*/
<< | กันยายน 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
"เกิด(มานาน) แก่ (แล้วตอนนี้) เจ็บ (แต่ยังไม่)....ตาย" =ปฐมบท= ฉันเจ็บจี๊ดๆที่หน้าอก เป็นพักๆ ยังใช้ชีวิตได้เป็นปกติ มากว่าสิบปี ต้นปี๒๕๕๗ ผู้ปกครองที่น่ารักแนะนำให้ไปตรวจอย่างละเอียดกับคุณหมอหนุ่ม ที่โรงพยาบาลของเขา ตรวจเยอะมากละเอียดมาก เครื่องมือมากมาย จนมาถึง วิ่งสายพาน ฉันไม่กังวล ยังยิ้มได้ พูดคุยหยอกล้อ คุณหมอและพยาบาลตลอดเวลา ในตอนนั้นนอกจากสอนศิลปะ ฉันเป็นครูสอนโยคะแล้ว ฉันแข็งแรง ฉันยังโชว์ท่ายืนด้วยศีรษะหรือศีรษะอาสนะ Salamba Sirsasana Headstand ๕๕๕๕๕ ช่างน่าสมเพชตัวเอง ในความขี้อวดดี อวดเด่น เพราะว่า อีกสามนาที ต่อจากนั้น ชีวิตฉันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง หมอให้ฉันเริ่มวิ่งบนสายพาน ฉันยังปากดีกับหมอว่า "เร่งๆเลยครับ เอาเร็วสุดๆไปเลยครับหมอ" ....๕๕๕๕๕ สนุกดี วิ่งๆให้มันจบๆไปฉันคิดในใจ สามนาทีผ่านไปยังไม่ทันเหนื่อย หมอหยุดเครื่อง แล้วตามพยาบาลมา หมอสั่งให้เอาสายระโยงระยาง และที่หนีบๆเอาไว้ที่นิ้วออกให้หมด "หมอคงให้ครูกลับบ้านไม่ได้นะครับ กราฟหัวใจครูสวิงอย่างรุนแรง ไม่ปกติเลย หมอจะให้ครูฉีดสี และอาจจะต้องทำการรักษาเลยนะครับ" ....เงียบ.....ฉันนั่งก้มหน้านิ่ง ....ความเครียดจุกมาที่หน้าอก วินาทีนั้นฉันเจ็บจี๊ดที่หัวใจอีกครั้ง แต่แสร้งทำเป็นนิ่ง.... ฉันพูดอะไรไม่ออก แต่มือฉันสั่น ดูเหมือนภายในห้องนั้นเย็นเฉียบขึ้นมาทันที ....เงียบ ฉันยังคงเงียบอยู่ "ตกลง นะครับ" "หมอ จะจองห้องไว้ บ่ายนี้เราจะฉีดสีเลย" ฉันรวบรวมสติ แล้วพูดออกไป "ได้ครับ เชิญคุณครูตามสบาย" ...... ..... ..... วินาทีนั้น โลกยโสโอหังของฉันได้เปลี่ยนไปตลอดกาล ในหัวมึน...หมุนวน เหมือนโลกกำลังถล่มทลาย สันสน...จิตใจรวนเรแปรป่วน อยู่ในห้องน้ำ น้ำตาไหล...ไหลจนหยุดไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร? ย้อนไปในวัยเริ่มรุ่น จะทำแต่ละเรื่องสุดๆทุกเรื่อง ไม่เคยฟังใคร ไม่เชื่อใคร ใครๆก็รู้ว่า ดื่มเหล้าเมาต้องพัก อย่ากินพาราเซตามอล ฉันรู้ฉันก็กิน จนตับแข็ง เกือบตายไปครั้งหนึ่งแล้ว จนไม่แตะต้องของเมาอีกเลย ....มีไขมันเลวในเส้นเลือดสูง LDL(Low Density Lipoprotein) รู้ก็รู้ว่าต้องกินยา พร้อมทั้งออกกำลังกาย รู้นะแต่ไม่ทำ ก็ปล่อยตัวมาเรื่อย กินข้าวไม่เป็นเวลา แถมสะสมความเครียด จนเป็นโรคGERDกรดไหลย้อน( Gastro-Esophageal Reflux Disease) เอาล่ะคราวนี้คงตายแน่ เกิดกลัวขึ้นมาจนขนหัวลุก ไม่เคยกลัวตายแบบนี้มาก่อน ....แล้วจึงเดินไปหาหมอตัดสินใจ จะรักษา ๕๕๕๕๕ ฉันรับได้ทุกอย่าง ยกเว้นค่ารักษา ๕๕๕๕๕ "กูยอมตายดีกว่า" ฉันคิดในใจ คุณหมอ(หนุ่ม) ก็คุยไปเรื่อยๆ ค่ารักษาเริ่มต้นที่ สองแสนห้า ไปเรื่อยๆอาจจะถึงสองล้าน ๕๕๕๕๕ ฉันหัวเราะทั้งน้ำตา คุณหมอ(หนุ่ม) สืบประวัติฉัน จนรู้ว่า ฉันพอจะมีทางไปรักษาที่ โรงพยาบาลศิริราช คุณหมอ(หนุ่ม)จึงจัดแจงทำเรื่องส่งตัวให้ฉันไปรับการรักษา กับอาจารย์หมอใหญ่ที่ศิริราช ...ดูเหมือนว่าเริ่มมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ฉันกลับบ้านได้ แต่ต้องไปพบท่านอาจารย์หมอโดยด่วน ไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว "พรุ่งนี้ก็ตาย"อยู่ดี ....ฉันนิ่ง มาก ฉันไม่วิตกกังวลใดๆทั้งนั้นอีกแล้ว.... ในห้องผ่าตัด.... และแล้วท่านอาจารย์หมอใหญ่ก็เดินเข้ามา ...ทุกท่านเริ่มพูดภาษาหมอ ฟังดูแล้วเหมือนได้ดูหนังซาวด์แทร็ก ๕๕๕๕๕ ก็สนุกดีนะ เวลาผ่านไปนานฉันมองเห็นหัวใจของฉันเต้นในจอคอมพิวเตอร์ที่มี ๓ จอ ได้เห็นเส้นเลือดตัวเอง โอ้โห!!!...มหัศจรรย์มากๆเลย จนจับใจความที่ท่านอาจารย์หมอใหญ่พูดได้ว่า สามเส้น!!! ฉัน ตกใจ!!! จิตตกทันที ไม่กลัวตาย แต่กลัวจะไม่มีสตางค์จ่าย จิตใจสับสน จนอยากจะอาเจียนออกมา กลัวมาก!!! แล้วอยู่ๆ ท่านอาจารย์หมอใหญ่ก็สั่งให้ปิดเครื่องทั้งหมด ไฟแสงสว่างขาวโพลนก็สว่างโร่ทั้งห้องผ่าตัด ท่านอาจารย์หมอใหญ่ มองมาที่ฉันแล้วพูดว่า "ครู...เส้นเลือดหัวใจของครูโป่งทั้งสามเส้น" ท่านอาจารย์หมอใหญ่ถอนหายใจเล็กน้อย แล้วพูดต่อว่า "เราต้องคุยกันใหม่เรื่องการรักษา" ท่านอาจารย์หมอใหญ่ถอดถุงมือออก แล้วเดินไปหาภรรยานางฟ้าของฉันที่คอยอยู่นอกห้องผ่าตัด ท่านคงเข้าใจว่า ในเวลานั้นฉันไม่พร้อมที่จะคุยด้วย เวลาผ่านไปชั่วกัปชั่วกัล สติฉันกลับมาแล้ว ฉันพร้อมจะรับฟังท่านอาจารย์หมอแล้ว "ครูเป็นคนแข็งแรง และใจสู้มาก หมอเห็นว่าไม่ควรผ่าตัด ให้ครูกินยารักษาไปก่อน พร้อมๆกับออกกำลังกายไปด้วย ...ขออย่างเดียวครูห้ามอ้วนนะครับ" สามเดือนหลังจากนั้น ฉันอยู่ในอาการวิตกจริตกลัวตาย (panic attacks) ฉันพูดช้าลง ทำอะไรช้าไปหมด กลัวไปหมดทุกอย่างหวาดระแวงไม่กล้าอยู่คนเดียว ...จนถึงเวลานัดของท่านอาจารย์หมอ ฉันกลับมาฝึกโยคะ อีกครั้ง พร้อมทั้งหาข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ โรคเส้นเลือดหัวใจโป่งพอง และฉันไปพบข้อมูลหนึ่งมีคนญี่ปุ่นเป็นเหมือนฉัน แต่เขาหายดีแล้ว ด้วยการ"วิ่ง" และไม่ใช่การวิ่งธรรมดา แต่เป็นการ"วิ่งมาราธอน" ฉันไม่ใช่นักกีฬา ฉันไม่ชอบออกกำลังกาย แต่ฉันมาวิ่งเพื่อรักษาโรค จนได้พบและซาบซึ้ง คำว่า "กีฬา เป็น ยาวิเศษ" ได้เป็นอย่างดี ฉันวิ่งมาราธอน ๔๒.๑๙๕ กิโลเมตร มาหลายครั้ง ฉันค่อยๆลดยาลง ตามคำสั่งของคุณหมอ จนปัจจุบันฉันไม่ต้องกินยา และไม่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดแล้ว และฉันยังคงวิ่งมาราธอนต่อไป เพื่อค้นหาความลับของมาราธอน ขอบพระคุณมากครับที่เธออ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าบทบันทึกนี้เห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็สามารถส่งต่อ แบ่งปันกันไปได้นะครับ แต่ฉันขอย้ำว่า "ใครๆก็วิ่งมาราธอนได้ แต่การวิ่งมาราธอนไม่ใช่การวิ่งเพื่อออกกำลังกายนะครับ มันเป็นการทรมานร่างกายมากๆ เธอจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก และเธอจะเจอความลับของมาราธอน?" ยินดีมากครับ แข็งแรงๆ ทำให้สำเร็จครับ .../พี่ลูกเสือ รำพึง ปล. ขอบพระคุณมากครับ .../พี่ลูกเสือ รำพึง |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |