นึกชมอยู่ในใจลึก ๆ ว่าช่างคิดได้อย่างไรหนอ ไปกินร้านไหน ๆ พอได้โต๊ะนั่งเด็กในร้านก็จะเอาเมนูมาให้ดูเพื่อเลือกสั่งของที่จะกิน สั่งได้แล้วเด็กก็จะขอเก็บเมนูไป อยากจะสั่งอะไรเพิ่มก็ต้องขอเมนูมาดูกันใหม่ เดี๋ยวนี้มีคนคิดใหม่ทำใหม่กินแล้วให้เอาเมนูกลับบ้านไปได้เลย เป็นวิธีทำการตลาดอีกอย่างที่น่าสนใจ เพราะเวลาอยู่บ้านนึกหิวอยากกระหาย ก็มีเมนูพร้อมรูปให้ดูได้ไม่ต้องจินตนาการ แล้วยังถือติดมือเอาไปชวนคนอื่นให้ดูแล้วน้ำลายย้อยคล้อยตาม สุดท้ายก็ต้องมีนัดหมายไปรวมหัวกินกันจนได้ ไปกินที่ร้านสามเสนวิลล่าเจอเมนูที่มีหน้าตาเป็นนิตยสารชื่อ LS แมกกาซีน น่าจะทำมาได้สักประมาณปีกว่าแล้ว กินเสร็จเด็กบอกให้เอาเมนูกลับบ้านไปได้เลย ก่อนหน้าไปกินก็ไม่ค่อยจะได้สนใจฟังและสนใจหยิบ ไปคราวหลังสุดนึกอย่างไรไม่รู้หยิบติดเอาไปดูสักเล่มก็น่าจะดี ดูแล้วก็เลยได้เรื่องเพราะอยู่บ้านถึงเวลาว่างก่อนจะนอน หยิบแมกกาซีนที่ว่าติดมือขึ้นเตียงไปด้วย ค่อย ๆ เปิดพลิกดูไปทีละหน้าเจอรูปอาหารหน้าตาดี ๆ อยู่เยอะแยะ ถึงกับน้ำลายงุ่นง่านแล้วไปชักชวนให้น้ำย่อยวิ่งพล่าน อดทนอยู่ได้แค่เย็นย่ำของอีกวัน สุดท้ายก็ต้องกลับไปกินซ้ำทั้งของเดิมกับทั้งเติมของที่ยังขาดอีกจนได้ ไม่ได้เป็นแมกกาซีนที่มีแต่รายการ ราคา และรูปอาหารเท่านั้นหรอก ยังมีเนื้อหาอื่น ๆ ที่น่าสนใจเอาไว้ให้อ่านด้วย ชื่อ LS เดาเอาว่าน่าจะมาจากคำ Lifestyle กว่าจะไปถึงร้านที่ถนนราชพฤกษ์ อำเภอเมืองนนทบุรี ก็เกือบจะทุ่มแล้ว ห้องที่ไปนั่งกินอยู่มื้อกลางวันเมื่อวันก่อนโต๊ะเต็มหมดแล้ว มีโต๊ะนั่งในสวนที่ยังพอว่างอยู่แต่ก็นึกกลัวยุง ไปได้ที่นั่งกินแบบชุดโซฟาในห้องแอร์ The Living Room ที่ตึกด้านติดถนน ตรงนี้เปิดเป็นร้านขายกาแฟ เครื่องดื่ม ขนมเค้ก และของฝากติดมือ คอไวน์ที่ลืมหิ้วขวดติดมือไปด้วยก็คงจะหาที่ถูกคอได้สักขวดแถว ๆ นี้ หิ้วมาเองรู้สึกว่าถึงจะเปิดขวดเองก็จะมีค่าเปิดขวดด้วย นั่งปุ๊บก็สั่งได้ปั๊บก่อนเลย สะเต๊ะชาววังของกินที่อยู่คู่กันกับตำนานเบียร์วุ้นแก้วแช่มาตั้งแต่เปิดร้านสามเสนวิลล่าที่ถนนเศรษฐศิริแถว ๆ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ อีกปีสองปีอายุก็น่าจะถึง 40 ปีแล้ว ชุดหมูสะเต๊ะจานเล็กพร้อมขนมปัง 120 บาท+ ราคารวม Vat เอาไว้แล้ว ยังเหลือแต่บวกเซอร์วิสชาร์จ 5% ปลากะพงทอดน้ำปลาที่กินเมื่อวันก่อนยังรู้สึกเหมือนหวานติดปากอยู่ ยังนึกจะเลือกกินอะไรไม่ทันได้ลงตัว ก็สั่งปลากะพงทอดน้ำปลา 350 บาท+ มาไว้ก่อนอีกจาน ร้านอื่น ๆ เขาทำซาลาเปาขาย แต่ที่นี่ขึ้นชื่อกับของกินที่เรียกว่าซาลาปัง เป็นซาลาเปาแปลงสายพันธุ์เพราะใช้แป้งแบบขนมปัง สั่งแบบไส้หมูแดงฮ่องกงมากินลูกหนึ่ง 30 บาท+ ทอดมันกุ้งไส้เนื้อกุ้งสับนุ่ม ๆ หนึบ ๆ เป็นชิ้นเป็นอัน 160 บาท+ ของกินเรียกน้ำย่อยอย่างปอเปี๊ยะหนังกรอบ 140 บาท+ ดูหน้าตาน่าจะเป็นญาติกับพวกกุ้งกระเบื้องและพวกปอเปี๊ยะวงพระจันทร์ ไส้ปอเปี๊ยะมีเนื้อกุ้ง กุนเชียง และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กินกับน้ำจิ้มบ๊วย จานแนะนำของร้านอย่างปลาหมึกวงชุบแป้งทอด 180 บาท+ เป็นปลาหมึกสดหั่นชิ้นเป็นวงชุบแป้งทอดของกินเรียกน้ำย่อยสไตล์อิตาเลียนแบบที่เรียกว่าคาลามารี อีกหนึ่งจานแนะนำ เป็ดล่อนทอดกรอบ 300 บาท+ เป็ดตุ๋นพะโล้เนื้อนุ่มสับชิ้นทอดน้ำมันให้หนังกรอบ เคี้ยวกัดกินเนื้อล่อนหลุดจากกระดูกง่ายสมชื่อเรียก เป็ดสับชิ้นขนาดครึ่งตัวเคี้ยวนุ่มกรอบเสิร์ฟพร้อมกับข้าวเกรียบ หมี่ขาวกรอบ ใบกระเพรากรอบ กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือราดซีอิ๊วหวาน สั่งแต่ของกินทอดน้ำมันท่อคอเลยชักฝืด หาน้ำผึ้งมะนาวโซดาเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ใส่น้ำแข็งเย็น ๆ 80 บาท+ มาช่วยเซาะแซะมันที่ติดปากติดคอออกไปบ้าง นึกอยากกินผัดสะตอแต่ไม่ค่อยนึกอยากกินกุ้ง สั่งสะตอผัดกุ้ง 180 บาท+ แบบที่ไม่ใส่กุ้ง สะตอสดกรอบเต็มเม็ดเต็มคำ แต่ยังมีกุ้งหลุดติดมาในจานให้เห็นอยู่ตัวหนึ่ง เข้าใจว่าคนทำคงจะชินมือกับการผัดสะตอที่จะต้องใส่กุ้ง ผัดเสร็จแล้วค่อยคัดแยกเอากุ้งออก หรือเผลอใส่กุ้งไปเตรียมผัดพอนึกขึ้นได้แต่เอากุ้งออกไม่หมด ไม่ซีเรียสอะไรเพราะใส่กุ้งมาให้ก็กินได้ ถ้าจมูกและปากไม่ผิดเพี้ยนก็รู้สึกเหมือนว่าจะเป็นผัดสะตอที่ไม่ได้กลิ่นรสของกะปิติดมาด้วย หอมร้อนเครื่องผัดที่ปรุงด้วยกระเทียม พริกเหลือง ใบมะกรูด และพริกไทยอ่อน กลิ่นน้ำผัดและเครื่องผัดสะตอหอมชนจมูกจนทนกินแค่กับข้าวเปล่า ๆ ไม่อยู่ ต้องสั่งข้าวสวย 15 บาท+ แบบขอด่วนมากินกับผัดสะตอ ไหน ๆ ก็สั่งข้าวเปล่ามาแล้ว หาอะไรมากินกับข้าวสวยอีกสักอย่าง เลือกสั่งจานสุขภาพแบบไทย ๆ อย่างน้ำพริกลงเรือที่เสิร์ฟพร้อมผักสดและผักต้ม 120 บาท+ มาเสริมท้อง น้ำพริกที่มีทั้งสี กลิ่น และรสของกะปิ เนื้อน้ำพริกเติมข้นด้วยหมูสับ รสชาติน้ำพริกก็เข้มข้นเหมาะจะเจือจางให้อ่อนลงด้วยผักจิ้มหรือคลุกกินข้าวสวย เครื่องเคียงโรยหน้าน้ำพริกเป็นปลาดุกฟู ไข่เค็ม และพริกขี้หนูเม็ด ผักรวมจัดมาให้จิ้มกินกับน้ำพริกหลากหลายสะใจดี ยำถั่วพูเป็นของกินอีกจานหนึ่งที่จำได้ว่าเป็นอะไรที่อยู่คู่กันกับร้านสามเสนวิลล่ามาอย่างยาวนาน ยำใส่กุ้งสดกลัวจะเริ่ดไม่พอ ก็เลยสั่งยำถั่วพูแบบที่ใส่ปูนิ่ม 140 บาท+ ถั่วพูหรือถั่วที่รอบตัวมีรอยเว้าเข้าไปเป็นพูเอามาหั่นซอยลวกแล้วเอาไปนำกับเครื่องยำใส่หมูสับและกุ้งโรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว ปูนิ่มเนื้อก็นิ่มสมชื่อ อยากกินปูแต่ขี้เกียจแกะเปลือกปู เปลี่ยนมากินปูนิ่มบ้างก็ลงตัวดี เห็นในเมนูส้มตำมีชื่อส้มตำสามเสน 180 บาท+ ตั้งชื่อแบบนี้เห็นทีน่าจะเป็นอะไรเด็ด ๆ ของร้าน ก็เลยลองสั่งมาดูหน้าตาของจริง ส้มตำสูตรเฉพาะที่ดูไปดูมาก็ไม่ค่อยจะเหมือนส้มตำสายพันธุ์แท้สักเท่าไร โอนเอียงไปทางส้มตำกรอบมากกว่า ส่วนประกอบกินแล้วก็ไม่มีอะไรที่ดูซับซ้อน มีอยู่แค่เส้นมะละกอชุบแป้งทอดกรอบกับเส้นหัวปลีชุบแป้งทอดกรอบ แล้วแยกน้ำปรุงแบบส้มตำเอามาไว้ให้ราดคลุกกับเส้นกรอบ อรรถรสไม่น่าจะสู้ส้มตำแท้ ๆ ได้ แต่ถ้ามื้อไหนนึกอยากลองเปลี่ยนแนวกินบ้างแก้เบื่อ ก็เป็นอะไรที่น่าจะเข้าท่า หรือใช้กินเป็นกับแกล้มก็น่าจะเข้าทีอยู่เหมือนกัน จบของคาวก็มองหาขนมหวาน นึกอยากกินเค้กแบบพวกเค้กเนยสดแต่พยายามจะหนีครีม เลี่ยงหลบไปสั่งฟรุตเค้กที่ได้อรรถรสทั้งของเนื้อเค้กและเนื้อผลไม้หลากหลายชนิด ชิ้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากคงไม่กระเทือนต่อสุขภาพการกินสักเท่าไร เดี๋ยวนี้จะกินอะไรก็ต้องคอยระวังตัวอยู่เหมือนกัน ก็บอกกันว่า You are what you eat. กินอะไรเข้าไปก็จะได้เป็นอย่างนั้น แถมกินแล้วก็ยังลืม จำราคาเค้กชิ้นนี้มาบอกไม่ได้แล้ว น้ำผึ้งมะนาวโซดาที่สั่งมาก่อนหน้าหมดแก้วไปแล้ว มองหาเครื่องดื่มเย็น ๆ อีกสักแก้วมากินกลั้วคอกับฟรุตเค้ก เลือกได้น้ำชามะนาว 80 บาท+ ชาเย็นรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กินกับฟรุตเค้กก็ระรื่นคอดี ขนมหวานแนวฝรั่งผ่านไป ก็ได้คิวของขนมหวานแบบไทย ๆ บ้าง ข้าวเหนียวมะม่วงจานเล็ก ๆ ขนาดพอกินคนเดียว ใส่มะม่วงน้ำดอกไม้มาให้ครึ่งลูก จำราคาไม่ได้ว่า 60 หรือ 80 บาท+ จำได้แต่ว่าข้าวเหนียวมูนได้เนื้อหาและรสชาติถูกปากดี มะม่วงก็หวานตามธรรมชาติ ช่วงนี้ทุเรียนกำลังออกสะพรั่งตลาด ราคาทุเรียนปีนี้ค่อนข้างแพง และดูเหมือนจะขยับแพงขึ้นกันทุกปี ราคาที่ตลาดแถวบ้านหมอนทองแบบชั่งลูก กก.ละ 130-150 บาท ชะนี กก.ละ 90-100 บาท จำได้ว่าเมื่อไม่กี่ปีมานี้ยังซื้อหมอนทองกิน กก.ละ 30 บาทได้อยู่เลย สู้ราคากินทุเรียนเป็นลูกไม่ไหว ก็มาสั่งกินข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน 80 บาท+ แก้ขาดและแก้ขัดไปก่อนก็แล้วกัน หอมหวานมันครบเครื่องแบบนี้ต้องยับยั้งใจไว้ไม่ให้สั่งเติมมาอีกถ้วย
มากินวันนี้ไม่ได้มามือเปล่า แต่ถือนิตยสารที่เป็นเมนูติดมาด้วย เก็บเอาไว้ที่บ้านเปิดดูกลัวห้ามใจไม่อยู่ ไม่กี่วันเดี๋ยวก็ต้องย้อนกลับมากินอีก เลยเอาเมนูมาวางคืน !!! ชาร |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
Keukenhof 10 | ||
![]() |
||
ทิวลิปที่สวนเกอเก็นฮอฟ |
||
View All ![]() |
<< | พฤษภาคม 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |