เมื่อคืนที่ผ่านมานู้นนะ ไม่รู้จะไปไหน พอดีได้ Gin มาใหม่ 1 ขวด โทนิคอีก สีห้ากระป๋อง มะนาว เกลือ วิญญาณขี้เหล้าเลยฟื้นคืนชีพ และจากกระแสการรณรงค์และแกมบังคับให้งดการโฆษณาทางสื่อต่างๆ เพื่อลดการบริโภคของคนไทย ไม่ทำให้คนกินเหล้าอย่างเราลดการบริโภคลงได้เลย (ขอยืนยัน) ฮ่าาา  ปกติกิน Gin อยู่สองยี่ห้อ Gordon Gin และ Seagram Gin ใครมีดีกว่านี้ช่วยแนะนำหน่อยครับ เอิ๊กกกกก ปัจจุบันนี้นิสัยการกินดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ คือเมาเป็นที่เป็นทางขึ้น ไอ้ที่ทางคือ กินอยู่กับบ้านครับ สมัยก่อนต้องจรรี ไปที่นู้นที่นี่ที่ ทำตัวเหมือนนกขมิ้นเหลืองอ่อน ภาษาชาวบ้านก็เรียกแดกเปลืองแหละครับ สาเหตุที่เลิกพฤติกรรมแบบนั้นเพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสุขภาพกระเป๋าตังค์ รวมถึงตำรวจที่ไล่จับคนเมาแล้วขับตอนดึกๆ เพื่อนๆโดนกันไปหลายคนเสียค่าปรับไปหลายตังค์ คิดว่าถ้ายังเป็นแบบเดิมวันหนึ่งคงต้องถึงคราวเรา ฮ่าาาาา  ในยุคแบบพอเพียงอย่างงี้จึงต้องเมาแบบพอเพียงตามกระแสพอเพียงฟีเวอร์ เลยมาสิงสถิตเมาที่บ้านดีกว่าแถมเวลาเมาอยู่ที่บ้านยังมีเจ้าไบเล่หมาแก่อีก 1 ตัวที่ชอบมาคลอเคลียขอเมาด้วย เอาเป็นว่าเห็นคนเมาหมาก็อยากเมาด้วยว่างั้นเหอะหมาแก่ชอบกิน Heineken เป็นชีวิตจิตใจครับ ช่วงหลังไม่ค่อยให้มันกินมากเพราะแก่แล้ว(เหมือนเจ้าของ ฮ่าาา) เห็นหมาเมา แล้วตลกดีครับเหมือนในโฆษณา พาลชวนให้เราหัวเราะไปด้วย ผมขอยืนยันคนที่ชอบใช้คำว่า เมาเหมือนหมา ครับ ว่าจริงๆแล้วใช้ไม่ได้กับคน เพราะหมาเมาแล้วน่ารักกว่าคนบางคนเมาเยอะครับ  แล้วเวลาหมาเมากับคนเมาไม่เห็นจะเหมือนกันตรงไหนเลย นึกแล้วอยากมอมเหล้าอีบูตะจัง คริคริ ว่าถึงเรื่องสุรา เมรัย พอดีไปอ่านเจอเรื่องเมาๆมาเลยอยากจะเอาแต่งเติม เพื่อเพิ่มความเมาให้เพื่อนๆพี่ๆครับ

ว่าด้วย ลิเคียวร์ (Liqueur) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนไทยดื่มน้อย ดูจากปริมาณตามชั้นวางตามห้างฯทั่วไป แต่ว่ากันว่าผู้ใดชื่นชอบลิเคียวร์จะได้รับยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักดื่ม ลิเคียวร์มีส่วนผสมผสานจากน้ำเมาต่างๆเช่น บรั่นดี วิสกี้ รัม วอดก้า ยิน ฯลฯจากนั้นเสริมสร้างกรรมวิธีอีกหลายกระบวนการมีการเติมน้ำตาล สมุนไพร เมล็ดผลไม้ ฯลฯ จนเกิดเป็นลิเคียวร์

ลิเคียวร์ (Liqueur) กำเนิดจากที่ใดแน่นอนไม่ทราบ บางตำราบอกว่าหลวงพ่อวิลาโน่แห่งสเปน เป็นผู้คิดค้นการทำยาดอง( สูตรม้ากระทืบโลง โด่แล้วล่มประเภทนั้น ฮ่าา ล้อเล่นนะครับ ) เพื่อนำมารักษาโรค และพัฒนามาเรื่อยๆเป็นลิเคียวร์ อันโด่งดัง

คอลิเคียวร์ตัวจริงบอกว่าลิเคียวร์ที่ถือว่าเป็นสุดยอกมี 2 ประเภทคือเบเนดิกไทน์ (ฺBenedictine) และชาร์ทรูซ(Chartreuse) แค่อ่านชื่อก้อเมาแล้วอะ

เบเนดิกไทน์ (ฺBenedictine)  เป็นลิเคียวร์ที่คิดค้นโดยพระเบเนดิกในปี 1510 ที่ Fecamp ในฝรั่งเศส ทุกขวดจะถูกจารึกภาษละตินว่า Deo Optimo Maximo หมายความว่า “to God Most, Good, Most Great” ที่สำคัญลิเคียวร์สูตรนี้ยังคงเป็นความลับตราบเท่าปัจจุบัน

ชาร์ทรูซ(Chartreuse) เป็นลิเคียวร์ที่ปรุงโดยพระ Chartrusians สมัยราชวงศ์ La Grande Chartreuse ในฝรั่งเศส ต่อมาปี 1930 ถูกขับไล่ไปสเปน พระกลุ่มนี้ก็ยงไปผลิตลิเคียวร์เพื่อเมาต่อภายใต้ชื่อ Liqueur des Peres Chartreux 

ปี 1941 จึงได้กลับมาฝรั่งเศสอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน ลิเคียวร์ของพระกลุ่มนี้มีดีกรีแรงถึง 57% ความหวาน 43% เรียกว่ากินแก้วเดียวไฟออกปากกันไปเลยงั้นเหอะ ฮ่าาาาา

กาลครั้งหนึ่งอิตาลีได้รับชื่อว่าเป็นชาติที่ผลิตลิเคียวร์ ได้ดีที่สุดและมากที่สุดในยุโรป แต่ต่อมาก็เสียเชิงให้กับฝรั่งเศส หลักจากที่แคเธอรีน เดอ เมดิซี นำสูตรลิเคียวร์ของอิตาลีมาลองผิดลองถูกที่เมืองปอร์ตอเยร์ฝรั่งเศส จนได้ลิเคียวร์ที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุด นับแต่นั้นมาฝรั่งเศสก็กลายเป็นเจ้าพ่อลิเคียวร์เหนืออิตาลี

เมากันรึยังครับ ถ้ายังไม่เมาไปต่อที่นี้เลยครับมีสูตรเหล้า ค๊อกเทลต่างๆ เพียบ ครับ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก เมรัยกูรู