วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเมื่ออยู่ว่างๆก็ขับมอไชค์ไปเที่ยวเล่นดีกว่า  ไปทางแม่่ริมแล้วใช้เส้นทาง

ไปสะเมิง ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเช่นการแสดงจระเข้ การแสดงงู พิพิธภัณฑ์แมลง ปางช้างแม่สา

สวนพฤกศาสตร์ ฯลฯ เห็นมีรถนักท่องเที่ยวจอดเต็มไปหมด  แสดงว่าการท่องเที่ยวเชียงใหม่ปีนี้

ยังใช้ได้อยู่  เมื่อผ่านแยกทางเข้าม่อนแจ่มอย่ากระนั้นเลยลองแวะไปดูซิว่าม่อนแจ่มยังสบายดีอยู่

หรือเปล่า  หลังจากที่ถูกกล่าวขานกันทั้งในทางชื่นชมและคำติจากนักท่องเที่ยวมาแล้ว

ทางไปม่อนแจ่มจะสูงชันขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นพื้นที่บนเขา  คำว่า "ม่อน" ในพจนานุกรมฉบับราช

บัณฑิตแปลว่า  เนินเขา - ยอดเขา  ซึ่งตรงกับความหมายดี

ในหมู่บ้านของม่อนแจ่มถนนจะสูงชันและแคบ  ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังในการควบคุมรถ

ให้ดี  เพราะมีทั้งรถที่ขับตามมาและรถที่สวนทางกับเรา

ในที่สุดก็มาถึงม่อนแจ่ม   ถ้านับเวลาจากเชียงใหม่มาหากขับรถมาเรื่อยๆก็คงไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

ไม่ไกลเลยจากเชียงใหม่

ม่อนแจ่มวันนี้ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว  สภาพอากาศวันนี้ 10 ก.พ.56 อุณหภูมิ

23 องศา C   มีลมพัดตลอดเวลา

ท้องฟ้าครึ้มทำให้ไม่มีแสงแดดส่องมาแผดเผานักท่องเที่ยว  อากาศเย็นสบาย  นักท่องเที่ยว

ชอบอากาศแบบนี้  แต่ถ้าหากวันไหนท้องฟ้าโปร่ง แดดแรง  อุณหภูมิจะเพิ่มสูง นักท่องเที่ยว

ต่างก็บ่นกันว่าร้อน ร้อนและก็ร้อน   ม่อนแจ่มจะถูกพูดถึงในทางที่เสียหายทันที

แต่วันนี้นักท่องเที่ยวยิ้มแย้มแจ่มใส   ต่างก็พากันจับจองที่นั่ง ซุ้มอาหาร  สั่งอาหารมารับประทาน

กันในหมู่เ้พื่อนฝูง  หรือกับครอบครัว ได้อย่างสบายอารมณ์

แล้วแต่ใครจะเลือกทำเลนั่งรับประทานกันตรงไหนก็ตามสะดวก

นั่งทานไปชมภูมิประเทศไปไม่รีบร้อน  ทำให้บรรยากาศการมาเที่ยวม่อนแจ่มดูดีขึ้น

แต่ราคาค่าอาหารก็ค่อนข้างจะแพงเมื่อเทียบกับราคาปกติ   ก็คงเป็นไปตามค่าการผกผัน

ของระดับความสูงและความยากง่ายในการลำเลียงวัตถุดิบขึ้นมา  เหมือนกับที่คุณชายสามหยด

ได้พูดไว้จากการไปเที่ยวภูกระดึง  เปรียบเทียบแบบเดียวกันเลย

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วก็ไปเที่ยวเดินชมแปลงไม้ดอกที่ปลูกไว้สวยงาม  และถ่ายรูปกันเก็บไว้

เป็นที่ระลึก

หรือจะไปเลือกซื้อของที่ระลึกจากชาวเขาเผ่าม้งเอาไปฝากเพื่อนๆก็มีให้เลือกอยู่หลายสิ่งหลายอย่าง

แต่แล้ว...แอ่น...แอ๊น  ขณะที่ผมกำลังเพลินๆกับการถ่ายรูปอยู่นั้น  ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

คุณคิดว่าฉันเป็นชาวเขาหรือเปล่าค๊ะ?...   โอ้...ไม่ใช่แน่นอนครับ  ชาวเขาไม่สวยแบบคุณ

อย่างนี้แน่นอน  โอ..มายก็อด

ชาวเขาต้องแบบนี้ครับ  คุณผู้หญิง

ชาวเขายังมีวิธีหากินอีกหลายรูปแบบ   นี่เป็นการหลอกนักท่องเที่ยวให้มายิงหน้าไม้ แบบมีรางวัล

ให้ด้วยถ้ายิงแม่น

ถ้าใครยิงเข้าจุดขาวได้สองดอก  เอาไปเลยเบียร์หนึ่งกระป๋อง  ก็มีคนมาพยายามให้ถูกหลอก

กันมากมาย   แต่ผมถามดูแล้วตั้งแต่เปิดเกมส์นี้มายังไม่มีใครยิงเข้าเป้าได้สองดอกเลยสักคน

แต่รู้ทั้งรู้ว่าเขาหลอก แต่ก็เต็มใจให้หลอก  นักท่องเที่ยวคนแล้วคนเล่าต่างก็อยากประลองความ

แม่นยำที่คิดว่าตัวเองแน่   ผลออกมาก็เหมือนเดิมทุกที คือยิงได้ใกล้เคียงทุกทีไป

แต่ไฮไลท์ของงานนี้ก็คือการแรลลี่ F1 นี่แหละครับ  ที่เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว  ที่ทุกคนก็

อยากจะลองดูกับความหวาดเสียว  จากการละลิ่วลงมาจากยอดเนิน

การซื้อบริการลิ่วลงจากยอดเนินนี้  ค่าบริการคนละ 50 บาท  แต่ถ้าสองคนก็ 80 บาท  แน่ะมีการ

ล่อให้ซื้อตามหลักการค้าทันสมัยด้วย

ชาวม้งผู้ดำเนินการจะจัดผูกขบวนรถเป็นแถวแบบนี้และให้ผู้ที่จะแรลลี่กับ F1 ขึ้นไปบนรถกระบะ

4วีล  แล้วก็จะพาไปปล่อยบนยอดเนิน  ที่อยู่สูงขึ้นไปประมาณ 400 เมตร

ก่อนอื่นก็จะต้องแนะนำการบังคับต่างๆให้รู้จักดีเสียก่อน  นี่คือเบรคนะครับ  ถ้าดึงขึ้นก็

แปลว่าเบรค  ดึงค่อย=เบรคเบา  ถ้าดึงแรง=เบรค ABS ทำงานหนักหัวจะทิ่มหกคะเมนทันที

สายเบรคไม่ต้องกลัวจะขาดเพราะเป็นสายสลิง  

ส่วนผ้าเบรคและจานเบรค  ทำจากวัสดุต่างๆที่นำมาประกอบกัน  แต่ก็ให้ความไว้

วางใจได้ในระดับหนึ่ง   ไม่ทราบว่าบริษัทประกันภัยจะรับประกันมั๊ยหากมาเห็นสภาพแบบนี้

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย แล้วรถลากจูงก็พานัีกผจญภัยและขบวนรถ F1 ขึ้นมาบนยอดเนิน

แล้วก็มีการโบกธงให้สัญญาณปล่อยขบวนรถ F1 แรลลี่ จากยอดเนิน

ดูท่าทางนักแรลลี่หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย  บางคนก็นึกว่าตรูจะรอดมั๊ยวะเนี่ย มือก็กำเบรคไว้แน่น

คิดว่าถึงอย่างไรก็ขอเบรคไว้ก่อนแหละ

เสียงวี๊ดว๊ายได้ยินมาแต่ไกล  สร้างความตื่นเต้นให้คนที่มาเที่ยวต่างก็หันไปมองดูต้นทางของ

เสียง    แต่นักแรลลี่ที่แม้จะส่งเสียงดังแต่ก็แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน

สรุปแล้วการแรลลี่ F1  ไม่ได้มีความน่ากลัวแต่อย่างใด  มีแค่ความตื่นเต้นและหวาดเสียว

เล็กน้อยเท่านั้น  ที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัวเห็นจะเป็นเสียงของนักแรลลี่สาวๆเสียมากกว่า

ระยะทางแค่ 400 เมตร  เดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้ว   การแรลลี่ F1 ก็เป็นจุดขายให้เลือกอีกแบบหนึ่ง

ที่นักท่องเที่ยวเมื่อขึ้นมาเยือนบนม่อนแจ่มไม่ควรจะพลาดรายการนี้

บ้างก็ถ่ายรูปเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกในการพาครอบครัวมาเที่ยว

 หวังว่าการพามาเที่ยวม่อนแจ่มคงทำให้ท่านมีความเพลิดเพลินบ้างไม่มากก็น้อย   ถ้าหากว่า

ท่านมาเชียงใหม่แล้ว  ยังไม่รู้โปรแกรมที่จะไปไหนดี  ม่อนแจ่มคงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะให้ท่าน

ตัดสินใจว่าควรจะไปเที่ยวดีไหม   หลังจากที่ท่านได้ชมเรื่องราวเหล่านี้แล้ว  ถึงท่านจะยังไม่ตัดสิน

ใจตอนนี้  แต่ม่อนแจ่มก็ยังคงรอคอยการมาเยือนของท่านอยู่อีกในอนาคตข้างหน้าครับ