วันศุกร์ ที่ 16 ตุลาคม 2558
Posted by
ลูกเสือหมายเลข9
,
ผู้อ่าน : 6337
, 11:43:42 น.
หมวด : ภาพยนตร์/ละคร
พิมพ์หน้านี้
โหวต
11 คน
february26
,
หมื่นแผ้ว
และอีก 9 คนโหวตเรื่องนี้


กระแส"อาบัติ" อาจจะพูดต่ออีกสักหลายวัน ผมไม่ขอออกความเห็น(อีก)เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ เพราะเรื่อง"ศาสนา" เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เป็น"ความเชื่อ"ชนิดที่"ฝังใจ" ขนาด"แดน บราวน์" เขียน"รหัสลับดาวินซี" ที่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าเป็น"นิยาย" ก็ยังโดนหางเลขจากหลายประเทศ แต่วันนี้อยากเขียนถึง"หนังไทย"อีกเรื่อง ที่"คนไทยอดดู" เพราะสุดท้าย ผู้สร้าง-ผู้ดำกับ ตัด(สิน)ใจไม่นำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย เนื่องจากเห็นว่านี่เป็นเรื่อง"ละเอียดอ่อน"เช่นเดียวกัน และอาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับ"ศาสนา"เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงน่าเสียดายที่คนไทยอดดุ



ภาพยนตร์เรื่องนี้คือ"ปิตุภูมิ.. พรมแดนแห่งรัก" ความจริงแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้วางตัวนักแสดงระดับ"แม่เหล็ก"ของวงการหนังไทย โดย 3 ดาราดังร่วมแสดงกันเป็นครั้งแรก นั่นคือ อนันดา เอเวอริ่งแฮม ,เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณาเรศ และ ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ ภาพยนตร์เรื่องนี้โปรโมทและนำ"ตัวอย่าง"ออกฉายจนคอหนังหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอตามโฆษณา ฉายกันทั่วประเทศวันที่ 5 ธันวาคม 2555 แต่สุดท้าย ก็ไม่มีวี่แววว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉาย เมื่อ"ต้อม ยุทธเลิศ" ผู้กำกับฝีมือดี ได้ในโพสต์เฟซบุ๊ก Yuthlert Sippapak ในช่วงต่อมาว่า "เป็นที่แน่นอนแล้วนะครับว่า หนังเรื่องนี้คนไทยคงไม่ได้ดู ขอบคุณครับ :(" นี่จึงน่าเสียดาย เพราะ"ปิตุภูมิพรมแดนแห่งรัก" เป็นภาพยนตร์ที่ตีแผ่ความรู้สึกของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจอันตรายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งทหาร เจ้าหน้าที่ราชการ รวมไปถึงชาวบ้านท้องถิ่น โดยแทรกเรื่องราวความรัก ความผูกพัน และอาจจะสอดแทรกปัญหาในพื้นที่ดังกล่าวออกมา ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่านี้่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ



ความจริงหนังเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะสร้างจากบทประพันธ์เรื่อง"พรมแดน" ของ"วสิษฐ เดชกุญชร" ที่เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพยายามฉายภาพให้เห็นว่าสิ่งที่เป็น"ปัญหา"ในการแก้ไขอยู่ในขณะนี้คือ"พรมแดน"ที่ทำให้คนต่างศาสนาไม่สามารถ"คุยกันได้" โดยแสดงชัดเจนตั้งแต่คำโปรยหน้าปกหนังสือว่า “เส้นแบ่งทุกสิ่งในโลกออกจากกันอย่างสิ้นเชิงและเราไม่เคยมองเห็นมัน คือ อคติในหัวใจ" ส่วน"ปกหลัง"ก็ขยายความเพิ่มเติมว่า “เราอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า พรมแดนเป็นอาณาเขตที่มนุษย์สมมติขึ้นเพื่อความสะดวกในการปกครอง สมมตินี้แบ่งเราออกเป็นประเทศไทย เป็นมาเลเซีย เป็นอินโดนีเซีย และอื่นๆ ถ้าเราหลงสมมติ เราก็อาจจะลืมว่าแท้จริงเราเป็นมนุษย์ที่รู้จักรัก รู้จักเมตตาและกรุณา แล้วเราก็อาจจะรังแกกัน ทำร้ายกัน ฆ่ากัน เหมือนสัตว์เดรัจฉาน แต่ถ้าเราไม่หลงสมมติ เราก็จะไม่ตกเป็นทาสของพรมแดน และจะสามารถคงความเป็นมนุษย์เอาไว้ได้ ‘ขอให้ท่านทั้งหลายจงเจริญในธรรม’ คือคำสอนของรอซูล หรือศาสนาทูต และคำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของทั้งสองท่านนั้น สอดคล้อง ไม่ขัดแย้งกันและจะทำให้ท่านสามารถข้ามสมมติคือพรมแดนไปได้ ไม่ถูกพรมแดนแบ่งเราออกจากกัน” "พรมแดน" ในความหมายของหนังสือจึงมีมากกว่า"รูปธรรม" และยากที่จะ"ตีความ"ออกมาเป็นภาพยนตร์ให้คนเข้าใจ นี่กระมังจึงเป็นเหตุผลที่"ต้อม ยุทธเลิศ" ตัดสินใจระงับการฉาย


"พรมแดน" ในหนังสือ ก็ยังเป็นเรื่องของ"ตำรวจ" "ตำรวจ"ที่เป็น"ตัวเอก"ของเรื่องนี้มี 2 คน คือ ร.ต.อ.ตารณ ยังชีพชอบ และพ.ต.ท.เลอมาน ไตรทิพย์พิชาน ที่ดูจะแตกต่างกันแบบบคนละขั้ว แต่ทั้งคู่ก็สามารถทำงานด้วยกันได้อย่างดี โดยใช้"ยะลา"เป็นสถานที่ทำงานของทั้ง 2 ก่อนที่ตารณจะย้ายไปทำงานที่สงขลาเมื่อได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ถูกวางระเบิด "ตารณ" เป็นบุตรชายคนเดียวของ พล.อ.ตามพ์ ยังชีพชน ผู้ช่วยผบ.ทบ. ที่ถูกนายทหารนินทาว่า"แข็งยังกะเหล็กกล้า ตรงยังกะไม้บรรทัด" จึงไม่มีโอกาสขึ้นเป็นผบ.ทบ. ส่วนแม่เป็นแพทย์หญิง มียศเป็นพ.อ.(พิเศษ) พ.ญ.รมณีย์ ยังชีพชอบ และขอย้ายตัวเองลงพื้นที่ชายแดนใต้เมื่อ"ครู"ของเขา คือ นายดาบตำรวจประหาณ หริป้อง เสียชีวิตขณะทำหน้าที่คุ้มครองครูและนักเรียนในภาคใต้ ส่วน"เลอมาน" บุตรของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เกิดในเมืองไทย แต่ไปโตและเรียนหนังสือที่เมืองนอก และเมื่อพ่อเสียชีวิตขณะที่เขายังเรียนระดับไฮสกูลที่เมืองนอกและแม่ของเขาเลือกจะกลับเมืองไทย แต่เลอมานกลับขอใช้ชีวิตในอังกฤษในแบบ"กุ๊ย" และพบ"ขวัญตาม"สาวสวยที่ทำให้เขาตัดสินใจกลับเมืองไทย และเลือกที่จะเป็น"ตำรวจ"เมื่อรู้ว่าหญิงสาวในฝันเป็นธิดาของพล.ต.ต. แต่เพราะไม่มีวุฒิการศึกษา เขาจึงตัดสินใจเรียนมสธ. และเมื่อบวกกับพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดี ทำให้เขาขยับหน้าที่การงานได้ แต่กลายเป็นไกลจากหญิงสาวในฝันจนเธอหายไปจากชีวิตเขาเมื่อแต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่ม เลอมาน มีภาพความขัดแย้งในตัวเอง เพราะทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่จัด แต่ฟังเพลงคลาสสิคและพกหนังสือ"คู่มือมนุษย์"ของท่านพุทธทาสติดตัวเสมอ..


คนสำคัญอีกคนคือ"ดร.ราชิดา มาลิกมูล" ดร.ราชิดา ดอกเตอร์สาว(สวย)จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งเบิร์กลีย์ อาจารย์สอนวิชาสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยสงขลาครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในนวนิยาย ดร.ราชิดา เป็นดร.นักวิชาการสาวที่ใช้"ความรู้"จากการศึกษาทั้งในและนอกระบบ ทั้งในและนอกประเทศเกี่ยวกับ"มุสลิม"ออกเผยแพร่เพื่อให้คนในและนอกเครื่องแบบเข้าใจ จนเธอกลายเป็น"ศัตรู"ที่ถูกจดหมายขู่ฆ่าจากกลุ่มคนที่ต้องการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือปลุกระดม จนถึงขั้นถูกวางระเบิดในบ้านพักในมหาวิทยาลัย ขอย้ำนะครับ ว่า"หนังสือ" เรื่อง"พรมแดน"ที่ผมอ่าน พล.ต.อ.วสิษฐ ได้อธิบายศาสนาอิสลามผ่านการบรรยายในเรื่องและผ่านดร.ราชิดา เพื่อ(เสนอแนะ)การแก้ปัญหาภาคใต้ รวมถึงยังอธิบายหลายอย่างที่เป็น"ความรู้"สำหรับคนทั่วไป ตั้งแต่"เรื่องง่ายๆ"อย่าง"บะกุ๊ดเต๋"ไปจนถึง"หลวงปู่ทวด" ที่"วัดดีหลวง"และ"วัดพะโคะ" รวมทั้งยังเสนอรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับภาษาและความเชื่อใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างน่าสนใจมาก นอกเหนือจากการอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ให้คนคุ้นเคยเห็นภาพ ซึ่งผมเชื่อว่า ท่านได้ศึกษามาอย่างดี รวมถึงใช้ความรู้จากการที่เคยเป็นนายตำรวจที่นั่นมาอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจ ผมไม่แน่ใจว่าใครบ้างอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว แต่ในสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีต่อเนื่อง หนังสือเล่มนี้จึงมี"คุณค่า"แม้จะนำเสนอในรูปแบบของ"นวนิยาย"ก็ตาม "พรมแดน" ในรูปภาพยนตร์เรื่อง"ปิตุภูมิ พรมแดนแห่งรัก" จึงน่าเสียดายที่อดฉาย เพราะคนไทยแม้จะอ่านหนังสือมากกว่าปีละ 8 บรรทัด แต่คงมีไม่มากที่เคยผ่านตาหนังสือเล่มนี้
|