.

(ผู้คนที่ออกมานั่งรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นเป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไป)

ตีสี่สิบห้านาที ฝนลุกขึ้นมาเตรียมพร้อมที่จะไปเข้าคิวเข้าห้องน้ำ เพื่อเตรียม

ตัวไปที่ตึกอำนวยการเพื่อให้เจ้าหน้าที่นำไปชมพระอาทิตย์ตก

ที่ผานกแอ่น 

(ดอกกระดุมเงิน พบเห็นได้ทั่วไปตามทางเดินเลียบผาที่ภูกระดึง)

เมื่อคืนฝนนอนไม่ค่อยหลับทั้งที่เป็นคนที่นอนแปลกที่ได้ดี แต่เป็น

เพราะอากาศหนาวมากนั่นเอง บวกกับเต๊นท์ที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้นั้นบาง

พอสมควร น้ำค้างจึงเกาะด้านในเต๊นท์ทำให้หัวนั้นชื้นทีเดียว แต่จะโทษ

เต๊นท์หรือที่พักไม่ได้หรอกค่ะ ต้องโทษความโง่ของเราแต่อย่างเดียว หุหุ

ดันไม่รู้จักถุงนอน นึกว่ามันคือผ้าห่มยางเลยเอามาห่มอย่างเดียวพอนอนๆ

ไปก็ลื่นออกจากตัว แถมอุ้มน้ำค้างอีกตะหาก เลยนอนหนาวอยู่คนเดียว^^

กว่าจะรู้ว่าใช้ผิดจุดประสงค์ ก็คืนที่ 2 แหละค่ะ โชคดีที่ไม่เป็นหวัดเอา

(ดอกกระดุมเงิน มีชื่อพระราชทานฯว่า ดอกมณีเทวา)

ตี 5 พวกเราก็ทยอยกันเดินไปที่ผานกแอ่น ในตอนนี้แหละค่ะ ที่เห็นผู้คน

จำนวนมาก เพราะเมื่อคืนเห็นแต่เต๊นท์ คนเรานี่ก็พยายามหาความลำบาก

ใส่ตัวกันจริงๆ :D

(ต้นไม้ชนิดกล้วยไม้ ขึ้นอยู่บนหิน คาดว่าคือเอื้องหิน)

พวกเราออกมาเร็ว ได้ที่ทำเลดีพอสมควรที่จะชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่โชคร้าย

ที่วันนั้นฟ้าไม่เปิด เลยอดชมพระอาทิตย์ขึ้นเลย T_T

(เอื้องหิน ที่ขึ้นอยู่บนหินตรงบริเวณทางเดินที่ผานกแอ่น)

พอคิดว่าไม่เห็นพระอาทิตย์กันแน่แล้ว ผู้คนจำนวนมากก็แยกย้ายกันเดิน

ออกจากผานกแอ่นกัน พวกเราเลือกเดินเส้นทางที่จะไปลานพระแก้วเพื่อ

จะไหว้พระขอพรกันค่ะ

(ดอกไม้ที่พบเห็นตามทางเดิน)

ระหว่างทางที่เดินไปลานพระแก้วท้องฟ้าก็เริ่มสว่าง ฝนก็ชมวิวข้างทางอย่าง

ตื่นตาตื่นใจทีเดียว และแล้วก็สะดุดตากับดอกไม้สีขาวเงินเป็นกลุ่ม

ตรงเนินหินข้างทาง จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปถ่ายรูป ทำให้เพื่อนๆ

เดินนำหน้าไปก่อน

(ลูกสนพบเห็นได้ทั่วไปบนภูกระดึง)

ขณะที่ฝนกำลังมาโครดอกไม้เหล่านี้อย่างเมามันส์ ก็ได้ยินเสียงชายหนุ่ม

พูดจากข้างหลังว่า ดอกกระดุมเงิน เราก็หันไปถามจริงเหรอคะ (ฝนเคยได้

อ่านเจอดอกไม้ชนิดนี้มานาน แต่เพิ่งได้เห็นของจริงก็หนนี้นี่เอง)

(พระแก้ว)

หนุ่มน้อยหน้าตาดี ลักษณะคงแก่เรียน ตอบกลับมาอีกว่า " ใช่ครับดอก

กระดุมเงิน หรือชื่อที่ได้รับพระราชทานฯว่า ดอกมณีเทวาครับ" จากนั้นก็มี

เสียงจากข้างหลังเป็นกล่มใหญ่พูดขึ้นพร้อมกันว่า "ผู้ตื่น ผู้รู้ ผู้เบิกบาน"

เพื่อนๆ ของน้องเค้านั่นเอง แซวซะน้องเค้าเขินไปเลย

(กระดิ่งที่แขวนอยู่บนต้นไม้บริเวณลานพระแก้ว)

หลังจากที่ฝนถ่ายรูปดอกกระดุมเงิน และต้นเอื้องหิน (เสียดายที่ยังไม่มีดอก

ค่ะ แต่ต้นน่ารักมาก) จนหนำใจแล้วก็เดินตามเพื่อนๆ ทันที่ลานพระแก้ว

พอดี ^^

(ดอกไม้สีขาวบานเต็มต้น พบเห็นมากมายที่บนยอดภูกระดึง)

แล้วพวกเราก็กลับมาที่จุดพักแรม เพื่อรับประทานอาหาร และซื้อข้าวกล่อง

เพื่อไว้สำหรับรับประทานมื้อเที่ยง พวกเราเลือกเดินที่เส้นทางน้ำตก ไปทะลุ

ที่ผาหล่มสัก และเดินเลียบผาเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกค่ะ

(ยอดอ่อนของต้นสน)

อาหารที่ขายบนยอดภูกระดึง จัดว่าอร่อยใช้ได้ ราคาจานละ 50 บาทค่ะ

ข้าวกล่องก็ 50 บาทเช่นกัน แต่เรียกได้ว่าไม่แพง เมื่อคิดถึงความลำบากที่จะ

ต้องขนของขึ้นมาขายถึงบนนี้ค่ะ

(ร้านอาหารข้างจุดกางเต๊นท์พักแรม ที่พวกเราไปฝากท้องในยามเช้า)

ในยามนี้เราเริ่มเห็นผู้คนหนาตาขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เวลา 7 โมงกว่าๆ

พวกเราก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไปชมน้ำตกกันค่ะ

(ผู้คนต่างออกมารับประทานอาหารเช้ากันมากมาย)

(มีชา กาแฟขาย ที่ฝนไม่พลาดที่จะทานกาแฟยามเช้าค่ะ^^)

ตอนนี้อากาศกำลังเย็นสบาย พวกเราเดินไปชมวิวไปกันอย่างสนุกสนาน

และแล้วก็ถึงน้ำตกแรก คือน้ำตกวังกวาง ทางลงไปด้านหน้าน้ำตกชันและ

ลื่นพอสมควร ทำให้พวกเราตัดสินใจเดินต่อกันทันทีค่ะ

(จุดรับประทานอาหารอีกมุมนึง)

(เส้นทางเดินไปทางน้ำตก)

(เส้นทางเดินไปทางน้ำตก)

(เส้นทางเดินไปทางน้ำตก เมื่อเจอหินก้อนใหญ่มักพบเห็นมีคนวางไม้ค้ำไว้)

(น้ำตกเพ็ญพบใหม่)

เมื่อเดินได้สักพักใหญ่ เราก็พบแล้วใบเมเปิ้ลที่ใฝ่ฝัน ที่น้ำตกเพ็บพบใหม่

ระยะทางที่เราเดินจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ถึงนำตกเพ็ญพบใหม่ เท่า

กับ 2,576 เมตรค่ะ คนเยอะพอสมควร ทำให้ยากมากที่จะถ่ายน้ำตกให้ไม่

ติดคนมาด้วย

(น้ำตกเพ็ญพบใหม่)

(น้ำตกเพ็ญพบใหม่ กับน้องนก)

เสียดายที่ฤดูนี้น้ำน้อยไปหน่อย แต่บรรยากาศที่นี่งดงามราวกับอยู่

เมืองนอกกันเลยทีเดียว

(เห็ดที่พบเห็นตามทางเดินเส้นน้ำตก)

(มอสขึ้นบนไม้ผุๆ ตามทางเดินเส้นน้ำตก)

(ลำธารน้ำใสๆ ตรงทางเดินเส้นน้ำตก)

(ลำธารน้ำใสๆ ตรงทางเดินเส้นน้ำตก)

(ดอกไม้สีขาวน่ารัก พบเห็นได้ทั่วไป)

เอนทรี่นี้ชมใบเมเปิ้ลกันแบบเรียกน้ำย่อยไปก่อนนะคะ^^

เอ็นทรี่หน้ารับรองได้ชมกันแบบอลังการกว่านี้แน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาชมภาพ เข้ามาอ่าน และคอมเม้นท์นะคะ