สามวันจากนี้ไป เรามีโปรแกรมเดินทางด้วยบัตรโดยสารแบบเหมาที่เรียกว่า คาวากูจิโกะ-ฮาโกเน่ พาส (Kawaguchiko-Hakone Pass) การเดินทางให้เลือกว่าขาไป ถ้าไปคาวากูจิโกะก่อน ขากลับต้องกลับทางฮาโกเน่ แต่ถ้าขาไปไปฮาโกเน่ก่อน ขากลับต้องกลับทางคาวากูจิโกะ ทั้งนี้ต้องเดินทางภายในสามวัน ทั้งนี้เราอาจเลือกที่พักอย่างไรก็ได้ แต่เลือกพักที่คาวากูจิโกะ 2 คืน โดยขาไปเราเดินทางไปเมืองคาวากูจิโกะก่อนซึ่งเส้นทางนี้เป็นการเดินทางด้วยรถบัส ส่วนขากลับก็วนกลับจากคาวากูจิโกะสู่ฮาโกเน่ด้วยรถบัสเช่นกัน และกลับจากฮาโกเน่สู่โตเกียวด้วยรถไฟ

        บอกตามตรงว่าเราตื่นเต้นกับการเดินทางไปสู่เชิงเขาฟูจิครั้งนี้มาก เพราะคราวที่แล้วเราไปแค่ฮาโกเน่ซึ่งอยู่ห่างจากฟูจิค่อนข้างมาก แต่ครั้งนี้เราบุกไปถึงเมืองซึ่งอยู่ใกล้ฟูจิมากที่สุด สิ่งที่เราต้องลุ้นก็คือจะได้เห็นฟูจิเต็มตาหรือไม่ เพราะจากข้อมูลที่เราได้ก็คือ ฟูจิเป็นภูเขาไฟขี้อาย มักหลบอยู่หลังก้อนเมฆ บางคนต้องพกความผิดหวังกลับบ้านเพราะไม่เห็นฟูจิแม้แต่เงา

       วันแรกเราออกเดินทางจากโตเกียวแต่เช้าด้วยรถบัสเที่ยวแรก เพื่อให้ถึงคาวากูจิโกะเร็วที่สุด จะได้อยู่เที่ยวเต็มที่ที่นั่นสองวันเต็มๆ การเดินทางด้วยรถบัสก็สะดวกดี เส้นทางนี้เป็นถนนตัดเทือกเขาต่างๆไปตลอด มีอุโมงค์ลอดภูเขาไปนับไม่ถ้วน ถนนสายนี้เป็นทางหลวงที่เรียกว่า ชูโอเอ็กเพรสเวย์ นั่งรถบัสแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงคาวากูจิโกะ
โรงแรมที่พักอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟซึ่งรถบัสก็มาสุดสายที่นี่เช่นกัน เพราะฉนั้นแค่ลากกระเป๋าข้ามถนนก็ถึงที่พักแล้ว โรงแรมนี้มีที่อาบน้ำรวมแบบญี่ปุ่นด้วยซึ่งเราจะเล่าให้ฟังที่หลัง วันแรกหลังจากเช็คอินแล้ว เราก็ออกตามล่าหาฟูจิทันที

       การเดินทางภายในเมืองคาวากูจิโกะค่อนข้างสะดวก มีรถบัสสองสายวิ่งเป็นวงกลม สายแรกวนรอบทะเลสาบคาวากูจิ ส่วนอีกสายหนึ่งวนรอบทะเลสาบไซโกะซึ่งเล็กกว่าและอยู่ไกลกว่าจุดแรกที่เราแวะไปก็คือสวนโออิชิซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เพราะจะได้เห็นทั้งทะเลสาบและภูเขาไฟ ภาพที่สวยงามถ้าได้เห็นก็คือภาพภูเขาฟูจิสะท้อนอยู่บนทะเลสาบอันราบเรียบ แต่เราจะได้เห็นภาพทิวทัศน์อย่างไรที่นี่ก็ได้โปรดตามเรามาเลยครับ

สวนโออิชิ ที่เห็นเป็นหอนาฬิกาเป็นทางเข้าร้านค้าและร้านอาหาร

เมื่อมองไปทางทะเลสาบ เห็นภูเขาไฟฟูจิเต็มลานสายตา บุญมีแต่กรรมบัง เมฆเต็มไปหมด

หลายคนต้องกลับบ้านด้วยความผิดหวัง แต่เรายังมีลุ้นเพราะพรุ่งนี้เรายังอยู่อีกหนึ่งวัน

ที่สวนโออิชิยังมีไม้ดอกสีสรรสวยงามให้ถ่ายรูปเยอะแยะ

สวนนี้เข้าฟรีครับ ไม่เก็บสตางค์ แต่เจ้าของสวนได้ประโยชน์จากร้านค้าและร้านอาหารที่ใครๆก็แวะไป

วันที่แวะไปแดดดีมาก แต่แถมเมฆมากไปหน่อย

ถ้าใครชอบถ่ายรูปดอกไม้ ที่นี่มีเยอะแยะ

ดอกสีแดงที่ขึ้นเป็นพุ่มนี้สวยสดจริงๆ

เมื่อฟูจิหลบอยู่หลังเมฆอย่างนี้ ก็ต้องเดินเที่ยวแถวนั้นแทน มีบ้านคนอยู่ห่างๆ ไม่หนาแน่น

ริมทะเลสาบด้านนี้ยังอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ดีมาก

เจ้าของบ้านต้องทนเห็นภูเขาไฟอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เมื่อไม่ได้เห็นฟูจิอย่างที่ตั้งใจ ก็เอาทิวทัศน์แถวนั้นมาฝากแทน

คงพอที่จะชดเชยความผิดหวังได้ไม่มากก็น้อย

ฝากไว้ก่อนเถอะฟูจิ วันพระไม่มีหนเดียว

           ตอนบ่ายแดดแรง แม้อากาศจะเย็นๆ แต่สู้แดดไม่ได้ เราต้องกลับไปพักก่อนที่โรงแรมหน้าสถานีรถไฟ กะว่าตอนเย็นค่อยออกไปตระเวณอีกครั้ง และไม่ผิดหวังครับ ขอบอก พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ