"ก้างปลาติดคอต้องผ่าออกเลยนะเพราะมันเป็นหนอง" "ก้างปลาติดคอต้องไปให้หมอเอาออก" "ก้างติดตคอไปหาหมอเหอะมันล้วงไม่ออก" "ก้างปลาติดคอเกือบตาย" ทำไมแค่ก้างปลาติดคอต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนั้น ? แค่เอามือล้วงดึงออกมาก็ได้ไม่เห็นจะยาก......แค่นี้สำออยทำเป็นไปหาหมอ ประโยคหลังนี้พูดหลังจากที่รู้สึกว่าคนที่ก้างปลาติดคอต้องทำขนาดนั้นเชียวหรอ ไล่หลังไปไม่เกิน 3 วัน กรรมยุคติจิตอลแบบไร้สาย ก็มาถึงตัว พระเจ้ากำลังหม่ำน้ำพริกปลาทูฝีมือแม่ที่หอบมาถึงโรงพยาบาลเยี่ยมหลานที่ป่วยมใน " โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา" ก้างเจ้ากรรมที่ผ่านปราการลิ้น-ฟัน เข้าไปปักเอาตรงบริเวณปากทวารก่อนไหลลงหลอดอาหาร ทันทีที่สัมผัสได้ว่า เจอเข้าให้แล้ว "ก้างตำคอ" มันเป็นอย่างนี้เอง จำได้ครั้งสุดท้ายที่เผลอให้ห้างไหลลงคอนั้นเมื่อตอนยังเด็ก เพราะตอนนั้นยังร้องไห้ยังกับถูกตะปูทิ่ม แต่ยายคือหมอที่วางใจได้เสมอในกรณีนี้ ยายไม่ใช่หมอที่มีปริญญา แต่ยายมีกรรมวิธีเอาก้างออกเช่นเดียวกับหมอ ต่างก็ก็แค่เครื่องไม่เครื่องมือ ที่ใช้ ยายไม่มีเครื่องมืออะไรที่หาได้รวดเร็วและแม่นยำไปกว่า "มือ" เมื่อบวกกับความเชื่อมั่นว่าจะต้องบังคับให้หลานง้างปากยอมให้ยายล้วงมือเข้าไปด้วยแล้วละก็ เตรียมตัวเจ็บ "น้ำตาเล็ด" ได้เลย ยายไม่ต้องพึ่งไฟฉาย หรือคีมฆ่าเชื้ออะไร ทันทีที่เห็นหลานทำท่าอึกอักๆ โคกคาก อยู่ในลำคอ ยายไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปนาน ใช้นิ้วที่ถนัดที่สุด ควานหาเป้าหมายภายในทันที เมื่อสะดุดกับเป้รหมายแล้ว หลานร้องใช่ๆๆ แค่นั้นยายก็ล้วงออกมาชูหลาอยู่ในมือ อวดความยาว-ใหญ่ของก้าง เสมือนประกาศให้คนอื่นรู้ว่า "ดูมันอันเบ่อเริ่มกลื่นเข้าไปได้" จากนั้นเป็นต้นมาก็พยายามมองแล้วมองอีกไม่ให้เศษก้างเขาไปตำคอได้อีก กระทั่งได้มาพบกับคนที่ก้างปลาติดคอต่อหน้าต่อตากลับทำอะไรไม่ถูก บอกได้แต่เพียงว่าให้เอามือล้วงออกเดี๋ยวก็ออกเอง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำเป็นเรื่องใหญ่ ไปหาหมอให้หมอคีบออกเราก็คิดว่า แค่นี้ต้องไปหาหมอด้วย ดูถูกสารพัด หลังจากที่พยายมจะปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ กลืนข้าวเหนียวและล้วงมือเข้าไปควานหาแบบที่ยายทำ แต่ก้างเจ้ากรรมก็ไม่ยอมออกมา สรุปจึงต้องไปหาหมอ ตอนนั้นก็ยังงงว่าทำไมล้วงไม่ออกทั้งที่ดูมือก็น่าจะยาวกว่ายายอีก สุดท้ายคำตอบก็มาเฉลยเอาเมื่อตอนที่เจอกับตัวเอง หลังจากที่กินน้ำพริกปลาทูกลืนก้างเข้าไป ซึ่งพยายามล้วงมือเข้าไปเอามันออกมาแล้วแต่ก็ทำได้แค่สะกิดปลายก้างซึ่งปักหลักเสมือนเสาเข็ม อาเจียนจนน้ำตาไหล นึดขึ้นได้ว่า ขืนปล่อยไว้นานอาจจะต้องผ่าออกเหมือนกับที่เกิดกับหลายคนมาแล้ว จึงวิ่งลงไปที่ห้อง ไอซียู ชั้น 1 โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีราชา บอกพยาบาล ว่าก้างติดคอแต่ทำท่าทางเหมือนกับหัวแตกหรือต้องการหมอห้ามเลือดด่วน พยาบาลจึงส่งขึ้นเตียงให้นอนรอหมอ พร้อมกับบอกว่า อีกรายมารอก่อนแล้วด้วยอาการเดียวกัน อ้าวเราแซงเขาหรอ ! แต่หมอก็เลือกตรวจเราก่อนโดยการเข้ามาพ่นยาชา รีบบอกหมอว่า คีบเลยไม่ได้หรอเพราะมันไม่ลึกมือล้วงเข้าถึง แต่หมอบอกว่าเพื่อไม่ให้เกิดอาการอาเจียนหรือรู้สึกเจ็บ พระเจ้าหมอเข้าใจผิดว่าเรากลืนอะไรเข้าไปหรือเปล่า บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์หมอพ่นยาชาแล้วก็หายไป ปากเริ่มมึนชา ไม่รู้สึกก็มีหมออีกคนเดินมาพร้อมเครื่องมือ ดึงเอาก้างออกมาโชว์ให้ดูบอกว่าไม่น่าใช่ก้างปลาทู นะเพราะใหญ่กว่า "หมอค่ะถ้าไม่ใช่ปลาทุก็คงเป็นก้างปลาร้าคะ" แต่ไม่น่าใช่เพราะมันคือน้ำพริกปลาทู คีบออกเรียบร้อยแล้วหมอบอกว่า เอายาแก้อักเสบกับแก้ปวดไปกินด้วยนะ หา "หมอคะไม่รับยาได้ไหมค่ะ" หมอ : ไม่ได้หรอกก้างปลาก็เหมือนกับตะปู ถ้าเหยียบตะปูก็ต้องกินยาเหมือนกัน" : ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ติดบ่อยไม่เคยต้องกินยาปกติก็เอาออกเอง คงไม่ถึงกับอาการเหยียบตะปูหรอกค่ะ" หมอ : ไม่ได้หรอกถ้าเกิดอักเสบขึ้นมาละ ยังไงก็ต้องกิน ; ขอโทษนะคะหมอพอดีว่าเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละ 500 บาท เกรงว่าหากรับยาอีกค่าใช้จ่ายจะเกิน" หมอ: โอเคที่บ้านมียาไหมก็ไปกินแล้วกัน : ไม่ทราบว่าค่ารักษาแพงไหมคะ หมอ : ไม่ตอบ : ถึง 300 ไหมคะพอดีว่ารีบลงมาลืมหยิบเงินลงมา หมอ : คงไม่เกินนั้น พอไปจ่ายเงิน 900 บาทค่ะ "หา ทำไมแพงจัง" จึงต้องบอกพยาบาลว่าให้รอสักครู่จะไปหยิบเงินก่อน หันมาถามว่า มียาไหมค่ะ(เผื่อว่าจะไม่เอา) คำตอบคือ " ไม่มีค่ะ" แค่เอาก้างออกแพงงี้เลยหรอ กรรมสนองจริงๆ ว่าคนอื่นไว้เยอะเจอก้างปลาทู 900 บาท ซึ้งเลย ยังไงใครก้างติดคอก็เลือกโรงพยาบาลนิดหนึ่งนะเพราะว่าที่นี้แพงอย่างไม่น่าให้อภัยจริงๆ แต่โชคดีที่ ก้างปลาติดคอเป็รนอุบัติเหตุเบิกได้ครั้ง 5 พัน รอดไป แต่นึกถึงคนที่ไม่มีเงินสิ ก้างติดคอที่ต้องล้วงกันหน้าดำหน้าแดง หรือบางทีต้องทรมานเพราะค่าเอาออกแพงเหลือเกิน แต่บางที่ก็ไม่แพงขนาดนี้นะ 300 กว่าบาทมียาด้วย 900 บาท กับความเซ่อซ่าของตัวเอง |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มีนาคม 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |