ของกินแบบญี่ปุ่นที่เป็นข้าวหน้าต่าง ๆ ก็มีชื่อเรียกรวม ๆ กันว่าดงบุริ หรือดมบุริ ที่ยังมีประเด็นที่มีคนผูกคิดว่าน่าจะมีที่มาจากแถว ๆ ธนบุรีบ้านเรานี่เอง เพราะเขียนเป็นอักษรภาษาอังกฤษว่า Donburi แล้วเรียกข้าวที่เป็นหน้าเทมปุระว่า เทนด้ง หรือ Tendon ซึ่งเมื่อพูดถึง เทมปุระ หรือ Tempura ก็ต้องนึกถึงของกินแบบญี่ปุ่นที่เอาอาหารทะเลหรือผักมาชุบแป้งทอด ซึ่งว่ากันว่าต้นที่มาของเทมปุระก็คือปลาชุบแป้งทอดแบบโปรตุเกสที่มีชื่อเรียกว่า เทมโพลา หรือ Tempola ร้านขายข้าวหน้าเทมปุระ หรือเทนด้ง ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่นิยมกินกันร้านหนึ่งก็คือร้านเทนยะ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2532 จากนั้นก็ขยับขยายสาขาไปเปิดอยู่ทั่วญี่ปุ่น เมื่อปี 2556 ร้านเทนยะได้เริ่มที่จะเปิดตัวเองออกไปนอกประเทศญี่ปุ่น ประเทศแรกที่ถูกเลือกมาเปิดร้านก็คือเมืองไทยบ้านเรานี่แหละ ผู้ที่นำเข้ามาก็คือกลุ่มเซ็นทรัลเรสตอรองส์ที่มีอักษรย่อคุ้น ๆ ตาว่า CRG ซึ่งในเครือข่ายเดียวกันนี้มีร้านของกินแบบญี่ปุ่นอยู่หลายยี่ห้ออยู่เหมือนกัน เป็นร้านที่มีคำลงท้ายว่า “ยะ” อย่าง โยชิโนยะ คัตสึยะ โอโตยะ และเทนยะ ซึ่งร้านเทนยะที่เปิดขายร้านแรกในบ้านเรานั้นอยู่ที่เซ็นทรัลพลาซา บางนา แต่ที่เพิ่งจะไปแวะกินมาเป็นร้านที่อยู่ในเซ็นทรัลพลาซาเวสต์เกต บางใหญ่ นนทบุรี ชั้นที่มีร้านกินอยู่เยอะ ๆ นั่นแหละ ประเดิมมื้อด้วยของกินแบบเป็นชุดที่เรียกว่า ชุดชีสซี่บูตะ รวมเครื่องดื่มแบบรีฟิลหมดแล้วเติมได้ ชุดนี้ราคา 149 บาท เป็นราคาที่คิดรวมเบ็ดเสร็จหมดแล้ว ไม่มีบวก Vat และเซอร์วิสชาร์จอีก สังเกตว่าราคาของกินที่ร้านนี้จะตั้งราคาให้ลงท้ายไว้ด้วยเลข 9 เป็นของกินพวกที่มีชีสยืด ๆ อยู่ด้วยก็เลยตั้งชื่อเรียกว่าชีสซี่ ส่วนคำว่าบูตะก็คือหมู อย่างที่เรียกหมูดำว่าคุโรบูตะ คำว่าคุโรหรือคุโระก็คือสีดำนี่แหละ ในชามเป็นข้าวสวยหน้าหมูสันนอกเทมปุระสอดไส้ชีสที่ราดซอสเทมปุระทาเระสูตรเฉพาะของเทนยะมาเป็นตัวเพิ่มอรรถรสในการกิน ในชุดมีไข่ออนเซนอยู่ด้วย ไข่ขาวส่วนใหญ่ยังเห็นเป็นวุ้นใส ไข่แดงสุกแบบน้ำไข่ยังเป็นยาง มีซุปมิโซะเป็นน้ำซุปไว้ซดแก้กลืนข้าวแล้วฝืดคอ เครื่องดื่มแบบรีฟิลที่รวมอยู่ในชุดเลือกเป็นน้ำอัดลมสีดำ ส่วนน้ำกินที่สั่งเพิ่มอีกต่างหากคือน้ำเปล่าเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง เป็นน้ำแร่มิเนเร่ขนาด 500 มล. คิดราคา 20 บาท ซึ่งก็ยังถูกกว่าน้ำดื่มของอีกหลาย ๆ ร้านกินเดี๋ยวนี้ กินข้าวแล้วก็นึกอยากกินเทมปุระแบบเพียว ๆ บ้าง จำได้ว่าเทมปุระเป็นของกินแบบญี่ปุ่นที่กินได้เป็นอย่างแรก ก็ติดจะชอบกินกุ้งชุบแป้งทอดแบบโต๊ะจีนมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว พอได้เจอกุ้งเทมปุระเข้าก็เลยเป็นอะไรที่เพลิดเพลินเจริญปาก เลือกสั่งเป็นเทนยะสเปเชียลที่มีของทะเล 3 อย่างชุบแป้งทอดรวมอยู่ในจานเดียว ราคา 379 บาท มาพร้อมกับซอสเทมปุระทาเระรสหวาน ๆ เค็ม ๆ ที่มีหัวไช้เท้าบดและขิงบดแยกมาเอาไว้ให้ใส่ผสมลงไปในซอสเอง กินเทมปุระต้องกินตั้งแต่ยังร้อน ๆ ยกมาเสิร์ฟลงโต๊ะใหม่ ๆ ขืนสั่งมาแบบคุยไปกินไปความกรุบกรอบของแป้งก็จะลดน้อยลงไป ว่ากันว่าการจัดวางของมาในจานเทมปุระนั้นก็ไม่ได้วางมาให้แบบแค่ให้ดูสวย แต่จัดวางไว้ให้กินกันไปเป็นลำดับ เริ่มจากของกินรสชาตินุ่ม ๆ เบา ๆ ไปหาของกินที่มีรสชาติเข้มข้นกว่า หรือกินแบบบนลงล่าง และกินจากใกล้ไปไกล กูรูที่เป็นเพื่อนกินเคยบอกไว้ว่าถ้ากินไล่รสชาติกันไปแบบนี้จะกินเทมปุระได้อร่อยปากยิ่งขึ้น มองดูในจานเห็นกุ้งเทมปุระ 4 ชิ้นวางเอาไว้ด้านบนสุด ก็เลยเลือกกินกุ้งก่อน ไม่ได้คิดจะลองกินอย่างคำที่เพื่อนว่าหรอก แต่ชอบกินกุ้งมากกว่าอย่างอื่น และเอาตะเกียบคีบกินได้ง่ายกว่าอย่างอื่นเพราะวางอยู่ด้านบน เทมปุระอีกสองอย่างที่วางอยู่แถวล่างของกุ้งก็คือปลาหมึกกับปลาทราย วางเรียงไว้แบบคู่ขนานกันซ้ายขวาอย่างละ 4 ชิ้น ไม่แน่ใจว่าควรจะกินอะไรก่อนหรือหลังดี ก็เลยกินแบบสลับไปสลับมา เนื้อปลาหมึกก็นุ่มเนียนดี ส่วนเนื้อปลาทรายก็นุ่มนวลไม่มีก้างเกะกะกวนใจ แต่ถ้าจะว่าไปถ้าดูเอาจากสีของปลาทรายเทมปุระดูจะอ่อนกว่าสีของปลาหมึกเทมปุระอยู่นิดหน่อย กินไปได้ถึงครึ่งทางแล้วเพิ่งจะนึกออกว่าเพื่อนกูรูคนที่ว่าเคยบอกเอาไว้อีกอย่างด้วยว่าให้กินจากสีอ่อน ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ ไปกินสีเข้ม ๆ ลองกินแบบที่ว่านี้เท่าของกินที่เหลืออยู่อีกครึ่งทาง รู้สึกว่าเทมปุระที่เหลืออยู่ในจานจะหมดเร็วไปหน่อย เพราะกินจนหมดจานแล้วก็ยังไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างอะไรกับการกินแบบมั่ว ๆ เอาไว้ถ้ามีโอกาสอีกก็ว่าจะลองกินตามอย่างที่กูรูเพื่อนกินบอกเอาไว้บ้าง ยังนึกอร่อยอยู่กับเทมปุระ สั่งเติมแบบเลือกกินเป็นอย่าง ๆ ตามใจอยาก ยอมตกลงปลงใจกับรากบัวเทมปุระชิ้นละ 19 บาท และหอยเชลล์เทมปุระชิ้นละ 39 บาท ชอบกินรากบัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตอนเด็ก ๆ แม่ชอบซื้อรากบัวมาปลอกฝานหั่นเป็นชิ้นแล้วต้มน้ำใส่น้ำตาลให้กินเป็นน้ำรากบัวแทนที่จะต้องไปซื้อน้ำหวานอย่างอื่นกิน น้ำรากบัวใส่น้ำแข็งเย็น ๆ นั้นนอกจากจะซดชื่นใจแล้ว ยังมีเนื้อรากบัวกรอบ ๆ นุ่ม ๆ ให้กัดกินแล้วดูเส้นใยยืด ๆ เล่นไปด้วย ก็เลยติดจะชอบความนุ่มเนื้อของรากบัวไทยหุ่นสลิมฟิตมากกว่ารากบัวหุ่นอวบอ้วนที่ได้กินอยู่อย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าจะเอามาทำเทมปุระก็น่าจะต้องใช้รากบัวรูปทรงใหญ่หนาแบบนี้จึงจะเหมาะปากกว่า ไม่นึกเหมือนกันว่ารากบัวเอามาทำเป็นเทมปุระก็กินได้กรอบเพลินเจริญอาหาร แต่ก็สั่งมากินแค่ 2 ชิ้น ขยักพื้นที่ท้องเหลือเอาไว้ใส่อย่างอื่นลงไปบ้าง หอยเชลล์เทมปุระ 4 ชิ้น ใช้หอยเชลล์ตัวโต ๆ เนื้อนุ่มหนึบที่อร่อยปากไปคนละแบบกับปลาหมึก ลองเทมปุระแบบของคาวแล้ว ก็ลองเทมปุระแบบของหวานดูบ้าง ชื่อเป็นทางการในเมนูว่าไอศกรีมเทมปุระชาเขียว ที่ขอเรียกไอศกรีมว่าไอติมตามที่คุ้นเคยกับปากก็แล้วกัน จานนี้ราคา 59 บาท หน้าตาก็แบบเดียวกันกับไอติมทอดที่มีขายกันอยู่ แต่มีความต่างที่ความกรอบของเนื้อแป้งเทมปุระที่หุ้มอยู่เป็นผิวนอก เนื้อแป้งเค้กที่ถัดอยู่ชั้นในนุ่มละมุนปาก ตรงกลางเป็นไอติมรสหวานเนียนหอมกลิ่นชาเขียว น้ำซอสที่ราดไม่ได้ใช้ซอสทาเระเพราะคงไม่ได้เป็นซอสสารพัดนึกที่เข้ากันได้กับของกินไปทุกอย่าง แต่เป็นน้ำเชื่อมสีดำ ๆ ที่เรียกชื่อว่าคุโรมิสึ ซึ่งได้ความหวานจากน้ำตาลอ้อย ปกติจะปิดมื้อด้วยของหวาน แต่มื้อนี้ยังเห็นในเมนูมีของกินเล่นอย่างอื่นอีกที่นึกอยากลอง หมดไอติมแล้วก็ยังสั่งของกินเล่นอย่างไก่กรอบคลุกซอสเผ็ดสไตล์เกาหลี สั่งแบบจาน 4 ชิ้นราคา 149 บาท เนื้อไก่ล้วนแล่ให้เป็นแผ่นชิ้นบาง ๆ เอาไปชุบแป้งทอดแบบเทมปุระให้กรอบนอกนุ่มเนื้อใน แล้วทาผิวแป้งด้วยซอสเผ็ดรสชาติหวาน ๆ มีเผ็ดอยู่บ้างหน่อย ๆ ปิดท้ายมื้อด้วยของกินเล่นอย่างเกี๊ยวซ่า 4 ชื้นในราคา 39 บาท กินกับซอสทาเระก็เข้ากันได้ดี ราคาทั้งจานนี้กินหอยเชลล์ได้แค่ตัวเดียว ตอนที่เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อเรียกว่าเกี๊ยวซ่าใหม่ ๆ เมื่อหลายสิบปีก่อน ก็ยังนึกไปถึงเกี๊ยวบะหมี่ที่เคยกินอยู่ แล้วเลยเถิดไปสงสัยว่าเกี๊ยวอะไรทำไมถึงได้ซ่า ที่แท้ก็เป็นเกี๊ยวแบบจีนที่เรียกว่าเจียวจื่อ แต่ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Gyoza หรือ เกียวซา พอมาถึงเมืองไทยก็กลายเป็นเกี๊ยวซ่า ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่า ทุกวันนี้ที่ดูจะมีนิสัยกล้าเซี้ยว ก็คงเป็นเพราะกินเกี๊ยวซ่าบ่อย ๆ นี่เอง !!! ชาร |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
Keukenhof 10 | ||
![]() |
||
ทิวลิปที่สวนเกอเก็นฮอฟ |
||
View All ![]() |
<< | กรกฎาคม 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |