วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน 2557
Posted by
ลูกเสือหมายเลข9
,
ผู้อ่าน : 3144
, 11:14:46 น.
หมวด : ต่างประเทศ
พิมพ์หน้านี้
โหวต
8 คน
ลิงเขียว
,
อิมกุดั่น
และอีก 6 คนโหวตเรื่องนี้


ขอสารภาพว่าแม้มาถึงสวิสฯ ผมยังไม่รู้ว่าใคร"เชิญ"ผมมา กระทั่งเมื่อได้ขึ้นไปเทือกเขายุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นจุดหมายที่ถูกเรียกว่า Top of Europe ทั้งๆที่ยุงเฟราไม่ใช่ภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปก็ตาม เพราะที่นั่น มีการเปิดตัวตัว Brand Ambassador ของช็อกโกแลตดังของสวิส นั่นคือ LINDT คงรู้แล้วว่าผมคงหมายถึง โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์ สำหรับ LINDT จากการตรวจสอบสั้นๆ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1845 โดย David Spr?ngli-Schwarz และลูกชายเปิดร้านขายขนมร้านเล็กๆในซูริก ก่อนจะผลิตช็อคโกแลตในอีก 2 ปีต่อมา และเขาคงภาคภูมิใจว่าถึงวันนี้ ช็อกโกแลตที่ 2 พ่อลูกทำขึ้นมานั้น มีอายุยืนนานมากว่าศตวรรษแล้ว แถมยังมีจำหน่ายมากมายไปทั่วโลก และมีผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตนับร้อยชนิด ทุกรสชาติ ทุกรูปแบบ ซึ่งขอบอกว่า"อร่อย"มากครับ และผมมั่นใจว่า ใครไปสวิสฯก็คงเคยซื้อช็อกดกแลตยี่ห้อนี้กลับมาฝากคนอื่น


สำหรับช็อกโกแลตนั้น ใครๆก็รู้ว่า"ดี" บรรทัดแรกใน"วิกีพีเดีย"ระบุว่า "ช็อกโกแลตค้นพบมาตั้งแต่สองพันปีที่แล้ว หลังสมัยพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ เป็นผลผลิตที่ได้จากเมล็ดของต้นคาเคา (cacao) ในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกา จัดอยู่ในตระกูล Theobroma cacao แปลว่า "อาหารแห่งทวยเทพ" ส่วนหัวข้อ"ประโยชน์ของช็อกโกแลต" ผมขอสรุปสั้นๆว่า เป็นอาหารที่มีสารเคมีที่ส่งผลต่อระบบประสาท เล่ากันว่า นักรักชื่อกระฉ่อนโลกอย่าง จิอาโคโม คาสซาโนวา (1725-1795) กินช็อกโกแลตก่อนขึ้นเตียงกับผู้หญิงที่หลงเสน่ห์ ด้วยช็อกโกแลตขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารกระตุ้นอารมณ์ใคร่ และผู้หญิงร้อยละ 50 สารภาพว่ากินช็อกโกแลตก่อนเมคเลิฟ มีงานวิจัยที่ศึกษากับเพศชายจำนวน 8000 คนที่สำเร็จการศึกษาจากฮาร์วาร์ด พบว่า คนที่รับประทานช็อกโกแลตเป็นประจำมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่เคยรับประทานช็อกโกแลต สาเหตุที่กินช็อกโกแลตแล้วอายุยืนอาจเกี่ยวข้องกับ สารโพลีฟีนอลที่มีอยู่จำนวนมากในช็อกโกแลต โพลีฟีนอลเป็นสารที่ช่วยลดอนุมูลอิสระของไลโปโปรตีนความแน่นต่ำ และช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่ความเชื่อดังกล่าวยังเป็นเรื่องถกเถียงกันอยู่ นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองเปรียบเทียบกลุ่มที่รับประทานช็อกโกแลตเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ให้รับประทานช็อกโกแลตเทียม เพื่อทดสอบความจำพบว่า กลุ่มที่กินช็อกโกแลตสามารถจดจำคำพูดและภาพได้ดีกว่า และยังเคลื่อนไหวตอบสนองได้คล่องแคล่วกว่า ปัจจุบันนักวิจัยกำลังทดลองซ้ำเพื่อเปรียบเทียบผลอยู่[ต้องการอ้างอิง] การทดลองเหล่านั้นสอดคล้องกับชีวิตของคนที่มีอายุเกินร้อยปีหลายคน ยกตัวอย่าง ฌอง คลามงต์ (1875-1997) และ ซาร่าห์ เคลาส์ (1880-1999) ทั้งสองคลั่งไคล้ช็อกโกแลตมาก คลามงต์ มีนิสัยติดกินช็อกโกแลตอาทิตย์ละสองปอนด์จนกระทั่งแพทย์ต้องแนะนำให้เธอเลิกกินเมื่ออายุได้ 119 ปี สามปีก่อนที่เธอจะลาโลกไปด้วยอายุ 122 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุยืนมักแนะนำให้กินช็อกโกแลตดำแทนขนมหวานมีแคลอรีสูงและนิยมกันมากในอเมริกา ในอังกฤษ ช็อกโกแลตแท่งสอดใส้คานาบิสนิยมใช้กับผู้ป่วยโรค multiple sclerosis หรือโรคปลอกหุ้มเส้นประสาทอักเสบ หรือเอ็มเอส เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดกับระบบประสาทส่วนกลางแบบฉับพลัน โรคดังกล่าวมีพัฒนาการอย่างช้าๆ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางสายตา การพูด เมื่อรักษาเฉพาะอาการแล้วอาจเกิดขึ้นอีกได้ และร้ายแรงถึงขั้นอัมพาต ตาบอด และเสียชีวิต ในช็อกโกแลตมีส่วนประกอบมากกว่า 300 ชนิดที่ต่างกัน เช่นอนันดาไมด์ และเอ็นโดจีนัส คานาบินอยด์ที่พบได้ในระบบประสาท คนที่ไม่เชื่อแย้งว่า หากกินช็อกโกแลตให้ออกฤทธิ์ต่อประสาทได้จริงคงต้องกินกันทีละหลายปอนด์มากถึงเห็นผล และกินมากๆ ยังเสี่ยงเป็นนิ่วด้วย ถึงกระนั้น มีข้อมูลน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือ สารสองชนิดของอนันดาไมด์พบอยู่ในช็อกโกแลต ซึ่งเชื่อกันว่ามีผลช่วยยืดความรู้สึกสุขสบายให้ยาวนาน ช็อกโกแลตยังมีกาเฟอีน แต่ไม่มากนักและยังสามารถหาได้จากแหล่งอื่นที่มีมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ช็อกโกแลตนมมีกาเฟอีนน้อยกว่าดื่มกาแฟชนิดกาเฟอีนต่ำเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ช็อกโกแลตมีสารทริพโทฟาน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญ ทำหน้าที่ควบคุมเซโรโทนิน สารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ เมื่อร่างกายขับเซโรโทนินออกมาช่วยให้ผ่อนคลายความวิตกกังวลได้ ช็อกโกแลตช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน สารที่คล้ายกับที่ได้จากฝิ่นที่ผลิตขึ้นเองในร่างกาย เมื่อร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินจะช่วยลดความเจ็บปวดได้ บางครั้งเชื่อว่า เอ็นดอร์ฟินมีส่วนช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและสงสัยกันว่าเป็นตัวที่ทำให้คนบางคนถึงขนาดติดช็อกโกแลตงอมแงม แม้จะไม่สามารถยืนยันว่าทั้งหมด"ถูกต้อง" เพราะยังต้องการอ้างอิงหลายเรื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช็อกโกแลตนั้น"ดี"




บนเทือกเขายุงเฟรา...แบรนด์แอมบาสเดอร์มาทำช็อกโกแลตให้ชิม อย่างที่บอกแล้วว่า ช็อกโกแลตเป็นหนึ่งในอาหารคุณภาพดีต่อสุขภาพ การจะเลือกใครสักคนมาเป็น"ทูต"จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนที่ถูกเลือกจะต้องมีชื่อเสียงและรักษาภาพได้ดี การเลือก "โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์" มาเป็นทูต จึงเหมาะสมทุกอย่าง โดยเฉพาะความเป็นชาวสวิส ว่ากันว่าชาวสวิสฯคือชนชาติที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมากที่สุดชาติหนึ่งของโลก การไปสวิตเซอร์แลนด์รอบ 2 ครั้งนี้ ทำให้ผมเชื่อในเรื่องนี้ เพราะแม้สถานะโดยเฉลี่ยคนสิวสถือว่า"ร่ำรวย" แต่สิ่งที่พวกเขามีมากกว่าเงินทองก็คือ คุณภาพชีวิต เพราะเป็นประเทศที่มีอากาศดี เหมาะสำหรับการใช้ชีวิต"นอกบ้าน"เพื่อดูทะเลสาบ แม่น้ำ ภูเขา ..กระทั่งหิมะ ลานกว้างทุ่งโล่งหลายแห่งในสวิตเซอร์แลนด์จึงเป็นที่ออกกำลังกายของคนที่นั่น



เมื่อเป็นโรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์ ก็ต้องมีเทนนิส ดังนั้น รายการพิเศษสุดของทริปนี้ จึงเป็นการเล่นเทนนิสโชว์ของอดีตนักหวดลูกสักหลาดหมายเลข 1 ของโลก แต่การจะเล่นบนคอร์ตธรรมดา ผู้จัดงานก็คงรู้ดีว่าทุกคนคงเคยเห็นมาแล้ว พวกเขาจึงเนรมิตคอร์ตเทนนิสขึ้นบนลานหิมะกลางภูเขา โดยใช้เวลานับเดือนเพื่อทำพื้นให้แข็งและเรียบพอที่จะเป็นสนามเทนนิสได้ ส่วนการเล่นเทนนิสในวันนั้น ให้เฟดเดอร์เรอร์เป็นคนเลือก"แขกพิเศษ"มาโชว์ตัว ซึ่งสุดท้าย โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์ก็เลือก"ลินเซ วอร์น" แชมป์สกีโลกสาวชาวอเมริกัน เพื่อนสนิทที่บินตรงมาจากอเมริกามาเป็น"แขกพิเศษ"เล่นเทนนิสโชว์บนหิมะ ซึ่งแม้จะเป็นช่างสั้นๆ เพราะตั้งใจโชว์ แต่เฟดเดอร์เรอร์ก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือยอดนักเทนนิสจริงๆ ได้บินไปสวิส ไปกินช็อกโกแลต ดูเฟดเดอร์เรอร์เล่นเทนนิสโชว์ ทำให้การไปสวิสครั้งนี้ของผม ...มีความสุขไม่น้อย และจะไม่ปฏิเสธแน่ หากใครชวนไปครั้งที่ 3 อีก
|