม่ได้อยู่สวิตเซอร์แลนด์นานเป็นเดือน แต่ผมพบว่าชาวสวิส"เลือก"ที่จะอยู่กับ 4 อ.อย่างเต็มที่(อ.สุดท้ายผมไม่เห็น-ฮา) โดยเริ่มตั้งแต่"อากาศดี" ข้อนี้ผมว่าคงไม่มีใครเถียงว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศอากาศดี เพราะที่นี่ท้องฟ้าโปร่ง อากาศสดชื่น ดังที่ผมบอกไปแล้วว่า หลายที่เมืองไทยแย่งกันเป็น"สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" คนสวิส"เลือกอยู่"และ"เลือกเป็น"ที่จะให้อากาศดีจากตัวเอง เช่น ปลูกบ้านก็มีต้นไม้สวยๆ



เรื่อง"ออกกำลังกาย"นี่ใครๆก็รู้ว่าดี ผมมาอยู่ครั้งนี้ไม่กี่วัน แต่พบว่าคนสวิสเป็นชาติที่"ออกกำลังกาย"ไม่น้อย ซึ่งผมไม่ได้หมายถึงการลงไปเล่นกีฬาในสนามเท่านั้นนะครับ หากแต่หมายถึงการ"ขยับแข่งขยับขา"แบบที่ สสส.ในบ้านเราบอกนั่นแหละ เริ่มตั้งแต่ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ผมไปสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งซูริก เจนีวา โลซานน์ ลูกเซิร์น เบิร์น ฯลฯ จนถึงครั้งนี้ ผมพบว่าคนสวิสไม่น้อยที่นิยม"ขี่จักรยาน" ทั้งไปทำงานหรือไปขึ้นรถไฟเพื่อไปทำงานที่อื่น ซึ่งแน่นอนว่าหากพูดเรื่องนี้ในบ้านเรา คำโต้แย้งแรกก็คงเป็น"บ้านเราอากาศร้อน" ...ผมไม่เถียงให้เสียเวลาหรอก เพราะถ้าคนจะปั่นจักรยานหรือออกกำลังกาย เขามีเหตุผลข้อเดียวคือ"อยากทำ" ส่วนคนที่"ไม่อยากทำ มีเหตุผล 108-1009 ที่จะมาอ้างว่าทำไมไม่อยากทำ สิ่งตอกย้ำให้ผมเห็นว่าคนสวิส"ออกกำลังกาย"ก็คือการเดินป่าปีนเขา ซึ่งในการมาสวิตเซอร์แลนด์ครั้งนี้ ผมพักที่ อินเทอร์ลาเคน(Interlaken) ซึ่งเป็นเมืองก่อนจะเดินทางไปเที่ยวจุดอื่นๆ ผมจึงเห็นมีชาวสวิสมากมายเดินป่าปีนขา และมักจะเป็นกิจกรรมที่ทำกันทั้งครอบครัว ไปกัน 3-4 คนพ่อแม่ลูก แต่ละคนแบกเป้กันคนละใบ ถือไม้เท้านำทางคนละอัน ซึ่งคงไม่(ค่อย)เห็นในบ้านเรา ที่หากนึกอะไรไม่ออก ทั้งครอบครัวก็จะยกทัพไปที่"ศูนย์การค้า" ที่แต่ละห้างมีกิจกรรมให้ทำกันครบทั้งบ้านตั้งแต่ชอปปิ้ง ดูหนังไปจนถึงร้านอาหาร การได้ออกกำลังกาย จึงเป็นต้นเหตุให้คน"อารมณ์ดี" อันนี้หมอหลายคนยืนยันถึงการหลั่นสารอะไรบางอย่างออกมา นอกจากนั้น "กิจกรรม"การเล่นกลางแจ้งที่ผมเห็นว่าเป็นที่นิยมในเมือง อินเทอร์ลาเคน(Interlaken) ก็คือ Paragliding เพราะตั้งแต่เช้ายันค่ำ ผมเห็นทั้งชาวสวิสและนักท่องเที่ยวหัวดำจากเอเชียเข้าคิวเล่นกีฬานี้่กันมากมาย

มาถึงเรื่อง"อาหาร" ใครที่รู้จักผม จะรู้ว่าผมถือคติอยู่ 2 อย่าง หนึ่งคือ"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องสร้างเอง" ผมจึงมักจะแนะนำใครให้"ออกกำลังกาย" ตั้งแต่การขยับแข้งขยับขา ชวนไปเตะบอล ชวนไปตีแบดมินตัน อีกอย่างก็คือ "กินอาหารให้เป็นยา จะได้ไม่ต้องกินยาเป็นอาหาร" และผมถือว่าอาหารไทยนี่แหละเป็นอาหารดี มีคุณภาพครบเครื่อง ส่วนสวิตเซอร์แลนด์นั้น ของสารภาพว่าผมไม่รู้หรอกว่าอาหารเขาดีหรือไม่ เพราะเข้าใจว่าอาหารประจำชาติของเขาคือ ฟองดู (Fondue) ผมก็เห็นว่าไม่ต่างจากอาหารยุโรปชาติอื่นๆ แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าสวิสมี"ของดี"นั่นคือ"ความสด"ของอาหาร(หลัก)ในชีวิตประจำวันของพวกเขา เพราะทุ่งหญ้าตามภูเขาต่างๆ ผมเห็นและได้คุยทราบว่า วัวเนื้อและวัวนมที่เลี้ยงกันนั้นมีคุณภาพสูง(มาก) ขณะที่ผักต่างๆก็มีความสดตามภูมิอากาศที่ดีของประเทศที่มีภูเขามากมาย เมื่อผมลองนึกว่าบ้านเราเองก็ชอบกิน"ผักเมืองเหนือ"ที่ปลูกบนดอยต่างๆ ก็เลยพอจะเข้าใจว่าคุณภาพของผักที่นี่คืออะไร แต่อาหารอีกอย่างที่ผมมองว่าเป็น"อาหารดีของสวิส" นั่นคือ"ของหวาน"ของเขาคือ ซึ่งก็คือ"ช็อกโกแลต" ซึ่งทราบมาว่า เป็นอาหารที่มีสารเคมีที่ส่งผลต่อระบบประสาท และฮาร์วาร์ดเคยศึกษาพบว่า คนที่กินช็อกโกแลตเป็นประจำ มีอายุยืนกว่าคนที่ไม่เคยกินช็อกโกแลต เพราะในของกินนี้ มีสารโพลีฟีนอล ที่ช่วยลดอนุมูลอิสระของไลโปโปรตีนความแน่นต่ำ และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ซึ่งแม้จะยังถกเถียงกันว่าถูกต้องจริงหรือไม่ แต่คงไม่มีใครเถียงว่าช็อกโกแลตมีดีมากกว่าไม่ดี หรือใครไม่ชอบกินช็อกโกแลต


ผมไปสวิสครั้งนี้ ผมบอกแล้วว่าพักที่ อินเทอร์ลาเคน(Interlaken) ที่อินเทอลาเคน ผมและคณะ ได้รับการจัดที่พักสุดหรูให้ นั่นคือโรงแรม Victoria Jungfrau Grand Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ใน"ทำเลทอง" นั่นคือเป็นโรงแรมที่อยู่ระหว่าง 2 สถานีรถไฟของเมือง คือ อินเทอร์ลาเคน เวสต์ (Interlaken West) ทางทิศตะวันตก และ อินเทอร์ลาเคน ออส (Interlaken Ost) ทางตะวันออก และหน้าโรงแรมคือถนนหลักของเมือง แถมหน้าโรงแรมยังเป็นทุ่งกว้างที่คนใช้เป็นสถานที่เตรียมตัวเพื่อขึ้นภูเขาและเป็นที่ร่อนลงของกีฬา Paragliding สำหรับเมืองอินเทอลาเคน ลองค้นดูพบว่าเป็นเมืองอยู่ตรงกลางทะเลสาบกลางหุบเขาสองแห่ง คือทะเลสาบทูน (Thunersee หรือ Lake Tune) และทะเลสาบเปรียนซ์ (Brienzersee หรือ Lake Brienz) ทำให้"พื้นที่ราบ"ของเมืองกลายเป็น"สนามหญ้า"ขนาดใหญ่ที่ถูกใช้เป็นสถานที่เตรียมตัวสำหรับนักนิยมความสูงที่จะเตรียมตัวเพื่อขึ้นไป"เหินฟ้า"และ"ร่อนลง"สำหรับ Paragliding ซึ่งผมเห็นมีคนมาเล่นตั้งแต่เช้ายันค่ำ..เพราะ"ค่ำ"ที่สวิส เวลา 2-3 ทุ่มในช่วง summer พระอาทิตย์ยังทำงานส่องสว่างยังกะตอนบ่ายบ้านเรา.. เมื่อคนสวิสได้อยู่กับ 4 อ. คือ อากาศ อาหาร ออกกำลังกายและอารมณ์ จึงไม่น่าเแปลกใจที่ชาวสวิสมี"ความสุข" ...อันนี้ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า อ.ที่ 5 คือ"อุจจราระ"นั้นผมคงไม่สามารถพิสูจน์ได้ เอ๊ะ...นี่ผมยังไม่ได้พูดถึง โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์ เลยใช่ไหม?
|