*/
ฟิวเจอร์ซี BTS ตลาดพลู | ||
![]() |
||
舒适清雅 |
||
View All ![]() |
<< | พฤษภาคม 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
จีนประกาศจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังกู้กุง กรุงปักกิ่ง 北京故宫博物馆 ให้มีจำนวนไม่เกิน 80,000 คนต่อวัน เพื่อไม่ให้เกิดการแออัดในการเข้าชม และป้องกันความเสียหายแก่โบราณสถานที่เกิดจากการมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากเกินไป รวมทั้งออกมาตรการป้องกันไม่ให้มีการเวียนซื้อบัตรเข้าชมไว้ขายเก็งกำไร ทั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2015 เป็นต้นไป
โดยมาตรการใหม่นี้ จัดระเบียบให้กรุ๊ปทัวร์เข้าชมช่วงบ่าย และจะต้องซื้อบัตรผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวอิสระที่ไปกันเอง ให้แสดงบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางทุกคนในขณะซื้อบัตรผ่านประตู และจำกัดให้ซื้อได้คนละ 1 ใบเท่านั้น
ข่าวนี้ทำให้นึกถึงตอนเหล่าซือพาคณะไปปักกิ่งครั้งล่าสุด ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ต้องไปต่อแถวยาว (มาก) เพื่อซื้อบัตรผ่านประตูกู้กง แดดก็ร้อนมากด้วย วันรุ่งขึ้น หน้าและแขนเหล่าซือโดนแดดปักกิ่งเผาเกรียม ดำเป็นเดือนๆ ถ้าเพื่อนๆ คิดจะไปเที่ยวที่นี่ ทำใจต่อแถวยาวอย่างเดียวไม่พอ ต้องเตรียมร่มกัน UV ไปด้วย (ช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายน)
ภาพล่าง เป็นภาพที่เหล่าซือเก็บภาพมาระหว่างที่กำลังต่อแถวรอซื้อบัตรอยู่ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2014 เลือกภาพนี้มา เพื่อบอกเล่าให้เห็นภาพว่า "คนเยอะ" ขนาดไหน ที่ต่อแถวซื้อบัตร มีแผงกั้นแบ่งช่องไว้ชัดเจน จึงไม่มีปัญหาการแซงคิว อย่างที่เกิดขึ้นในเมืองไทย (อันนี้ก็เป็นมาตรการอย่างหนึ่งในการจัดการกับคนหมู่ใหญ่ที่มีหลากหลายนิสัย)
ภายในพระราชวังก็มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก เพราะเป็นช่วงนักเรียนปิดเทอม (ในหลายประเทศ) มุมสวยๆ ที่จะถ่ายรูปก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างชาติ
แม้ว่าประเทศจีนไม่ได้อาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่อาศัยการเป็น "โรงงานโลก" เน้นผลิตสินค้าเพื่อสงออกเป็นรายได้หลักก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนเองและต่างชาติ ก็ยังหลั่งไหลและต้องการเข้าชมพระราชวังกู้กง อันเป็นไฮไลท์ของการเยือนปักกิ่ง ถ้าใครไปปักกิ่งแล้วไม่ได้ไปชมที่นี่ จะรู้สึกเหมือน "ไปไม่ถึงปักกิ่ง" จากสถิติในปีที่ผ่านๆ มา เคยมีสถิติจำนวนคนเข้าชมกู้กงมากถึง 182,000 คนในวันเดียว (หนึี่งแสนแปดหมื่นสองพันคน) ในวันหยุดยาวของจีน เช่น วันแรงงาน วันชาติจีน และจากสถิติปี 2014 มีมากถึง 42 วันที่มีผู้เข้าชมพระราชวังกูกง เกิน 80,000 คน / วัน ............................ ทำให้นึกถึงการท่องเที่ยวบ้านเรา ขณะที่ประเทศเวียดนามมีนักท่องเที่ยวลดลงต่อเนื่อง 11 เดือน แต่ที่บ้านเรากลับมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ช่วงนี้มีข่าวเรื่องทัวร์จีนเข้ามาจำนวนมาก มีตัวเลขมูลค่าการใช้จ่ายซื้อบริการและสินค้าในประเทศไทยสูงสุด มากกว่านักท่องเที่ยวจากยุโรป - อเมริกา และประเทศอื่นๆ ด้านหนึ่ง ถือเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศที่ยังต้องอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวมากระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้คนไทย (รวมถึงรายได้มาชุบชีวิตการบินไทย ที่ได้ไฟล์เหมาลำจากกลุ่มทัวร์จีน 100 ลำ เร็วๆ นี้) ของกิน ผลไม้ และของอื่นๆที่ขายนักท่องเที่ยวขายดีมาก ไอศกรีมยี่ห้อหนึ่งที่ตั้งบูธขายอยู่ที่วัดพระแก้ว ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมา (ถ้าไม่เร่งหามาตรการบริหารจัดการ) เราเห็นภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ในวัดพระแก้ว (อันนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่น่าจะมีมาตรการอะไรบางอย่าง) เห็นภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ตามเกาะต่างๆ เห็นปัญหาเรือทอดสมอทำลายปะการัง ฯลฯ
แต่ผลกระทบเหล่านี้ หลักๆ ไม่ใช่ความผิดของนักท่องเที่ยว เพราะเขาเองก่อนมาก็อาจไม่รู้ว่าคนเยอะขนาดนี้ ก็เหมือนเหล่าซือตอนพาคณะไปปักกิ่ง ไม่ใช่ความผิดของเหล่าซือที่ทำให้คนแน่น ถ้าใครจะมาไล่เหล่าซือก็คงไม่ถูก
การที่เขามาเที่ยวบ้านเราเยอะๆ เป็นผลดีกับประเทศโดยรวม หรือ เป็นผลเสียมากกว่า ? จะไล่นักท่องเที่ยวไปดี ? หรือว่า จะห้ามนักท่องเที่ยวมาดี ? หรือว่าเราจะเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับนักท่องเที่ยว และจัดระเบียบไว้ก่อน
หน่วยงานที่รับผิดชอบของแต่ละประเทศน่าจะต้องหามาตรการบริหารจัดการ เช่น จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละสถานที่ให้มีปริมาณที่เหมาะสม ออกมาตรการควบคุมการบริการทางเรือและยานพาหนะอื่นๆ ออกมาตรการให้บริษัททัวร์ - ไกด์ปฎิบัติตาม และให้ไกด์ชี้แจงให้นักท่องเที่ยวปฎิบัติตาม ขีดเส้นแบ่งให้ทัวร์กรุ๊ปกับนักท่องเที่ยวอิสระ และมาตรการอื่นๆ ที่ตอนนี้สติปัญญาอย่างเหล่าซือยังนึกไม่ออก
เรื่องการยกเว้นค่าวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย ความเห็นส่วนตัวเหล่าซือ ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องยกเว้น ควรจะเก็บค่าวีซ่า ซึ่งเป็นรายได้เข้าประเทศก้อนใหญ่เหมือนกัน ถ้าเก็บ 1000 บาทต่อคน นักท่องเที่ยว 1 ล้านคน ไทยก็จะมีรายได้จากวีซ่า 1000 ล้านบาท เอาเงินส่วนนี้ไปปรับปรุงพัฒนาสิ่งที่จะรองรับการท่องเที่ยว เช่น ใช้เงินก้อนนี้เพิ่มเจ้าหน้าที่ควบคุมการบริการเรือ รถ ฯลฯ จ้างล่ามภาษาจีนคอยอำนวยความสะดวกหรือสื่อกับนักท่องเที่ยวเวลามีปัญหา จ้างพนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อดูแลความสะอาดของสถานที่ ดูแลห้องน้ำ ดูแลเรื่องขยะ ฯลฯ เพราะไม่ว่าที่ไหนที่มีคนจำนวนมาก ปัญหาเรื่องความสะอาดของห้องนำ้ก็จะเกิดตามมาเสมอ แม้แต่ในสถานศึกษาเล็กๆ ของเหล่าซือเอง อีกอย่าง การผ่านกระบวนการขอวีซ่า ยังเป็นการกลั่นกรองคนเข้าประเทศอีกทางหนึ่งได้ด้วย
ภาพล่างนี้ เป็นภาพถ่ายโดย คุณฐานิส สุดโต นักข่าวเนชั่น เป็นภาพเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2015 ที่วัดพระแก้ว เหล่าซือขอแบ่งปันมาจากเนชั่นชาแนลออนไลน์ เพื่อประกอบการเขียนเรื่องนี้
เหล่าซือเริ่มคิดแล้วว่า การที่ตอนนี้แตงโมแพง มะพร้าวแพง มีส่วนเกี่ยวอะไรกับที่นักท่องเที่ยวที่มาบ้านเราหลายล้านคนนี่หรือเปล่า เป็นเพราะอุปสงค์มากกว่าอุปทานหรือเปล่า ถ้าเราสามารถทำประเทศของเราให้เป็นประเทศส่งออกสินค้า แบบ "โรงงานโลก" หรือ "อู่อาหารโลก" ได้ และมีรายได้พอที่จะเลี้ยงคนในประเทศให้อยู่ดีกินดีขึ้นมาบ้าง ถึงตอนนั้นเราก็คงไม่ต้องอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวได้เช่นกัน
เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |