*/
แมวดาว | ||
![]() |
||
แมวดาว |
||
View All ![]() |
กล้วยไม้กับเพลง นางฟ้าจำแลง | ||
![]() |
||
นางฟ้าจำแลง เพลงของสุนทราภรณ์ |
||
View All ![]() |
<< | ตุลาคม 2014 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
....ฝน หมอก ไอเย็น และความมืดสลัว บนยอดดอยวันนั้น หน้าฝนใครว่าเป็น"ฤดูต้องห้าม" ของการเดินทางท่องเที่ยวตามป่าดงพงไพร เคยเดินป่ากับพรรคพวกเพื่อนฝูง ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลงมา หรือเปล่า ? ภูเขาและผืนป่ายามวสันตฤดู ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง อย่าว่าแต่...การชมวิหคเคล้าสายฝนและไอหมอกนั้น ปลายเดือนกันยายน 2557 ผมมีโอกาสไปเยือนดอยอินทนนท์ 7 ครั้งแล้วในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ไปสัมผัสความหนาวเย็นของอุณหภูมิยอดหญ้าบนนั่นซึ่งเข็มปรอทชี้ที่ระดับ 7-8 องศา มันหนาวเย็นสุดขั้วหัวใจจริงๆ โดยเฉพาะหากคุณท้าทายความหนาวด้วยการอาบน้ำตอนกลางดึกอย่างที่ผมเคยทำบ้าๆอย่างนั้นมา (ผู้ปกครองควรแนะนำว่าห้ามลอกเลียนแบบ) แต่ใน 3 ครั้งหลังสุด ถือว่ามีความเพิเศษยิ่งนัก และเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เมื่อเดินทางไปในฐานะนักดูนก ที่โลกทัศน์เปิดรับสิ่งมีชีวิตเล็กๆรายล้อมตัวเองมากขึ้น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ไม่เพียงเป็นยอดเขาสูงสุดในราชอาณาจักรไทย ด้วยความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ยังเป็นแหล่งดูนกในฝันของคนรักนกทุกคน ไม่เว้นกระทั่งตัวผมเอง จากความโดดเด่นของนกประจำถิ่นบนที่สูงหลายชนิดที่หาพบได้ง่ายเฉพาะเพียงบนดอยอินทนนท์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น นกกินปลีหางยาวเขียว นกศิวะหางสีตาล และนกปีกแพรสีม่วง รวมทั้งนกกระจิ๊ดคอสีเทา ที่พบบนดอยอินทนนท์เพียงแห่งเดียวในเมืองไทย เมื่อพิจารณาจากจำนวนนกทั้งหมด 382 ชนิดที่ใช้ดอยอินทนนท์เป็นแหล่งพักอาศัย สร้างรวงรัง ออกลูกหลาน ในแต่ละระดับความสูงที่มีความหลากหลายของสภาพป่าจากที่ราบตีนดอยไปจนถึงยอดสูงสุดบริเวณอ่างกา จึงไม่น่าแปลกใจที่ดอยอินทนนท์เป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจที่สุดในบ้านเรา และติดอันดับชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชีย เพราะความที่มีนกให้ชมถึงเกือบ 400 ชนิด จากการสำรวจพบว่า นกบนดอยอินทนนท์ มีอยู่มากกว่า 380 ชนิด แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายทางชีวภาพ ว่ากันตามจริง เราสามารถไล่ดูนกได้ตั้งแต่บริเวณด่านตรวจที่ 1 ไปจนถึงยอดดอย โดยมีจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด (หากมีเวลาเยอะพอควร) คือ บริเวณกม. 13, กม. 20, บริเวณที่ทำการอช., บริเวณกม.ที่ 34.5, กม.ที่ 37 หรือจี๊ป แทรค ,กิ่วแม่ปาน กม. 42, ,อ่างกา และบนยอดดอยอินทนนท์ สวนดอกไม้ธรรมชาติในน้ำตกสิริภูมิ เป็นจุดดูนกยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง ท่ามกลางความรื่นรมย์ของสายน้ำธรรมชาติ น้ำตกสิริภูมิเป็นน้ำตกซึ่งไหลมาจากหน้าผาสูงชัน เป็นทางยาวสวยงามมาก สามารถมองเห็นได้จากถนนขึ้นดอยอินทนนท์ตรงที่ทำการอุทยานฯ จะเห็นเป็นสายน้ำตกแฝดไหลลงมาคู่กันแต่เดิมเรียกว่า เลาลี ตามชื่อของหมู่บ้านม้ง (แม้ว) เลาลี ซึ่งอยู่ใกล้ๆ น้ำตก บริเวณทางแยกกิโลเมตรที่ 34.5 เป็นทางตัดเข้าไปยังหน่วยต้นน้ำแห่งหนึ่ง อยู่ทางด้านซ้ายมือ สภาพป่าสองข้างทางเป็นป่าดิบเขา สามารถเดินเข้าไปดูนกได้ มีนกเด่นที่คนตามไปดูกันหลายชนิด ในทริปนี้ ผมโชคดี มีโอกาสเจอนกพญาไฟ (Minivets) ถึง 2 ชนิดด้วยกัน นกพญาไฟนั้น แม้มีสีสวยฉูดฉาด ตัวผู้สีแดง ตัวเมียสีเหลือง แต่ก็หน้าตาและรูปร่างคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มี"จุดตาย"ที่ใช้ในการจำแนกแยกแยะเช่นกัน อยู่ที่แถบปีก นั่นแหละครับ นกพญาไฟแม่สะเรียง / Short-billed Minivet ,ตัวผู้ นกพญาไฟแม่สะเรียง / Short-billed Minivet ,ตััวผู้ นกพญาไฟคอเทา / Grey-chinned Minivet ,ตัวเมีย นกพญาไฟคอเทา / Grey-chinned Minivet ,ตัวผู้ ค่างแว่นถิ่นเหนือ / Phayre's langur จุดดูนกที่สำคัญของดอยอินทนนท์อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงนั่น คือ บริเวณด่านตรวจ กม.38 หรือ ด่าน 2 ซึ่งอยู่ใกล้กับแยกไปอำเภอแม่แจ่ม สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบเขา บนระดับความสูงเกิน 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นจุดดูนกที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าหลังฝนตก จะมีนกนานาชนิดมากินแมลงที่ห้อมล้อมไฟฟ้าที่เปิดไว้ให้ยานพาหนะสัญจรไปแม่แจ่ม เส้นทางดูนก กม.38 หรืออีกชื่อที่นักดูนกนิยมเรียกคือ jeep track ใกล้กับด่านตรวจอุทยานแห่งชาติ กม. ที่ 37.5 เป็นทางเดินราบไปตามป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,500เมตร หากโชคดี 2 ชั้น อาจได้พบ นกปีกแพรสีม่วง และนกปีกแพรสีเขียว ซึ่งเป็นนกหายาก อย่างไรก็ตาม ความคึกคักในช่วงเช้าของด่าน 2 ในฐานะจุดดูนก ลดมนต์ขลังลงไปมาก เนื่องจากทางอช.ได้ติดตั้งเสาไฟฟ้าหลายสิบต้นตามเส้นทางเข้า-ออกจากด่าน 2 เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ส่งผลให้บรรดานกกระจายกันออกหากินแมลงที่มาเล่นแสงไฟยามอรุณรุ่ง เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 43 ของถนนจอมทอง - ดอยอินทนนท์ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวท่านใดที่ต้องการเข้าไปใช้บริการของเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากอช.ดอยอินทนนท์ ตามปกติ ในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม ของทุกปี เส้นทางจะปิดเพื่อปรับปรุงให้ป่าฟื้นตัวจากการรบกวนของมนุษย์ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือ เดือนธันวาคม-มกราคม ใน 3 ครั้งหลังที่เดินทางไปดอยอินทนนท์ในฐานะนักดูนก เป็นการสัญจรในช่วงกันยายน-ตุลาคม ทำให้พลาดการเข้าไปดูนกที่กิ่วแม่ปานอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องแวะที่บริเวณปากทางเข้ากิ่วแม่ปานทุกครั้ง เพื่อกินอาหารกลางวันกัน และเข้าห้องน้ำห้องท่า บริเวณโดยรอบปากทางเข้ากิ่วแม่ปานนั้น ก็มีนกแวะเวียนมาให้ดูหลากหลายชนิด คราวนี้โชคเข้าข้างผมมาก เพราะบังเอิญมีโอกาสพบ เลียงผา เข้าอย่างจัง ตอนแรกที่เห็นนั้น เจ้าเลียงผาซ่อนตัวทำขยุกขยิกอยู่ในพุ่มไม้ใบบัง ยังคิดว่านกเสียอีก ลองนึกภาพดูว่า น้ำในโอ่ง จะใส สะอาด และเย็นชื่นใจ ขนาดไหน นกกินปลีหางยาวเขียว / Green-tailed Sunbird ชนิดย่อย angkanensis ,ตัวผู้ในชุดขนหลังจับคู่ผสมพันธุ์ (eclipse plumage) นกกระจิ๊ดชนิดหนึ่ง พบหน้าปากทางเข้ากิ่วแม่ปาน นกกระจิ๊ดหางขาวเล็ก / Davison's Leaf Warbler เลียงผาเหนือ / Chinese serow เลียงผาเหนือ (อังกฤษ: Chinese serow, Southwest china serow, Mainland serow; ชื่อวิทยาศาสตร์: Capricornis milneedwardsii ) เป็นสัตว์กีบคู่ชนิดหนึ่ง จำพวกเลียงผา เดิมเคยถูกจัดให้เป็นชนิดย่อยของเลียงผาใต้ (C. sumatraensis) โดยใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Capricornis sumatraensis milneedwardsii (ในบางข้อมูลยังจัดให้เป็นชนิดย่อยอยู่) พบกระจายพันธุ์ในประเทศจีนทางใต้ เช่น เมืองเปาซิงเสียน ในมณฑลเสฉวน ในประเทศไทยพบได้ในตอนเหนือของประเทศ และพบได้ทั่วทุกภาคยกเว้นภาคกลางและภาคใต้ ครึ้มฟ้า ครึ้่มฝน ชุ่มดิน ฉ่ำน้ำ วิวหมื่นขุนเขา มองจากลานจอดรถกิ่วแม่ปาน "อ่างกาหลวง" ปากประตูสู่หิมาลัย นอกจากได้ชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนไทยนิยมมาสัมผัสอากาศอันหนาวเย็นแล้ว "อ่างกาหลวง" ยังเป็นส่วนหนึ่งของปลายเทือกเขาหิมาลัย ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพอันโดดเด่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากอากาศที่หนาวเย็น และมีพืชพรรณในเขตอบอุ่นขึ้นอยู่จำนวนมาก ทำให้ได้รับสมญาอีกนัยว่า "ประตูสู่หิมาลัย" "อ่างกาหลวง" แม้เป็นแอ่งน้ำซับขนาดเล็ก มีอาณาบริเวณไม่กี่สิบไร่ แต่ก็เป็นพื้นที่พิเศษยิ่งนัก ด้วยเป็นแอ่งน้ำตามธรรมชาติที่อยู่บนป่าดิบเขาจุดสูงที่สุดของประเทศไทย ก่อกำเนิดสิ่งอัศจรรย์ของโลกธรรมชาติ เป็นปาก"ประตูสู่หิมาลัย" จึงไม่ต่างไปจาก " เพชรประดับมงกุฎ"ของยอดดอยอินทนนท์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา บนยอดดอยอินทนนท์ เส้นทางนี้สามารถสัมผัสกับธรรมชาติอันชวนหลงไหลของป่าดิบเขาได้ง่ายที่สุด ภายในจัดทำเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยใช้สะพานไม้ทั้งหมด "ต้นไม้ห่มผ้า" และ""ข้าวตอกฤาษี"ที่อ่างกาหลวง สภาพแวดล้อมที่นี่เยือกเย็นชุ่มชื้นตลอดปี ปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา อากาศเต็มไปด้วยละอองน้ำ ทำให้ต้นไม้ใหญ่ในป่าดิบเขามีมอสและเฟิน ขึ้นหุ้มเต็มต้น เหมือน"ต้นไม้ห่มผ้า" จนแลดูราวกับป่าในยุคดึกดำบรรพ์ บรรยากาศเยี่ยงนี้ไม่อาจหาได้ในส่วนอื่นของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณ "อ่างกาหลวง" ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เป็นจุดที่สามารถสัมผัสกับธรรมชาติอันชวนหลงไหลของป่าดิบเขาและป่าเมฆได้ง่ายที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ ระบบนิเวศบริเวณอ่างกาหลวง มีรูปแบบพิเศษมาก กลางป่าจะเป็นแอ่งน้ำซับที่มีลักษณะเป็นพรุหรือแอ่งในเขตอบอุ่น มีการทับถมของเศษซากกิ่งไม้ ใบไม้ และมอสที่ไม่ผุสลายตัวอย่างสมบูรณ์ เป็นแหล่งพันธุ์พืชและสัตว์หายากหลายชนิด นกมุ่นรกหัวน้ำตาลแดง /Rufous-winged Fulvetta นกศิวะหางสีตาล / Chestnut-tailed Minla นกกะรางหัวแดง / Chestnut-crowned Laughingthrush นกติ๊ดคิ้วเหลือง / Yellow-browed Tit นกปรอดหัวตาขาว / Flavescent Bulbul นกหางรำดำ / Dark-backed Sibia นกกินปลี (Sunbird) ตัวผู้จะมีสีสวยและขนาดตัวใหญ่กว่าตัวเมีย ส่วนตัวเมียจะมีสีออกโทนน้ำตาลอ่อนทั้งตัว ตัวเมียของนกกินปลีชนิดหนึ่ง คาดว่าจะเป็น นกกินปลีหางยาวเขียว / Green-tailed Sunbird นกกินปลีหางยาวเขียว / Green-tailed Sunbird ชนิดย่อย angkanensis นกกินปลีหางยาวเขียว / Green-tailed Sunbird ในเมืองไทยพบกระจายอยู่เพียงแค่สามแห่ง ได้แก่ อช.เขาหลวง (ชนิดย่อย australis) ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ (ชนิดย่อย angkanensis) และภูเขาสูงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางต่อเนื่องกับ อช.แม่วงก์ ทางภาคตะวันตก นกกินปลีหางยาวเขียว / Green-tailed Sunbird ชนิดย่อย angkanensis นกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า / Mrs Gould's Sunbird ,ตัวผู้ หมุดหลักฐาน "จุดสูงสุดแดนสยาม" อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานฯ เมื่อพ.ศ.2515 ประกาศเป็นอุทยานฯ เป็นลำดับที่ 6 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 482.4 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ดอยอินทนนท์แต่เดิมดอยนี้มีชื่อว่า "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา"ดอยหลวง มาจากขนาดของดอยที่ใหญ่มาก ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "ดอยหลวง" (หลวง: เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ใหญ่) กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้าย ดอยอินทนนท์ อดีตกาลก่อนป่าไม้ทางภาคเหนืออยู่ในความควบคุมของเจ้าผู้ครองนครต่าง ๆ สมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ (องค์สุดท้าย) พระองค์ให้ความสำคัญกับป่าไม้อย่างมาก โดยเฉพาะป่าในบริเวณดอยหลวง ทรงรับสั่งว่า หากสิ้นพระชนม์ลงให้นำอัฐิบางส่วนขึ้นไปสร้างสถูปบรรจุไว้บนดอย ดอยนี้จึงมีนามเรียกขานว่า "ดอยอินทนนท์" แต่มีข้อมูล บางกระแสกล่าวว่า ที่ดอยหลวงเรียกว่า ดอยอินทนนท์ นั้น เป็นเพราะเนื่องจากว่าเป็นการให้เกียรติ เจ้าผู้ครองนคร จึงตั้งชื่อจากคำว่า "ดอยหลวง" ซึ่งเป็นชื่อที่มีความซ้ำกับดอยหลวง ของอำเภอเชียงดาว แต่ภายหลังมีชาวเยอรมัน มาทำการสำรวจและวัด ซึ่งปรากฎผลว่า ดอยหลวง หรือดอยอ่างกา ที่อำเภอแม่แจ่มมีความสูงกว่า ดอยหลวง ของอำเภอเชียงดาว จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อไม่ให้มีความซ้ำซ้อนกัน และเรียกดอยแห่งนี้ว่า "ดอยอินทนนท์" นกกระจิ๊ดคอสีเทา / Ashy-throated Warbler พบบนดอยอินทนนท์เพียงแห่งเดียวในเมืองไทย นกอีแพรดท้องเหลือง / Yellow-bellied Fairy-flycatcher เดิมนั้นนกอีแพรดท้องเหลือง ใช้ชื่อว่า Yellow-bellied Fantail เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาและอุปนิสัยคล้ายนกอีแพรด (Fantail) มาก แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว มันไม่ใช่นกในวงศาคณาญาติของนกอีแพรด นักปักษีวิทยาบางคนจึงเสนอว่าควรเรียกนกอีแพรดท้องเหลืองด้วยชื่อ Yellow-bellied Fairy-flycatcher สภาพป่าธรรมชาติ บริเวณจุดสูงสุดแดนสยาม ....ขณะไต่ระดับลงจากยอดอ่างกา ผ่านหน้ากิ่วแม่ปาน --------------- Raindrops Keep Falling On My Head (Fingerstyle Guitar)
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |