Tak from Xiamen | ||
![]() |
||
http://www.oknation.net/blog/freesoultofly/2007/04/04/entry-1 ดูได้จากลิงค์นี้ค่ะ |
||
View All ![]() |
<< | สิงหาคม 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ช่วงวันแม่ปีหลังๆมานี่ ลูกๆย่ามักจะจัดทริปไปเที่ยวกันกับย่า โดยให้ย่าเป็นผู้เลือกว่าอยากจะไปที่ไหน น้องเต๋าเสนอทริปพม่า ซึ่งตรงใจย่าพอดี เที่ยวพม่านี่ไม่พ้นเที่ยววัด เรียกว่าเป็นทัวร์ไหว้พระก็ไม่ผิดนัก ในโปรแกรมทัวร์ครั้งนี้แน่นอนว่าต้องมี พระตาหวาน,เจดีย์ชเวดากอง,พระธาตุอินทร์แขวน เป็นหลัก เรามาชมกันดีกว่าค่ะว่าย่าไปไหนมาบ้าง วันที่ 9 เวลา 8.30 น.พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ออกเดินทางสู่กรุงย่างกุ้งเวลา 10.40 น. ถึงสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง เวลาประมาณ 11.25 น. ![]() เดินทางโดยสายการบิน เมียร์มาร์แอร์เวย์ เที่ยวบิน 8M336 ![]() จากนั้นเช็คอินเข้าที่พัก Yangon Hotel ขณะเดินทางฝนตกปรอยๆ สลับกับตกปานกลาง ![]() จากนั้นไปทานอาหารไทยกันที่ บางกอกคิชเช่น ร้านนี้เปิดทำการเมื่อ 3 ธันวาคม 2549 ![]() ตกแต่งร้านออกสไตล์ไทยๆผสมกลิ่นอายพม่า อาหารอร่อยใช้ได้ ![]() sandy(ตี้)สาวพม่าหัวใจไทย มัคคุเทศน์อารมณ์ดี หยอดมุขฮาได้ตลอด ไม่ว่าคนในคณะเราจะยิงมุข อะไรไปเธอโต้ได้หมด เป็นที่สนุกสนาน คณะเรามีทั้งหมด 11 คนค่ะ ของย่า 4 คณะอาม่า 5อีกสองเป็นสองสามีภรรยา เจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน ขึ้นรถไกด์แนะนำตัวเองเรียบร้อยแล้ว เธอแนะนำให้ปรับนาฬิกา ถอยหลังไปหนึ่งชั่วโมง (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง) หุหุ ได้ย้อนเวลา 1 ชั่วโมงก็ยังดี ![]() ฝนตกปรอยๆตลอดทาง หนูตี้(เธอเรียกตัวเองว่าตี้ค่ะ) ชี้ให้พวกเราดูอาชีพๆหนึ่ง คือช่างซ่อมร่มค่ะ พม่าฝนคงตกบ่อยๆ ร่มใช้งานหนัก ส่วนใหญ่ตัวผ้าร่มจะขาดก่อน โครงร่มยังดีอยู่ ก็เอามาซ่อมใส่ผ้าร่มกัน เมืองไทยหาที่ซ่อมร่มยากอยู่ ส่วนใหญ่ก็เลยต้องซื้อใหม่เอาค่ะ ![]() ใกล้ถึงวัดแล้วทราบได้เพราะเห็นร้านขายกล้วย,มะพร้าว เรียงราย ผลไม้สำหรับไหว้พระค่ะ ![]() แม่ชีน้อยระหว่างทาง ที่นี่พระ กับชีเยอะค่ะ ฝนยังตกอยู่อย่างสม่ำเสมอ ![]() ถึงแล้วศาลาท่าน้ำ ![]() แม่ค้าขายดอกไม้ไหว้พระ หอบช่อดอกไม้อันประกอบด้วยแกลดิโอลัสและดอกบัวสายมานำเสนอ ![]() ดอกไม้ไหว้พระยอดนิยมของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นพวงดอกสเลเต(มหาหงส์) ซึ่งเป็นพืชวงศ์ขิง กลิ่นหอมฟุ้ง ![]() ส่วนเจ้านี้มัดเป็นช่อ เลือกเอาตามอัธยาศัย ![]() วัดแรกที่เราจะไปไหว้พระกันอยู่ที่สิเรียม ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงเมืองสิเรียมนำท่านลงเรือไปชมเจดีย์เยเลพญา เจดีย์นี้สร้างขึ้นบนเกาะกลางน้ำ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"เจดีย์กลางน้ำ" ![]() มีเด็กๆมามะรุมะตุ้มจูงลงเรือ เพื่อขอเงินค่าบริการ ต้องเดินกันอย่างระมัดระวังเต็มที่เพราะ ทั้งโคลนและตะไคร่น้ำตรงขั้นบันใด ทริปนี้ไม่ว่าจะแวะวัดไหนก็ตามต้องถอดรองเท้าถุงเท้า เดินเท้าเปล่ากันนะคะ กลับขึ้นรถเมื่อไหร่ทางทัวร์จะแจกผ้าเปียก(ผ้าเช็ดมือ ที่ใช้ตามภัตตาคาร) ให้เช็ดเท้า ที่นี้้หลักปฎิบัติศาสนาเขาเคร่งมากค่ะ เข้าวัดต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไปค่ะ ![]() มีเรือข้ามฟากอยู่หลายรำ รับส่งผู้โดยสารไปกลับ ![]() • เจดีย์เยเลพญา • เจดีย์เยเลพญา หรือ เจดีย์กลางน้ำ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้างและยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าน้ำท่วมก็ขออย่า ให้ท่วมองค์พระเจดีย์ ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอให้ไม่มีวันเต็มล้นพื้นที่ เพราะ เจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำกว้างใหญ่เท่านั้น และเจดีย์แห่งนี้ ขึ้นชื่อในเรื่อง ไหว้พระขอพรทำธุระกิจทางการค้า http://www.oceansmile.com/Phama/JadiYelepaya.htm ![]() เรือลำที่พวกเราจะโดยสารจอดเทียบท่า ![]() หลังคาศาลาท่าน้ำ ![]() พวกเราลงเรือพร้อมกับช่อดอกไม้และเครื่องบูชาพร้อม ข้าวตอกอาหารสำหรับปลาดุก ![]() ชั่วอึดใจเดียวก็ถึงยังวัดกลางน้ำ ระวังลื่นนะคะ ![]() ลวดลายกระเบื้องสีเขียว โดยรอบ ![]() ยักษ์รอบนอกพระเจดีย์ ![]() รูปปั้นทาสีทองเข้าใจว่าเป็นเทวดา ลวดลายอ่อนช้อยเหลืองอร่ามตา ![]() องค์พระที่เจดีย์เยเลพญา ![]() ลวดลายที่ขอบหน้าต่างวัด ![]() รูปสลักสีทอง ศิลปะงดงาม ![]() นมัสการพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิเก่าแก่ที่ประดิษฐานบนบัลลังก์ไม้แกะสลักปิดทองคำเปลว ที่งดงาม ตัวองค์เป็นไม้สัก พระพักตร์และพระกรเป็นหยกขาว มีอายุนับพันปี ซึ่งเป็นที่สักการะบูชา ของชาวพม่าและชาวต่างชาติ พระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ในตู้กระจกเวลาถ่ายจะติดแสงสะท้อนของกระจก จึงทำให้ได้ภาพ ไม่ค่อยแจ่มนัก ของจริงสวยงามมากค่ะ ![]() กล้วหอมและมะพร้าวเป็นปัจจัยหลักในการไหว้พระ ![]() ตู้บริจากหยอดเงินทำบุญหลังจากที่ไหว้พระเสร็จแล้ว ![]() จากนั้นก็เดินไปยังศาลากลางน้ำ ผ่านฆ้องใหญ่ เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ![]() ไหว้พระอุปคุตที่ศาลากลางน้ำ ------- ชีวประวัติพระอุปคุต เชื่อกันมาว่า พระอุปคุตมีอิทธิฤทธิ์ปราบพระยามาร มีเรื่องเล่ามาว่า ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 2 หลังพุทธปรินิพพาน ณ นครปาตลีบุตราชธานี (ปัจจุบันคือเมืองปัตนะ ภาคใต้ของประเทศอินเดีย) พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองราชสมบัติในขณะนั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ได้ฉลองสมโภชพระสถูปเจดีย์ทั้งหมดที่พระองค์สร้างอย่างยิ่งใหญ่ ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน แต่ถูกพระยามารมาผจญ ท่านจึงนิมนต์พระอุปคุตไปปราบพระยามารจนพระยามารยอมแพ้ จาก นั้นพระอุปคุตก็มีชื่อเสียงในทางปราบมาร ท่านมีอีกชื่อว่า "พระบัวเข็ม" ปัจจุบันยังมีความเชื่อในหมู่ชาวล้านนาว่า พระบัวเข็มหรือพระอุปคุตยังมีชีวิตอยู่ ในทุกวันขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ ชาวล้านนาจะเรียกว่าเป็น "วันเป็งปุ๊ด" พระอุปคุตจะออกบิณฑบาตในร่าง เณรน้อย และจะออกมาเวลาเที่ยงคืน ด้วยเหตุนี้จึงเกิดประเพณีตักบาตรกลางคืนขึ้น ประวัติในแง่ของพระเครื่อง พระบัวเข็ม หรือ พระอุปคุต ในทางพระเครื่องมีประวัติว่า "พระบัวเข็ม" เดิมเป็นพระพุทธรูปมอญ เข้ามาแพร่หลายในไทยช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 โดยพระรามัญได้นำมาถวายท่านวชิรญาณภิกขุ (ต่อมา คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) โดยเชื่อในพุทธคุณว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ก่อ ให้เกิดลาภผล ความมั่งมี ขจัดภยันตราย และมีอิทธิฤทธิ์ในทางขอฝนอีกด้วย ที่ปราจีนบุรี มีผู้พบพระพุทธรูป เป็นพระบัวเข็มที่แกะสลักด้วยไม้ลอยน้ำมา จึงได้อัญเชิญไปประดิษฐาน ที่ วัดใหม่ท่าพาณิชย์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ขอบคุณข้อมูลจากwikipediaคลิ๊กค่ะ ![]() จากนั้นก็นำข้าวตอกไปโปรยเลี้ยงปลาดุก เนื่องจากฝนตกหนักพวกเราจึงโปรยกันที่ทางเดินโดยยื่นมือ ลอดซี่กรงโปรยลงแม่น้ำ ปลาดุกตัวใหญ่มาก แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ หนุ่มยุ่นคนนี้ไม่กลัวเปียกฝน ลงไป ที่ท่าน้ำโปรยอาหารปลาและถ่ายรูป ![]() เก็บภาพลวดลายอัดสวยงามที่หน้าจั่ว ![]() ขากลับผ่านองค์พระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ ขอเก็บclose up อีกสักหนึ่งภาพเล็งมุม ที่ไม่สะท้อนแสงกระจกและถ่ายเจาะ ![]() เก็บรายละเอียดที่เจดีย์เลเยพญา ![]() งดงาม ![]() ลายละเอียด ![]() *** ![]() ++ ![]() ู^0^ ![]() ระฆังคู่ ![]() เจดีย์กลางน้ำอยู่ที่สิเรียม เอาประวัติของเมืองนี้มาลงเพื่อเป็นความรู้ด้วยค่ะ ----------- • สิเรียม (Syriem) สิเรียมเป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำหงสาและแม่น้ำย่างกุ้ง ซึ่งในอดีตเมืองนี้ เป็นเมืองท่าสำคัญในการเดินเรือของชาวโปรตุเกส ปัจจุบันเมืองสิเรียมเป็นเมืองอุตสาหกรรม ชาวเมืองส่วนใหญ่ทำงานในโรงกลั่นน้ำมันหรือไม่ก็เป็นลูกจ้างในโรงเบียร์ ประชากรส่วนมากเป็นชาวพม่า เชื้อสายอินเดีย เพราะในสมัยที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ สิเรียมเป็นศูนย์กลางของเมืองท่าและยังเป็น แหล่งผลิตอาหารส่งสู่กรุงย่างกุ้ง และอังกฤษต้องเกณฑ์แรงงานอินดียมาทำนา แล้วพากันมาปักหลักทำมา หากินกันจนถึงปัจจุบนี้ •ประวัติศาสตร์เมืองสิเรียม • สิเรียม พื้นที่มีสภาพเป็นดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ เป็นแหล่งอูข้าวอู่น้ำที่สำคัญ ทำให้เป็นที่หมาย ปองของชาวต่างชาติในยุคล่าอาณานิคม มีชาวโปรตุเกส อังกฤษ ฝรั่งเศส และฮอนลันดาต่างก็แย่งกันขยาย อิทธิพลในภูมิภาคนี้ • หลังจากหมดยุคอันเกรียงไกรของอาณาจักรหงสาวดี สิ้นบุญพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่าผู้สืบราชบัลลังก์ ต่อจากบุเรงนอง คือพระเจ้านันทบุเรง พระองค์ทรงอ่อนแอจนบรรดาประเทศราชประกาศแยกตัวเป็นอิสระ แม้กระทั่งกองทหารและชาวบ้านก็หลบลี้หนีหาย จนอาณาจักรหงสาวดีที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรแทบกลายเป็น เมืองร้าง กองทัพชาวยะไข่ จากรัฐอาระกัน ก็บุกเข้ามาปล้นสะดมแล้วเผาเมืองโดยง่าย พวกยะไข่มีกองทัพที่ เข้มแข็งและยังมีทหารรับจ้างเป็นชาวโปรุเกสที่เชี่ยวชาญการรบ เมื่อครั้นเคลื่อนพลมาหงสาวดีก็ตั้งกองทัพเรือ ที่เมืองสิเรียม ครั้นเสร็จศึกสงคราม ก็ปูนบำเหน็จให้ทหารรับจ้างโปรตุเกสชื่อ ฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต เป็น เจ้าเมืองสิเรียม ตั้งแต่นั้นมาเมืองสิเรียมก็เป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลแทนหงสาวดี • ฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต ปกครองเมืองสิเรียม 13 ปี ได้ทำลายดินแดนพระพุทธศาสนา ยึดทรัพย์สิน และบังคับให้ชาวเมืองสิเรียมเข้ารีตเป็นชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอริก ให้ทำลายรูปปั้นในศาสนาอื่น โดย เฉพาะวัดในพุทธศาสนา กอบโกยผลประโยชน์ทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเมืองสิเรียม จนพระเจ้าอนอคะเปตลุน กษัตริย์พม่า มาล้อมเมืองสิเรียม จับ เดอ บริโต เสียบประจานรับโทษทัณฑ์สูงสุดตามกบิลเมืองพม่าที่กำหนด ไว้สำหรับผู้ที่ปล้นวัดวาอาราม ทนทุกข์ทรมานอยู่สามวันจึงตาย • หลังจากการตายของเดอ บริโต เมืองสิเรียมตกอยู่ในอำนาจของพม่าบ้าง มอญบ้าง ไทยบ้างกระทั่ง พ.ศ.2428พม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 อังกฤษได้พัฒนาเมืองสิเรียม เป็นเมืองอุตสาหกรรมและแหล่งปลูกข้าวตราบจนปัจจุบัน http://www.oceansmile.com/Phama/JadiYelepaya.htm ![]() เป้าหมายต่อไปคือ เจดีย์โปตาทาวน์ โปรดติดตามชมนะคะ ![]() ขออภัยหากภาพไม่ค่อยสวย ไปทริปหน้าฝน ฝนตกตลอด ท้องฟ้าก็ขมุกขมัว |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |