*/
มวลดอกไม้ | ||
![]() |
||
แม้ดอกหญ้าอันต่ำต้อย หากเก็บมาเรียงร้อยมีค่ามหาศาล |
||
View All ![]() |
<< | กันยายน 2007 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 |
ตาเถรจิ้งหรีด .......นิทานเรื่องนี้ผู้เขียนมิได้เจตนาหมิ่นศาสนา แต่เป็นแค่นิทานให้พุทธศาสนิกชน ได้วิเคราะห์และคำนึงในการทำบุญอย่างมีเหตุมีผล อย่าลุ่มหลงไปกับพิธีที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ .............ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่กี่ครัวเรือน เป็นชุมชนท้องถิ่นชนบท ชาวบ้านทั้งหมดมีอาชีพเป็นเกษตรกร ทำนาทำไร่ ในหมู่บ้านมีวัดอยู่วัดหนึ่ง ที่ยังด้อยการพัฒนา ในวัดมีแค่พระหนึ่งรูป ชาวบ้านเรียกขานว่า ตาเถรจิ้งหรีด และสามเณรอีกหนึ่งรูป ชื่อจ้อย ทั้งสองอาศัยการบิณฑบาตรเลี้ยงชีพจากชาวบ้านในชุมชน .............ปีหนึ่ง เกิดข้าวยากหมากแพง ฝนแล้งพืชสวนไร่นาที่ชาวบ้านหว่านดำลงไปไม่ได้ผล เฝ้ารอฝนฟ้าตกลงมา เพื่อทำนาตามฤดูกาล ทำให้ชาวบ้านต้องประหยัดและสำรองผลผลิตไว้กินไว้ใช้ แม้แต่การทำบุญตักบาตรก็ทำบ้างเว้นบ้าง จนพระและเณรทั้งสองต้องอดมื้อฉันมื้อตามไปด้วย ..............ตาเถรจิ้งหรีด จึงคิดอกุศโลบาย กับสามเณรว่า "ข้าจะแสดงบทเป็นหมอดูเพื่อให้ชาวบ้านเกิดความศรัทธาเพื่อพวกเขาจะได้นำอาหรทำบุญ ส่วนเจ้าไปขโมยควายชาวบ้านนำไปซ่อนไว้อย่างมิดชิด แล้วมาบอกข้าว่าซ่อนไว้ ณ แห่งใด" สามเณรจ้อยรับคำ ตกกลางคืน สามเณรจ้อย เข้าไปขโมยควายจากบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน แล้วนำไปผูกซ่อนไว้ แล้วรีบกลับมารายงานตาเถร (หมายตุ: การที่พระโกหกผิดอาบัติปาจิตตี ส่วนการลักขโมยในสามเณร ถือว่าขาดจากการเป็นสามเณร) ...............รุ่งเช้า ชาวบ้านต่างออกหาควายที่หายกันให้วุ่น แต่ก็หาไม่เจอ ตาเถรจึงสั่งให้สามเณรออกป่าวประกาศว่า เรื่องดูยามสิ่งของหาย ตาเถรจิ้งหรีดดูได้แม่นเหมือนตาเห็น แม้ว่าชาวบ้านจะลังเลไม่เชื่อว่าตาเถรจะทำได้จริงๆ ก็จะลองดูเผื่อเป็นจริง พวกชาวบ้านจึงแห่กันมาที่วัดพร้อมสำรับกับข้าว เมื่อพระเณรฉันอาหารเสร็จ ให้ศีลให้พรแล้ว ตาเถรจึงถามชาวบ้านว่า "มีเรื่องเดือดร้อนอะไร ให้อาตมาช่วยเหลือบ้าง" ชาวบ้านจึงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ควายทิดสีหายเมื่อคืน" ตาเถรทำท่านั่งสมาธิอยู่ครู่หนึ่งแล้วลืมตาขึ้นมาบอกชาวบ้านด้วยเสียงหนักแน่นว่า "พวกเจ้าจงเดินไปทางทิศเหนือ เจอป่าละเมาะแล้วหาดู โจรมันล่ามไว้ริมน้ำใกล้พุ่มไม้ใหญ่ หากพวกเจ้าไม่รีบไป คืนนี้มันจะนำไปขาย" พวกชาวบ้านกราบลา พร้อมกันเพื่อไปช่วยตามหาควายของ ทิดสี และจริงดังที่ตาเถรบอกทุกประการ ควายได้อยู่ในสถานที่ดังกล่าวจริง ชาวบ้านดีใจมาก เกิดความศรัทธาในตัวตาเถรขึ้นมาทันที ทุกวันพวกเขาได้นำสำรับกับข้าวมาถวายโดยตาเถรและสามเณรไม่ต้องออกบิณฑบาตร ต่างเฝ้าชะแง้แลมองว่า ตาเถรจะยกมือกี่นิ้ง หยิบฉวยสิ่งของอะไรก้ตีความเป็นหวย นำไปซื้อผิดบ้างถูกบ้าง หากคราใดซื้อถูกขึ้นมาก็โพนทนาว่า เพราะได้จากการใบ้ของตาเถร .................วันหนึ่ง หลังจากพระฉันเช้าเสร็จ ชาวบ้านคนหนึ่งถามตาเถรว่า "เมื่อไหร่ฝนจะตกละ หลวงตาเถร" ตาเถรไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่รู้คำตอบ แต่ด้วยไหวพริบ จึงเอ่ยขึ้นว่า "พรุ่งนี้มาเอาคำตอบ คืนนี้จะถามสวรรค์ ดูก่อน" หลังจากเสร็จศาสนกิจ ชาวบ้านก็ลากลับ คืนนั้นตาเถรนั่งคิดหาวิธีว่าจะบอกชาวบ้านอย่างไรว่าฝนจะตกเมื่อไหร่ แต่ด้วยความละอายแก่ใจที่หลอกชาวบ้านจึงคิดว่ากรรมคงมาตามสนอง คิดได้ดังนั้น จึงตัดสินใจไปกระโดดบ่อร้างให้ตายเสียคืนนี้ เมื่อเดินทางไปเจอบ่อร้างจึงกระโดดทันที แต่บ่อร้างนั้นมีน้ำอยู่แค่หน้าอกทำให้ตาเถรไม่ถึงแก่มรณภาพ พอน้ำในบ่อนิ่งสงบ ลูกเขียดจึงถามแม่เขียดว่า "แม่ๆ เมื่อไหร่ ฝนจะตก" "อีกสามวันจ๊ะ" แม่เขียดตอบ ตาเถรได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก รีบตะเกียกตะกายขึ้นจากบ่อ กลับมาวัดจัดการตากจีวร สบง เปลี่ยนใหม่แล้วจำวัดด้วยความสุขกายสบายใจ ...............รุ่งของวันใหม่ ชาวบ้านจัดปิ่นโต ภัตตาหารมาวัดแต่เช้าเพื่อฟังคำตอบจากตาเถร เมื่อฉันอาหารเช้าและทำศาสนพิธีเสร็จ ตาเถรเอ่ยขึ้นด้วยเสียงชัดเจนว่า "พวกโยมทั้งหลายเตรียมพันธุ์ข้าว ปลา พืชไร่ไว้ได้เลย" ตาเถรหยุดพูดทำให้ชาวบ้านที่คุยกันจ๊อกแจ๊กเงียบเสียงพลัน ตาเถรจึงกล่าวต่ออีกว่า "อีก3 วันฝนตกแน่นอน" ชาวบ้านต่างดีใจอย่างล้นพ้น และยิ่งกว่านั้นพอครบ 3 วัน ฝนตกลงมาจริงๆ ตามคำของแม่เขียด เอ้ยตาเถร ด้วยความแม่นยำในการคาดการณ์ ทำนายทายทัก ชื่อเสียงได้ร่ำลือไปถึงเมืองหลวง ................วันหนึ่ง พ่อค้าวานิชชาวจีน ได้มาค้าขายในเมืองหลวง และได้นำแตงโมมา 3 ผล 3 ขนาด แล้วท้าเจ้าเมืองให้ทายเมล็ดในแตงโม หากทายถูกหมดทั้ง 3 ลูก ว่าแต่ละลูกมีกี่เมล็ด พวกเขายินดียกเรือสำเภา สินค้าและยอมเป็นทาสรับใช้ แต่ถ้าหากว่าทายผิด เจ้าเมืองจะต้องสละเมืองให้พวกเขาปกครอง โดยให้เวลา 7 วัน เจ้าเมืองมิอาจปฏิเสธคำท้าได้ ด้วยกองสำเภาจึนมีทั้งกลาสีจำนวนมากดุจกองทัพใหญ่ซึ่งมิอาจต้าน อีกทั้งอาวุยุทโธปกรณ์พร้อมสรรพ จึงรับคำท้าอย่างกระอึกกระอัก ด้วยความร้อนรนเจ้าเมืองจึงสั่งให้ทหารออกป่าวประกาศ หาคนมีวิชาด้านการทำนายทายทักมาช่วยแก้สถานการณ์ ทหารจึงออกป่าวประกาศหาจนทั่วเมืองแต่ไม่ผู้ใดขันอาสา จนได้ยินจากชาวเมืองคนหนึ่งว่า มีพระรูปหนึ่งชื่อตาเถรจิ้งหรีด สามารถทำนายได้เหมือนตาเห็น ทหารจึงมากราบทูลฯ เจ้าเมือง เจ้าเมืองปลื้มปิติยิ่งนัก จึงสั่งให้อำมาตย์นำเกี้ยวไปรับที่วัดทันที เมื่ออำมาตย์และเหล่าทหารไปถึงได้แจ้งเรื่องราวต่างๆ ให้ตาเถรทราบ ตาเถรตกใจมากแต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้แสดงออกนอกหน้า และกล่าวว่า "พรุ่งนี้จะตามไป คืนนี้ขอนั่งสมาธิดูก่อน" เหล่าทหารจึงลากลับ ...............ตกกลางคืน ตาเถรคิดว่า ขืนอยู่ก็ต้องตาย เพราะถ้าหากทายผิดเจ้าเมืองต้องประหารชีวิตแน่นอน อย่างไรเสียไปกระโดดทะเลให้ตายหรือให้ฉลามกินเสียคืนนี้ดีกว่า อีกทั้งไม่ต้องอายประชาชน คิดได้อย่างนั้น ก็เดินไปชายทะเลหาโขดหินสูงหลายสิบเมตร ซึ่งขณะนั้นคลื่นก็กำลังแรงจัด จึงตัดสินใจหลับตากระโดดลงทะเลทันที แต่เดชะบุญหรือสิ่งใดไม่ทราบ คลื่นได้ซัดพาตาเถรไปติดที่สำเภาจีน ตาเถรเกาะไว้ได้ พลันหูได้ยินพ่อค้าจีนสองคนกำลังพูดคุยกันว่า "คงไทยไม่สามารกทายเมล็กแตงโมได้ถูกหรอก ฮิฮิ เพราะลูกใหญ่มังต้องทายว่า เมล็กมาก ส่วงลูกเล็กมังคงทายว่า เมล็กน้อย" อีกคนหนึ่งจึงถามว่า "แล้วแต่ลูกมีกี่เมล็กละ" จีนเจ้าของแตงโมจึงตอบว่า ลูกใหญ่มี 1 เมล็ก ลูกขนากกลางมี 2 เมล็ก ส่วงลูกเล็กมี 3 เมล็ก(สำเนียงจีน) ตาเถรได้ยินเช่นนั้นจึงคิดว่าตนเองรอดตายและอาจมีชื่อเสียงอีกด้วย จึงยอมสละผ้าไตรจีวร ว่ายน้ำเข้าฝั่ง พอกลับถึงวัดก็อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนสบงจีวร และจำวัดอย่างชื่นอุรา .................รุ่งวันใหม่ เหล่าทหารได้มารับที่วัด ด้วยว่าถึงวันที่ชาวจีนกำหนดในวันนี้พอดี ตาเถรจึงขึ้นเกี้ยวไปเข้าเมืองทันที ณ ท้องพระโรงทั้งสองฝ่ายพร้อมด้วยแตงโม 3 ลูกได้ถูกวางอยู่ตรงกลางห้องภายใต้พานรองรับ พ่อค้าจีนจึงถามว่า "ว่าไงเจ้าเมือง วังนี้หมกเวลาตามที่เราสังญากังไว้" เจ้าเมืองจึงดำรัสว่า "เรายินดีทำตามสัญญา ว่าแต่ท่านละ หากเราทายถูกท่านจะว่าอย่างไร" "เรายิงลี ทำตางสังญา" พ่อค้าจีนกล่าว เจ้าเมืองจึงนิมนต์ตาเถรจิ้งหรีด เข้ามาทายเมล็ดแตงโม "พวกเจ้าไม่ต้องมาหลอกเรา เรารู้ เราเห็นว่าข้างในแตงโมแต่ละลูกมีกี่เมล็ด" ตาเถรกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ ชาวจีนบางคนยิ้ม และบางคนหน้าสลด ตาเถรจึงลงมือกล่าวฟันธงเลยว่า " ลูกใหญ่มี 1 เมล็ด ลูกกลางมี 2 เมล็ด และลูกเล็กมี 3 เมล็ด" ทั้งชาวจีนและเจ้าเมืองต่างหน้าซีดสลดคนละความเข้าใจ คือ ชาวจีนหน้าซีดเพราะเหตุว่าเถรคนนี้ทายถูกได้อย่างไร ส่วนเจ้าเมืองวิตกเพราะคิดว่าตาเถรจะต้องทายผิดแน่ๆ และตนเองต้องสละราชบัลลังก์แน่นอน "ทหาร ผ่า!" ตาเถรยื่นคำขาด ทหารลุกลี้ลุกลน ชักดาบออกมาผ่าแตงเพื่อนับเมล็ด และได้จำนวนตามที่ตาเถรทาย ชาวเมืองเมื่อได้ทราบข่าวว่าเจ้าเมืองของตนเองชนะก็ดีใจโห่ดังลั่น ส่วนชาวจีนก็ทำตามสัญญา ...............เช้าวันใหม่เจ้าเมืองจึงนิมนต์ตาเถรมาฉันเช้าในพระตำหนัก จัดอาหารหวานคาวดั่งเครื่องเสวยเพื่อตอบแทนพระคุณที่ช่วยให้ชาวเมืองและตนเองได้รอดพ้นเหตุวิกฤติในครั้งนี้ ก่อนฉันอาหารตาเถรกล่าวต่อหน้าประชุมชนว่า "เราได้ทำให้บรรลุภาระกิจอันยิ่งใหญ่ ที่เป็นสาธาณะประโยชน์ ต่อแผ่นดินแล้ว ต่อจากนี้ไป เราสาบานว่าจะไม่รับทำนายให้ใครอีกต่อไป" ทุกคนที่ได้ฟังต่างโสมนัสปนความเสียดาย แต่ในขณะที่ตาเถรฉันภัตตาหารอยู่นั้น ตาเถรเกิดกระดูกไก่ติดคอ จึงอ้าปากและส่งเสียงดัง อ้าๆๆ เพื่อให้กระดูกไก่หลุด เป็นจังหวะเดียวกันที่ฟ้าได้ผ่ายอดปราสาทของเจ้าเมืองทำให้ตาเถรตกใจกระดูกไก่หลุดลงในลำคอพอดี "นี่ถ้าเราไม่ได้สาบานว่าจะเลิกทำนาย เราคงบอกท่านไปแล้วว่าฟ้าจะผ่าปราสาท นี่แค่ได้แต่อ้าปากค้าง" ตาเถรกล่าว |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |