หมายเหตุ: ชื่อบทความเดิม คือ "ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือไม่มีความยุติธรรม (Justice delayed, justice denied)" สมชาย ปรีชาศิลปกุล สมบุญ สีคำดอกแค อดีตคนงานแผนกปั่นฝ้ายของโรงงานทอผ้ากรุงเทพ จำกัด ได้เข้าทำงานในโรงงานแห่งนี้เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2519 ขณะนั้นเธออายุ19ปี หลังจากทำงานมาเป็นเวลา 10 ปี สมบุญเริ่มมีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับการหายใจ เจ็บคอ น้ำมูกไหล เหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก เป็นลมบ่อย ไม่เพียงเธอคนเดียวเท่านั้นแต่เพื่อนคนงานอีกหลายคนก็เกิดอาการป่วยในลักษณะคล้ายคลึงกัน ในระยะแรก สมบุญและเพื่อนได้ไปหาหมอที่ประจำอยู่ที่ห้องพยาบาลของโรงงานแต่ก็ยังไม่หายจากอาการ จึงได้ไปที่โรงพยาบาลของรัฐและคลีนิคเอกชน ส่วนใหญ่หมอจะวินิจฉัยว่าอาการดังกล่าวเป็นผลมาจากการเป็นไข้หวัด ภูมิแพ้หรือหลอดลมอักเสบ และทำการรักษาไปตามโรคที่ได้วินิจฉัย แต่สมบุญกับเพื่อนก็ยังไม่มีอาการที่ดีขึ้น นอกจากนี้อาการก็ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น คือมีอาการเสียดแน่นหน้าอก นอนไม่ได้ ช่วง พ.ศ. 2534-2535 สมบุญกับเพื่อนคนงาน7คนได้ไปทำการตรวจรักษาที่ศูนย์อาชีวเวชศาสตร์โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐเพียงแห่งเดียวในขณะนั้นที่มีหมอซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการเจ็บป่วยจากการทำงาน หลังจากตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ หมอผู้ตรวจได้วินิจฉัยว่าสมบุญและเพื่อนเป็นโรคปอดอักเสบจากฝุ่นฝ้าย (byssisnosis) อันเป็นผลให้ปอดของผู้เป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพไปตลอดชีวิต 9 พฤษภาคม 2538 สมบุญกับเพื่อนคนงานรวม 38 คน ยื่นฟ้องโรงงานทอผ้ากรุงเทพเป็นจำเลยใน ความผิดฐานกระทำละเมิดต่อศาลแรงงานโดยในการยื่นฟ้องคดีได้มีคำขอดังต่อไปนี้ 1. ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ (เฉพาะในส่วนของสมบุญ) เป็นเงิน 2,485,952 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่ฟ้องไปจนถึงชำระเสร็จ 2. เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแรงงานขอให้ศาลได้มีคำพิพากษาดังนี้คือ 2.1 ให้จำเลยปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้อยู่ในสภาพปลอดจากมลภาวะโดยจะต้องดำเนินให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด แล้วให้จำเลยรายงานสภาพมลภาวะของโรงงานต่อศาลเป็นระยะๆพร้อมคำรับรองของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ คือ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่103 ลงวันที่12 มีนาคม 2535 และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 2.2 ให้จำเลยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีและวัตถุอันตรายที่มีอยู่ในโรงงานของจำเลย พร้อมทั้งมาตรการในการป้องกันโดยให้เปิดเผยเป็นระยะๆ ตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด (สรุปจากคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 4812/2538) 30 กันยายน 2536 หลังจากใช้เวลาในการพิจารณาคดีเป็นเวลา 8 ปีกับ 4 เดือน ศาลแรงงานกลางได้มีคำพิพากษาให้โรงงานทอผ้ากรุงเทพมีความผิดฐานประมาทเลินเล่อปล่อยให้มีมลพิษฝุ่นฝ้ายเป็นอันตรายต่อคนงานจนเกิดโรคปอดอักเสบเสื่อมสมรรถภาพร่างกาย และให้โรงงานทอผ้ากรุงเทพชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ฟ้องเป็นรายๆ ตามที่ศาลกำหนด ตามคำฟ้อง สมบุญได้เรียกค่าเสียหายจากการเป็นโรคปอดฝุ่นฝ้ายจำนวน 2,485,952 บาท ซึ่งศาลได้กำหนดค่าเสียหายให้จำนวน 200,000 บาท และคนงานอื่นๆ ในจำนวนใกล้เคียงกัน แต่โรงงานทอผ้ากรุงเทพได้อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาแผนกคดีแรงงาน ทำให้ยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชยให้คนงานทั้ง 38 ราย เพราะถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุดและยังต้องมีการพิจารณาคดีต่อนี้ไป ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานได้ใช้เวลาในการพิจารณาอีกประมาณ 2 ปี 5 เดือน และมีคำพิพากษาฎีกาเมือวันที่15 พฤษภาคม 2549 และได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2549 มีประเด็นสำคัญดังนี้ สำหรับประเด็นตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองที่ว่าคดีโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 17 และที่ 19 ถึงที่ 38 ขาดอายุความหรือไม่ ที่โจทก์ดังกล่าวป่วยเป็นโรคบิสสิโนซิสเกิดจากการกระทำของจำเลยทั้งสองหรือไม่ จำเลยทั้งสองต้องชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ดังกล่าวหรือไม่เพียงใด เห็นว่าข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมาไม่เพียงพอแก่การวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวข้างต้น อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 (2) (ข) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 จึงให้ศาลแรงงานพิจารณาคดีนี้ใหม่แต่บางส่วน โดยให้ฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่าผ้าปิดจมูกที่จำเลยที่ 1 จัดให้ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ใช้ในโรงงานของจำเลยที่ 1 ได้มาตรฐานตามที่ทางราชการกำหนดหรือไม่ จำเลยที่ 1 ออกระเบียบให้พนักงานสวมใส่ผ้าปิดจมูกในขณะทำงานหรือไม่ และคอยควบคุมดูแลให้พนักงานปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวหรือไม่ เพียงใด และหากจำเลยทั้งสองกระทำละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าว การละเมิดได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด สิ้นสุดลงเมื่อใด โจทก์ดังกล่าวได้ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตั้งแต่เมื่อใด แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีต่อไป......... ผลของคำพิพากษาที่สำคัญก็คือ ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานมีความเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมา ยังไม่เพียงพอแก่การวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทจึงส่งให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาคดีนี้ใหม่บางส่วน ตามคำสั่งของศาลฎีกา คดีระหว่างสมบุญกับเพื่อนและโรงงานทอผ้ากรุงเทพจึงยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ซึ่งในคำวินิจฉัยที่ได้เกิดขึ้นมีหลายประเด็นที่เป็นข้อสงสัยถึงเหตุผลและการให้เหตุผลในทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคดียังไม่เป็นที่สิ้นสุดการจะวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาในการวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางและศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานยังไม่สามารถกระทำได้อย่างมีอิสระเนื่องจากมีกฎหมายให้อำนาจศาลที่จะสั่งลงโทษผู้ที่ทำการวิจารณ์ได้ สำหรับในขณะนี้เพียงต้องการตั้งคำถามตัวใหญ่ๆ ว่าการใช้ระยะเวลาที่แสนยาวนานในการพิจารณาคดีนั้นจะสามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่คู่ความได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อพิพาทด้านแรงงาน คู่ความฝ่ายหนึ่งเป็นแรงงานที่มีฐานะทางเศรษฐกิจต่ำกว่าคู่กรณี และระหว่างที่ฟ้องคดีก็ไม่ได้ทำงานอันเนื่องมาจากผลพวงของโรคจากการทำงาน แต่กลับมาต้องใช้เวลาอย่างยาวนานในกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่ในการจัดตั้งศาลแรงงานก็ได้มีการตระหนักถึงความจำเป็นว่าต้องทำให้กระบวนในศาลนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและฉับไว ดังที่ปรากฏในเวบไซต์ของศาลแรงงานกลาง www.centrallabourcourt.org ถึงคำขวัญของศาลแรงงานว่า ประหยัด สะดวก รวดเร็วและเที่ยงธรรม ด้วยการตระหนักว่าหากการดำเนินคดีในข้อพิพาทด้านแรงงานเป็นไปอย่างเชื่องช้าอาจทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคู่ความที่ไม่มีความเท่าเทียมกัน ความยุติธรรมจึงมิใช่เพียงการตัดสินโดยองค์กรตุลาการที่เป็นกลาง สามารถตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากต้องมิใช่กระบวนการที่ใช้เวลาอย่างยาวนานเพราะคำตัดสินที่มาอย่างเชื่องช้าอาจทำให้ผู้ได้รับความเสียหายไม่สนใจต่อการเรียกร้องโดยกระบวนการยุติธรรม สอดคล้องกับสุภาษิตทางกฎหมายที่กล่าวว่า ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือไม่มีความยุติธรรม (Justice delayed, justice denied) เมื่อนับรวมระยะเวลาตั้งแต่สมบุญยื่นฟ้องต่อศาลแรงงานกลางเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2538 มาจนถึงวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานได้อ่านคำพิพากษารวมเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 11 ปี 25 วันแม้จะยาวนานเกินทศวรรษแต่คดีนี้ก็ยังไม่ยุติ ตามคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีแรงงาน มีผลให้ศาลแรงงานกลางต้องไปพิจารณาใหม่อีกครั้ง สมมุติว่าในท้ายที่สุด ศาลมีคำตัดสินให้โรงงานทอผ้ากรุงเทพต้องรับผิดชอบในโรคปอดฝุ่นฝ้ายที่เกิดขึ้นกับสมบุญและเพื่อนคนงาน แต่สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำหรือไม่ว่าผู้เสียหายได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริงแล้ว
หมายเหตุ ตีพิมพ์ครั้งแรกในวารสารกฎหมายใหม่ ปีที่ 4 ฉบับที่ 80 โดย : ประชาไท วันที่ : 2/7/2550
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
- กฎหมายต้องคู่กับความยุติธรรม - | ||
![]() |
||
ประเทศต้องปกครองด้วยกฎหมายที่ดี ไม่ใช่ปกครองโดยคน |
||
View All ![]() |
<< | กรกฎาคม 2007 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |