"โอกาส คุณคิดว่า โอกาสมาจากไหน" คำพูดของลูกค้าซื้อประกัน ในชุดโฆษณานี้ คือจุดเริ่มต้นของเรื่อง และจบด้วยการ "กราบ" สิ่งที่ผมตั้งคำถามให้ตนเองคือ ทำไม "โอกาส" ในสังคมไทย ถึงใกล้ชิดกับ "การกราบ" ขนาดนี้ สำหรับคนที่ไม่ได้ดูโฆษณาชุดนี้ ผมสรุปให้สั้นๆ เริ่มจากชีวิตที่รันทดของนายหน้าขายประกันสาวใหญ่คนหนึ่ง ที่ประสบความล้มเหลวในชีวิตครอบครัว ถูกแฟนทิ้ง ลูกตายเพราะไม่มีเงินรักษา เคยอยู่ใต้สะพาน เห็นชีวิตคนไร้บ้านและลูกที่อดหยาก. เธอยื่นซาลาเปาในมือเพียงลูกเดียวที่มีอยู่ ให้กับแม่ของเด็กคนนั้น ทั้งๆที่เธอเองก็หิว ตัดฉากออกมาว่า เธอมาเป็นนายหน้าประกันชีวิต วันหนึ่งลูกของลูกค้าเธอต้องเข้ารักษาแบบฉุกเฉิน. ภาพโฆษณานั้นสะท้อนถึงการปฏิเสธอะไรบางอย่างจากนางพยาบาล จนแม่ของเด็กคนนั้น หันหน้าร้องไห้กับกำแพงด้วยความสิ้นหวัง นายหน้าคนนั้นถือกรมธรรม์ด้วยอาการร้อนรน ยื่นให้กับนางพยาบาล ดูเหมือนนางพยาบาลก็ยังยืนกรานอะไรสักอย่าง จนเธอถึงกับก้มลง "กราบ". ทันใดนั้นก็มีหมอผู้มีหน้าตาเมตตาเป็นอย่างมาก เข้ามาจับมือเธอ และลูกของลูกค้าเธอก็ได้รับการรักษา โฆษณาชุดนี้สะท้อนให้เห็นได้หลายมุม สำหรับมุมมองของผม มันสะท้อนให้เห็นถึงสังคมไทยเป็นสังคมแนวดิ่ง และมีการแบ่งชนชั้นจนไม่ยอมรับรู้ถึงสิทธิและศักดิ์ศรีของมนุษย์ หมอ คือตัวแทนชนชั้นสูง ที่หยิบยื่นความช่วยเหลือก็ต่อเมื่อได้รับการศิโรราบ จากชนชั้นที่ดูเหมือนว่าจะต่ำกว่าในสายตาของเขา พยาบาลคือ คนชั้นกลางค่อนไปทางสูง ที่ถูกอุปถัมภ์จากชนชั้นสูง เพื่อรักษาสถานะของตนให้คงอยู่ต่อไป เขาต้องทำตนเป็นองครักษ์พิทักษ์คนชั้นสูง. เขาต้องเอาความรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์เก็บไว้ก้นบึ้งที่สุดของหัวใจ ทุ่มหัวใจให้กับกฎระเบียบโดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรมใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเราจะเห็นได้ในหน่วยงานราชการทั่วไป แม่ของเด็กคือตัวแทนคนชั้นกลาง ที่ไม่ต้องพึงพาคนชั้นสูง เพราะไม่มีสถานะอะไรที่ต้องรักษา มีอะไรก็ต้องพึ่งตนเองให้อยู่รอด เพราะไม่มีใครเข้ามาช่วยได้ แต่มีศักดิ์ศรีพอ ที่จะไม่ก้มลงกราบกรานขอความเห็นใจใครง่ายๆ เพราะเชื่อว่าตนเองนั้นมีสิทธิ์ที่จะได้รับการบริการที่เหมาะสม นายหน้าประกันชีวิตคือ ตัวแทนชนชั้นระดับล่าง ที่รู้ว่าตนเองนั้นจะเข้าหาคนชั้นที่สูงกว่าได้อย่างไร แม้จะรู้ว่าตนนั้นมีสิทธิ์ แต่สิทธิ์นั้นไม่ได้ช่วยอะไรได้ เพราะเชื่อว่าอำนาจนั้นอยู่เหนือสิทธิ์ที่ตนมีอยู่. กฎหมายก็ช่วยไม่ได้ กฎพระเจ้าหรือกฎแห่งกรรมกำหนดมาให้แล้วว่า อำนาจเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง. เขาจึงต้องอาศัยความเมตตาจากชนชั้นที่สูงกว่า จึงจะอยู่รอดได้ และ "กราบ" คือสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้คนชั้นสูงพอใจและให้ความช่วยเหลือ ผมจึงไม่แปลกใจเลยครับ ทำไมคนไทยถึงพอใจกับการไม่มีประชาธิปไตย คนชั้นสูงจนถึงคนชั้นกลางค่อนข้าสูงทนไม่ได้หรอกครับว่า คนชนชั้นส่วนใหญ่ของประเทศ จะได้รับสิทธิ์ให้เท่าเทียมกับพวกเขา พวกเขาทนไม่ได้ที่เห็นนโยบายที่เอื้อต่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ เขาตั้งชื่อนโยบายนี้ว่า ประชานิยม เขาไม่ใช่คนในกลุ่ม "ประชานิยม" เขาไม่ได้ประโยชน์อะไร เขาไม่เคยออกมาร้องโวยวายต่อนโยบาย "ช็อปช่วยชาติ" เพราะเขาได้ประโยชน์ ขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ภาษีมรดกกลายเป็นปาหี่ต้มคนดู เมื่อปรับจำนวนมรดกจากห้าสิบล้านมาเป็นร้อยล้าน ทำให้คนรวยมีทางบริหารภาษีได้ง่ายขึ้น นโยบายภาษีอสังหาริมทรัพย์ห้าสิบล้านแรก ไม่ต้องเสียภาษีบ้านหลังแรก ปรับเพิ่มจากสามล้านเป็นห้าสิบล้าน ทั้งหมดเพื่อประชาชนคนส่วนใหญ่อย่างนั้นหรือ สังคมที่เต็มไปด้วยชนชั้น และขาดจิตสำนึกการรักษาสิทธิและเสรีภาพของคนชั้นกลางและชนชั้นล่าง อาศัยแต่การกราบไหว้เพื่อขอความเมตตา. คนที่ยืนหยัดในสิทธิเสรีภาพถูกมองว่า เป็นคนนิยมความรุ่นแรงและไม่รักชาติ ไม่ปรองดอง ความจริงที่น่าเศร้านี้ถูกสะท้อนมาทั้งหมดในโฆษณาชุดนี้. เราคงต้องร้องไห้เอาหัวซุกกำแพง หรือก้มลงกราบกรานผู้มีอำนาจ แม้ว่าสิทธิของเราถูกกำแน่นไว้ในมือเรา แต่ไม่มีใครสนใจเท่ากับการก้มลงกราบของเรา คุณอยากให้เหตุการณ์นี้ส่งต่อให้ลูกหลานเราหรือเปล่าครับ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มกราคม 2017 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |