ปรอทวัดไข้แบบแก้ว มีวิธีการใช้งานอย่างไร ต้องวัดไข้กี่นาทีถึงจะดีที่สุด

ปรอทวัดไข้แบบแก้ว

ปรอทวัดไข้แบบแก้ว จะมีลักษณะเป็นแท่งยาวที่สามารถใช้วัดอุณหภูมิภายในร่างกาย โดยจะมีขีดสเกลเป็นตัวเลขคอยบอกอุณหภูมิภายใน ปรอทวัดไข้แบบแก้วนั้นจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ สามารถขยายตัว เมื่อมีอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปกติแล้วปรอทวัดไข้จะมีอุณหภูมิที่เย็นกว่าร่างกายของมนุษย์ และเมื่อนำมาสอดเข้าไปในส่วนของร่างกาย อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นทำให้ปรอทเกิดการขยายตัว ตัวเลขหรือสเกลที่อยู่ด้านในก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามอุณหภูมิร่างกายด้วย

ปรอทวัดไข้แบบแก้ว ใช้เวลาวัดกี่นาที

ปรอทวัดไข้แบบแก้วจะใช้วัดอุณหภูมิของร่างกาย และสามารถบอกผลได้แม่นยำอย่างน้อย 2-3 นาทีขึ้นไป โดยสามารถใช้วัดอุณหภูมิภายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ เช่น รักแร้ ปาก และทวารหนัก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เพื่อความแม่นยำขอแนะนำให้วัดอุณหภูมิอย่างน้อย 7-10 นาที จะดีกว่ายิ่งหากเป็นเด็กเล็กที่ไม่ค่อยอยู่นิ่ง ต้องเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นตลอดเวลา อาจส่งผลให้เกิดการคาดเคลื่อนของอุณหภูมิได้

เตรียมตัวก่อนการใช้งานปรอทวัดไข้แบบแก้ว

1.ขั้นตอนแรกให้ทำความสะอาด ปรอทวัดไข้แบบแก้ว ด้วยน้ำและสบู่ โดยใช้น้ำเย็นในการทำความสะอาด ห้ามใช้น้ำร้อนเด็ดขาดเพราะปรอทวัดไข้แบบแก้วอาจเกิดการเสียหาย หรือหากต้องการใช้แบบเร่งด่วน แนะนำให้ใช้สำลีชุบกับแอลกอฮอล์ และเช็ดให้ทั่วปรอทวัดไข้แบบแก้ว เพื่อให้อุณหภูมิเย็นลงก่อนใช้งาน

2.ก่อนการวัดอุณหภูมิของร่างกายด้วยปรอทวัดไข้แบบแก้ว ควรล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง 

3.เตรียมเครื่องจับเวลาหรือนาฬิกา โดยใช้นาฬิกาที่มีเข็มวินาทีบอก เพื่อใช้สามารถจับเวลาได้อย่างละเอียดและแม่นยำ 

4.สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการใช้ปรอทวัดไข้แบบแก้ว ควรเตรียมตัวอยู่ในท่าที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ ควรอยู่ในท่านั่งหรือนอนหงาย อย่างไรก็ตามหากเป็นเด็กเล็กต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษเพราะปรอทวัดไข้แบบแก้วอาจแตกได้เนื่องจากเด็กจะไม่ค่อยอยู่นิ่งหรือมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา

5.หากต้องการวัดอุณหภูมิที่รักแร้ ควรเช็ดทำความสะอาดรักแร้ รอให้แห้ง โดยไม่ควรมีเหงื่อปะปนอยู่ด้วยเพราะอาจทำให้อุณหภูมิเกิดการคาดเคลื่อนได้

6.หากต้องการวัดอุณหภูมิเด็กเล็กที่ต้องใช้วัดไข้ทางทวารหนัก ต้องเตรียมวาสลีนให้พร้อม

7.ตรวจสอบปรอทวัดไข้แบบแก้ว โดยสเกลก่อนใช้งานจะต้องอยู่ต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส หรือก่อนใช้งานต้องสะบัดปรอทให้มีระดับสเกลต่ำกว่าค่าที่กำหนดเพื่อความแม่นยำ  

8.สำหรับผู้ที่ต้องการวัดอุณหภูมิ หากมีเหงื่อออกหรือพึ่งอาบน้ำร้อนมา ควรรอสักครู่ไม่เช่นนั้น อาจทำให้ปรอทวัดไข้เกิดการคลาดเคลื่อนได้ 

วิธีใช้ปรอทวัดไข้แบบแก้ว

ใช้ปรอทแก้ววัดไข้ทางทวาร

หากต้องการใช้ปรอทวัดไข้แบบแก้ว วัดอุณหภูมิทางทวารหนัก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับเด็กแรกเกิด หรือเด็กทารก โดยเริ่มต้นให้เด็กนอนลงไปบนพื้นเรียบ หลังจากนั้นให้ทาวาสลีนที่ปลายปรอทวัดไข้แบบแก้ว โดยก่อนสอดปรอทเข้าไปทางทวารหนัก ให้จับขาทั้งสองข้างยกขึ้น ขั้นตอนนี้ต้องระมัดระวังและทำอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้ปรอทเข้าไปลึกมากจนเกินไปและรออย่างน้อย 2 นาที จึงค่อยดึงออกมา 

ใช้ปรอทแก้ววัดไข้ทางทางรักแร้

หากต้องการใช้ปรอทวัดไข้แบบแก้ววัดอุณหภูมิทางรักแร้ ให้สอดปรอทเข้าไปใต้แขน โดยส่วนปลายกระเปาะจะอยู่ที่กึ่งกลางของรักแร้ หลังจากนั้นให้ปล่อยแขน และหนีบปรอทไว้ รอเวลา 2- 3 นาทีเป็นอย่างต่ำ จึงค่อยดึงปรอทวัดไข้ออกมาเพื่อดูอุณหภูมิของร่างกาย 

ใช้ปรอทแก้ววัดไข้ทางปาก

หากต้องการใช้ปรอทวัดไข้แบบแก้ววัดอุณหภูมิทางปาก ผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยงการดื่มหรือรับประทานอาหารร้อน ๆ เพราะอาจทำให้อุณหภูมิคลาดเคลื่อนได้ วิธีวัดไข้ต้องอมปรอทไว้ โดยให้กระเปาะของปรอทอยู่ใต้ลิ้น ห้ามกัดหรือเคี้ยวเด็ดขาดหลังจากนั้นปิดปากให้สนิท รอเวลา 2-3 นาที จึงค่อยดึงปรอทวัดไข้ออกมาดูอุณหภูมิ 

ปรอทวัดไข้แบบแก้วมีวิธีการดูอย่างไร

• อุณหภูมิ 6-38.3 องศาเซลเซียส แสดงว่ามีไข้ต่ำ
• อุณหภูมิ 4-39.4 องศาเซลเซียส แสดงว่ามีไข้ปานกลาง
• อุณหภูมิ 5-40.5 องศาเซลเซียส แสดงว่ามีไข้สูง
• อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียสขึ้นไป แสดงว่ามีไข้สูงมาก จะต้องรีบเช็ดตัวผู้ป่วยให้อุณหภูมิลดลง หากอาการยังไม่ดีขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

ทั้งหมดนี้คือ ปรอทวัดไข้แบบแก้ว และวิธีการใช้งานของปรอทแก้ววัดไข้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด และป้องกันไม่ให้อุณหภูมิเกิดการคาดเคลื่อน ควรทำตามคำแนะนำในข้างต้น ที่สำคัญต้องใช้งานด้วยความระมัดระวังด้วยเพราะหากปรอทวัดไข้แตก อาจทำให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ตามมาได้

ขอบคุณข้อมูลจาก Rakmor