*/
แมวดาว | ||
![]() |
||
แมวดาว |
||
View All ![]() |
กล้วยไม้กับเพลง นางฟ้าจำแลง | ||
![]() |
||
นางฟ้าจำแลง เพลงของสุนทราภรณ์ |
||
View All ![]() |
<< | กรกฎาคม 2014 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ผมรู้จักประเทศญี่ปุ่นมาเนิ่นนานตั้งแต่เด็ก ผ่านทางหนังการ์ตูนมนุษย์แปลงหรือไอ้มดแดงทั้งหลาย จนเติบโตขึ้นมาก็บริโภคสินค้าแดนปลาดิบในรูปแบบต่างๆทั้งที่เป็นอุปโภค และบริโภค จนหลายครั้งนึกว่า เป็นคนญี่ปุ่นไปแล้วก็มี รอบๆตัวผมมีแต่ชื่อภาษาญี่ปุ่น เหลือเชื่อครับว่าผมไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว มีอยู่วันหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งชื่อ "Yasashii Jikan" ที่ใช้ชื่อภาษาไทยอย่างโรแมนติกว่า "ช่วงเวลาแห่งไออุ่น" เป็นเรื่องราวความผูกพันระหว่างพ่อและลูกที่เกิดรอยร้าวเป็นแผลลึกขึ้นในใจ ต่างฝ่ายต่างเดินทางมาที่ "เกาะฮอกไกโด" โดยมิได้นัดหมาย ท่ามกลางฉากหนังที่ฉายภาพธรรมชาติอันแสนสวยและอ่อนโยนของเกาะแห่งนั้น จนผมนึกว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปถึงให้ได้สำหรับ...ฮอกไกโด นึกไม่ถึง ฝันของผมจะเป็นจริง... รู้่สึกเหมือนฤดูร้อนที่กรายมาเยือนพร้อมกับท้องฟ้าที่สดใส... รูปปั้นยักษ์ต้่อนรับแขกผู้มาเยือน เข้าสู่ เมืองโนโบริเบ็ทสึ "ฮอกไกโด" เป็นเกาะที่เปี่ยมธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และหลากหลาย มีทิวทัศน์ที่งดงามตระการตาในแทบทุกฤดูกาล ชาวญี่ปุ่นจากภาคอื่น ๆ ของประเทศ จึงนิยมมาตากอากาศหรือย้ายมาอยู่อาศัยและทำงานเป็นจำนวนมาก แน่นอนความพรั่งพร้อมด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอาหารการกิน เป็นแม่เหล็กยักษ์ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาที่นี่เป็นจำนวนมากในแต่ละปี ประชากรทั้งเกาะมีประมาณ 5 ล้านคน คนส่วนใหญ่ย้ายมาจากเกาะฮนชูเมื่อราว 100 กว่าปีก่อน เป็นแหล่งที่ซามูไรแพ้สงครามจึงต้องหนีมาอยู่ที่เกาะนี้ ความจริงแล้วที่เกาะนี้มีชนพื้นเมืองอาศัยอยู่มานานแล้ว คือ ชาวไอนุ แต่โดนกลืนชาติไป ปัจจุบันหลงเหลืออยู่น้อยมากและมีชีวิตเช่นชาวญี่ปุ่นทั่วไป ไม่น่าเชื่อว่า ฮอกไกโดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดต้อนรับแขกผู้มาเยือนได้ทั้ง 4 ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูร้อน ถือเป็นโชคดีของผมที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงฮอกไกโด ท่ามกลางสภาพอากาศที่สดใส สายลมที่สดชื่น แสงแดดที่ลูบไล้ผิวกายจนอบอุ่น ติดตามผมไปเปิดโลกอีกมุมของมนต์เสน่ห์แห่งฮอกไกโดในช่วงฤดูร้อน กับการเดินทางไปในเมืองที่เป็นที่นิยมทางตอนใต้ของเกาะที่มีธรรมชาติอันหรูหรา ทะเลสาบ ภูเขา แม่น้ำ และฟ้าสีคราม เที่ยวบิน TG670 ของสายการบินไทย พาคณะนักเดินทาง อันประกอบด้วย สื่อมวลชน,บล็อกเกอร์ออนไลน์ ,เอเยนซี่ และผู้บริหารสายการบินไทย รวม 12 ชีวิต เหินฟ้าออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาประมาณเที่ยงคืน มาถึงสนามบินชิโตเซะ ในเมืองซัปโปโร เมืองหลวงและศูนย์กลางความศิวิไลซ์ของฮอกไกโด ในรุ่งอรุณของวันใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมงเท่านั้น มาถึงก็ต้องรีบปรับเวลาใหม่ เพราะเวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทยในราว 2 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ การเดินทางไปฮ็อกไกโด ต้องไปต่อเครื่องบินที่สนามบินนาริตะ แต่เมื่อปี 2555 สายการบินไทยได้เปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ-ซัปโปโร่ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อรองรับต่อปริมาณผู้โดยสารที่มีความต้องการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในปีที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ยิ่งส่งผลให้คนไทยหลั่งไหลไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมากขึ้น แน่นอนว่า ฮอกไกโด เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยเลยก็ว่าได้ ในการเดินทางครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยวฮอกไกโด มาทำหน้าที่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์นำเที่ยวตามโปรแกรม "Familiarization Trip" พร้อมรถบัสขนาด 20 ที่นั่งมาอำนวยความสะดวกให้ เป้าหมายแรก คือ หมูบ้านนินจา โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu Ninjya-Village) ป้ายข้อความเตือนและแนะนำ การท่องเที่ยวในหมู่บ้านนินจา ผมมีรสนิยมชอบดูหนังแนวพีเรียด ดูได้หมดทั้งไทย ฝรั่ง แขก จีน หรือญี่ปุ่น จำได้ว่า พลันที่หนัง The Last Samurai จบลง รู้สึกศรัทธาในเกียรติและศักดิ์ศรีของซามูไรเลือดบูชิโด เมื่อได้มาเยือน"หมู่บ้านนินจา โนโบริเบ็ทสึ ดาเตะ จิไดมุระ" ศูนย์การเรียนรู้เรื่องซามูไร Katakura Residence (Spirit of SAMURAI Museum) เป้าหมายถัดไปของทริปเรา จึงอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นมิได้ ก่อนจะสัมผัสหัวใจของญี่ปุ่นผ่าน โนโบริเบ็ทสึ ดาเตะ จิไดมุระ สวนวัฒนธรรมสมัยเอโดะที่ท่านสามารถท่องเที่ยวและเรียนรู้ได้ มาทำความรู้จักที่มา-ที่ไปของเมืองเอโดะ แห่งฮอกไกโด กันก่อนครับ คนญี่ปุ่นเองยังอดสงสัยไม่ได้ว่า "เธอใส่ร้องเท้าอะไรหรือจ๊ะ" ย้อนกลับไปในอดีต 400 ปีก่อน เปิดฉากยุคเอโดะที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานถึง 250 ปี เป็นสมัยที่เต็มไปด้วยสันติภาพและความมีชีวิตชีวาซึ่งไม่ค่อยพบเห็นนักในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น วัฒนธรรมและจารีตประเพณีอันหลากหลายที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ ยังฝังรากลึกอยู่ในจิตใจและความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่น กระทั่งปัจจุบัน เอโดะอีกหนึ่งแห่ง ได้ผลิบานที่ แผ่นดินใหญ่ทางเหนืออย่างสง่างาม -ความฝันของเหล่าผู้บุกเบิกและโนโบริเบ็ทสึดาเตะ จิไดมุระ- ผืนแผ่นดินนี้ได้รับการขนานนามว่า "ฮอกไกโด" ในปีเมจิ ที่ 2 ในช่วงบั้นปลายชีวิตของคาตาคุระ โคะจูโร่ ผู้เป็นที่รู้จักกันในนามมือขวาของวีรบุรุษแห่งโทโฮขุ คาเตะ โคะจูโร่ ได้ย้ายมาอาศัยที่เมืองโนโบริเบ็ทสึแห่งนี้ และได้พัฒนาฟื้นฟูเมืองจนมีชื่อเสียงขึ้นมา การหันมาจับจอบเสียมแทนที่เคยจับดาบ เผชิญหน้าบททดสอบหลายต่อหลายครั้ง ล้วนทำเพื่อนำความภาคภูมิใจที่หายไปกับความวุ่นวายจากการปฏิวัติเมจิกลับคืนมา และเพื่อทำให้เมืองเซนได ทุ่งกว้างทางเหนือสุดที่ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็น "เอโดะภาคเหนือ" เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามและคึกคักกลับมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ความฝันของเหล่าผู้บุกเบิกทั้งหลายนั้น ได้ก่อกำเนิด โนโบริเบ็ทสึ ดาเตะ จิไดมุระ "เมืองเอโดะอีกแห่ง"ขึ้นมาในสมัยเฮเซย์ (ชื่อยุคปัจจุบันของประเทศญี่ปุ่น) ทั้งคฤหาสน์ นักรบ ร้านรวงที่ตั้งเรียงรายตามถนนในเมือง อีกทั้งยังมีบ้านนินจาซึ่งเต็มไปด้วยกลไกซับซ้อนมากมาย ...บ้านเมืองอันครึกครื้นกลมกลืนรับกับธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ของฮอกไกโด มีเหล่านักรบ นินจา โออิรัน (หญิงงามเมืองชั้นสูง) และชาวบ้าน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน หากได้ลองก้าวเท้าเข้ามา ท่านก็จะกลายเป็นนักเดินทางแห่งกาลเวลา ออกห่างจากชีวิตในโลกปัจจุบัน แล้วมาสัมผัสปล่อยจิตใจไปกับการท่องเที่ยวย้อนอดีต หอสังเกตการณ์ไฟไหม้ ถังน้ำตั้งอยู่ตามมุมเมือง สำหรับใช้ดับไฟ "โนโบริเบ็ทสึ ดาเตะ จิไดมุระ อยู่ที่เมืองโนโบริเบ็ทสึในฮอกไกโด ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่จำลองวิถีชีวิตของชาวเอโดะเอาไว้ ภายในหมู่บ้านท่านจะได้ย้อนยุคไปกับกิจกรรมมากมาย เช่น โชว์นินจาที่บ้านนินจาคาสุมิ, โชว์โออิรินที่โรงละครวัฒนธรรมญี่ปุ่น แอ๊คชั่นโชว์ซามูไรกลางแจ้ง ชมสาธิตการอำพรางตัวอันเลื่องชื่อ ถ่ายรูปคู่กับซามูไรหรือนินจาเป็นที่ระลึก โชว์โออิรัน ภายในโรงละครวัฒนธรรมญี่ปุ่น เพื่อนร่วมทริปอาสามาเล่นเป็นโชกุน ในโรงละคร นักท่องเที่ยวนิยมไปที่ร้านอุทสึโรอิคัง ร้านนี้มีชุดขุนนาง ซามูไร นินจา และชุดเจ้าหญิงโบราณของญี่ปุ่นมากมายให้เลือกสวมใส่ พร้อมมีบริการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย คนชอบซามูไรอย่างผม มีหรือจะพลาด ตัดสินใจเลือกมาใส่ชุดหนึ่ง เพื่อนเห็นปุ๊บแซวปั๊บว่า เหมือนตัวละครในหนังเรื่อง " 47 โรนิน มหาศึกซามูไร" แหมเข้าใจเปรียบเทียบเสียด้วย พระเอกเรื่องนี้ตายตอนจบ มิใช่รึ (ฮา) โชว์นินจา บ้านนินจาคาสุมิ หลังจากชมการแสดงและทำกิจกรรมต่างๆนานากันแล้ว ถ้ายังมีเวลาเหลืออยู่ ร้านรวงต่างๆ ตามรายทาง ก็น่าเข้าไปสัมผัส มีจำหน่ายทั้งขนมหวาน ของฝาก ของที่ระลึก ขนมบางชนิดมีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น หรือถ้าหิว ก็สามารถเลือกชิมอาหารได้ครับ มีหลากหลายเมนู ราเม็ง โซบะ และอุดัง รวมทั้ง"โอดังโกะ"ของกินขึ้นชื่อของจิไดมุระ แนะนำครับ ให้ซื้อไอศรีมรสชาเขียว (หรือรสอื่นๆก็ได้ตามใจชอบ) ในร้านค้าแห่งหนึ่ง แล้วเดินเพลินๆ กินไอศรีมไป เสพบรรยากาศเมืองโบราณย้อนยุคไป ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง มื้อกลางวันเราใช้บริการที่จุดรับประทานอาหารของคณะทัวร์ บริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านซามูไร จุดต่อไปที่เราเดิินทางไปเยือนคือ เมืองโนโบริเบ็ทสึ เมืองเล็กๆแสนนารักที่จะทำให้คุณรู้สึกอุ่นทั้งกายและใจ ว่ากันว่าหากมาถึงโนโบริเบ็ทสึ เมืองตากอากาศขึ้นชื่อแห่งเกาะฮอกไกโด กรุณามาสัมผัสลมหายใจของแผ่นดินที่ "จิโกกุดานิ" ให้ได้ แล้วเติมเต็มความสุขด้วยออนเซ็นกลางแจ้งที่มีแต่ในประเทศญี่ปุ่น "หุบผานรกจิโกกุดานิ" (Jigokudani Hell Valley) มีลักษณะเป็นเนินเขา เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่อุบัติขึ้นจากร่องรอยของปล่องภูเขาไฟระเบิดภายหลังการปะทุของภูเขาไฟคุตตุละ "Kuttara Volcano" มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 450 เมตร พื้นที่ประมาณ 11 เฮกตาร์ (110,000 ตารางเมตร) ตามหุบเขา จะมีรูพ่นแก๊ส หรือพุแก๊สจำนวนมากด้วย นอกจากนั้นยังมี ควันพวยพุ่งจากน้ำผุร้อนและบ่อโคลนเดือด ซึ่งเป็นที่มาของ"หุบผานรก" นั่นเอง เมื่อย่างเข้าไปในจิโกกุดานิ จะได้กลิ่นกำมะถันตลบอบอวล ไอน้ำระเหยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ดูราวกับ"นรก"ยังไงยังงั้น หากเดินไปเรื่อยๆจะพบกับ "อุโอนุมะ" ซึ่งเป็นบ่อกำมะถันขนาดใหญ่ มีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ที่จิโกกุดานิแห่งนี้ จะทำให้เราได้เห็นความสวยงามรูปแบบต่างๆตามฤดูกาล ฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ,ชมวิวฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน,ฤดูใบไม้ผลิห้อมล้อมไปด้วยมวลดอกไม้ และฤดูร้อนก็จะมีป่าเขียวชอุ่มดูแล้วสดชื่นกระจายไปทั่ว ภูมิทัศน์ที่น้ำเดือดปุดๆเป็นฟอง กลายเป็นที่มาของประโยคที่ว่า "นรกที่ยักษ์อาศัยอยู่" และออนเซ็นหลากหลายชนิดที่ถูกพ่นออกมาจากที่นี่เองที่ถูกส่งต่อไปยังเรียวกัง(ที่พักแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม) โรงแรม และรีสอร์ท แต่ละแห่ง ร้านขายของที่ระลึก"หุบผานรกจิโกกุดานิ" คณะทัวร์จากเมืองไทยใช้เวลาที่นี่ประมาณเกือบชั่วโมง ด้วยบรรยากาศแปลกใหม่ไม่เหมือนเมืองไทย ทำให้เดินถ่ายรูปกันเพลินเชียวครับ มีชาวญี่ปุ่นเข้ามาท่องเที่ยวกันจำนวนไม่น้อย มีทั้งผู้ใหญ่ วัยรุ่น ไปจนถึงเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็ชักภาพกันโดยมีภาพหุบเขาสีแดงๆส้มๆที่มีไอพ่นตลอดเวลาเป็นฉากหลังนั่นแหละครับ น่าเสียดายไปโนโบริเบ็ทสึ รอบนี้ ไม่มีโอกาสแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง "Toya-Usu Global Geopark" หรืออุทยานธรณีวิทยา ทะเลสาบโทยะ -ภูเขาไฟอุซุ สถานีต่อไป ที่คณะทัวร์ตั้งใจไปสัมผัส คือ "Toya-Usu Global Geopark" หรืออุทยานธรณีวิทยา ทะเลสาบโทยะ -ภูเขาไฟอุซุ (โทยะ โค -อุซุ ซัง) อันเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเยี่ยมชมภูเขาไฟด้วยกระเช้าลอยฟ้า นึกไม่ถึงอยู่เมืองไทยเคยแต่ปีนเขาสูง แต่วันนี้ที่ญี่ปุ่นกลับต้องมานั่งโรปเวย์ขึ้นสู่ภูเขา ช่างเป็นบรรยากาศที่แปลกใหม่จริงๆ อุทยานธรณีวิทยาแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบโทยะและภูเขาไฟอุซุ เป็นแนวภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ มีการระเบิดของภูเขาไฟมาแล้วถึง 4 ครั้ง ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ไม่น่าเชื่อครับว่า การระเบิดของภูเขาไฟอุซุ ทำให้เกิดภูเขาย่อมๆลูกใหม่ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1943 ไม่ธรรมดาครับสำหรับอุทยานธรณีวิทยา ทะเลสาบโทยะ -ภูเขาไฟอุซุ เนื่องจากได้รับการยกย่องให้เป็น"อุทยานธรณีวิทยาของโลก" เป็นสถานที่แรกในญี่ปุ่นเลยทีเดียว "โชวะ ชินซัง" ภูเขาลูกใหม่ของญี่ปุ่น อายุ 71 ปี รัฐบาลญี่ปุ่นได้สร้างอาคารหมู่บ้านภูเขาไฟคะซังมุระ เป็นห้องจำลองเหตุการณ์ปะทุของภูเขาไฟอูซุ และกลไกการเกิดขึ้นของภูเขาไฟ เสมือนเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูล และถ่ายทอดองค์ความรู้ ของอุทยานธรณีทะเลสาบโทยะ-ภูเขาไฟอุซุ เลยทีเดียว การนำเสนอแม้เป็นเรื่องราวทางธรณีวิทยาแต่ก็เข้าใจได้ง่ายครับ จะว่าไปแล้ว ผมชอบแนวคิดหลักของอุทยานฯแห่งนี้มากครับ ชอบตรงที่ ญี่ปุ่นพยายามศึกษาหาทางให้ประชาชนอยู่ร่วมกันได้กับ"ดินผืนใหญ่"ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีการศึกษาประวัติและการระเบิดของภูเขาไฟ เพื่อหาวิธีการสร้างประโยชน์ และป้องกันเหตุภูเขาไฟระเบิดในอนาคต ทัศนียภาพ ภูเขาไฟอุซุ ภาพนี้ถ่ายจากกระเช้าลอยฟ้า ไฮไลท์ของทริปวันนี้ อยู่ที่การขึ้นกระเช้าลอยฟ้า สู่ยอดภูเขาไฟอุซุ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟโชวะ ชินซัง เจ้ากระเช้าลอยฟ้านี่ก็ไม่ใช่ขนาดเล็กนะครับ ใหญ่โตพอประมาณทีเดียว บรรจุคนได้มากถึง 106 คน ใช้เวลาเดินทาง 6 นาทีต่อเที่ยว สามารถชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาใหม่โชวะที่อยู่เบื้องล่าง ได้ตลอดระยะทาง 1,370 เมตรที่นั่งอยู่ในกระเช้าลอยฟ้า อันว่า ภูเขาใหม่โชวะ (โชวะ-ชินซัง) เป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟอุซุ ทำให้เกิดการลาวาจับตัวแข็งและดันตัวสูงขึ้นกลายเป็นภูเขาซึ่งสูงถึง 400 ร้อยเมตร น่าอัศจรรย์จริงๆครับ วิวทะเลสาบโทยะ เจ้าหน้าที่ไกด์จากการท่องเที่ยวฮอกไกโด และเจ้าหน้าที่อุทยานธรณีวิทยาฯ อธิบายวิธีการะเบิดของภูเขาไฟ เมื่อมาถึงสถานียอดขาอุซุซัง โรปเวย์แล้ว หากเดินไปทางซ้ายมือสักพักหนึ่ง จะถึงจุดชมวิวของอ่าวฟุนคะ และปากปล่องภูเขาไฟใหญ่กินนุมะ ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในปี 1977 ส่วนทางเดินไปทางขวา จะเป็นจุด ถ่ายภาพที่มองเห็นทะเลสาบโทยะ และภูเขาไฟอุซุ ซึ่งขอบอกว่า วิวสวยมากๆ และอากาศก็บริสุทธิ์สดใสมากๆ ด้วย น่าเสียดายเรามีเวลาอยู่ยอดเขาอุรุซังไม่นาน ก็ต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้ากลับลงไปยังเบื้องล่าง หากใครมีโอกาสมาเยือน ฮอกไกโด ไม่ควรมองข้ามอุทยานธรณีวิทยา ทะเลสาบโทยะ -ภูเขาไฟอุซุ ไปโดยเด็ดขาด ท่านอาจจะรู้สึกเหมือนผมก็ได้ว่า มนุษย์เราเป็นเพียงเศษเสี้ยวธุลีเมื่อเทียบกับพลังแห่งธรรมชาติ หลังจากนั้น รถทัวร์ก็พาคณะเรามุ่งหน้าสู่ที่พักบริเวณทะเลสาบโทยะ ชื่อว่า Laketoya – Manseikaku Hotel ซึ่งเรามีโปรแกรมล่องเรือในทะเลสาบ ชมพลุไฟ ตอนกลางคืนกันด้วย แม้พลุไฟที่ทะเลสาบ ไม่สวยงามอลังการเหมือนที่เคยเห็นในเมืองไทย แต่การได้ล่องทะเลสาบชมดอกไม้เพลิง ท่ามกลางอากาศเย็นๆยามค่ำคืน ก็เป็นบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นเช่นกัน คอยติดตามกันต่อไปว่า ในตอนต่อไป ผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนของฮอกไกโด บอกได้คำเดียวว่าโรแมนติกมากๆ Thank you very much everyone for an unforgettable experience (Ashita) Classical Guitar Solo เพลงประกอบภาพยนตร์ซีรีส์ญี่ปุ่น เรื่อง "Yasashii Jikan" |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |