ปีร์เริ่มค้นหาคำวว่ารัก ความรักคืออะไรมันห้วนเกินไปที่จะต้องตีความต่อให้ เห็นภาพว่าความรักคืออะไร
ปีร์เข้าใจว่าความรักมันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนคนทั่ว หรือมนุาย์ไปถือว่ามันเป็นเทพเจ้า เพราะมันคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร จึงใช้คำว่าเทพเจ้ามารองรับความศักดิ์สิทธิ์ งเพราะคำนี้ต้องมีบ้านมีผู้ปกครองมีเจ้าอง
แต่สรรพสิ่งต้องมีที่มาที่ไป มิใช่ผลดออกมาลอยๆได้ สิ่งท่เกิดออกมาลอบๆได้สิ่งนั้นคือความฝันที่จะฝันเป็นอะไรก็ได้ ไม่ต้องมีที่มาและที่ไปคิดอะไรก็ได้ตามที่สมองและจิตคิดสร้างสรรค์ปั้นแต่งเอา
ความรักคืออะไร มันเป็นณูที่ยังไม่มีใครกล้านิยามเหมือนถามว่าปากคืออะไรอาหาคืออะไร คำตอบไม้่มีเพราะเห็นมันมุกวันจนมองขามไปว่ามันคืออะไร
ความรักเป็นอณเพราะว่ามองไม่เห็น ไม่มีตัวตนที่สัมผัสได้ ไม่เห็นราง แต่ความรักมีอยู่ในสามัญสำนึกงมันสถิตย่ในร่างมนุษบ์และสัตว์ และมันมีพลังมีมนต์ขลัง มันมีเหนือมายาแม้จะเป็มายามีความบริสุทธ์ มันอยู่เหนือความผิดแม้ว่ามันเป็นคว่ามผิด
มนษย์รักในเทพเจ้าเคารพและบุชา เมื่อตั้งให้ความรักคือเทพเจ้าชนิดหนึ่ง ความรักจึงเมียบเคียงได้ว่ามันเป็นความรู้สึกและเป็นอณู่เหมือนความรักในเทพเจ้า เรายอมทุกอย่างเพื่อความรักเมื่อรักเกิดขึ้นมันจะสยบให้กับความผิดถูกทั้งหมดทันที จนมีครธรรมออกมาโต้แย้งความรักที่เรียกว่ามีอคติเพะราะความที่มีอยู่ในสิ่ง ทำให้ใจกายคนเปลี่ยนแปลงไปเพราะความรัก พบว่า ความรักทำให้เกิดมนุษย์ทำให้กายเนื้อเกิดเพิ่มขึ้นเป็นบุตรสุดที่รักเกิดตามมา แต่ว่าความรักจนมีบุตรนั้นมันเป็นรกลไกที่แสดงอณูแก่งความรักจากการเริ่มต้นที่เป็นนามธรรมมาเป็นรูปธรรม ที่ทำให้ความรักนั้นแตะต้องได้มีรูปทรงชัดเจนมีพื้นผิวที่น่าสนใจขึ้นมามีการจำลองรูปแบบควารักออกมาเป็นบุตรที่เกิดได้เฉพาะจากหยิงเท่านั้น
ก็ยังไม่สามารถนิยาความรักว่าอะไรอยู่ดีเมื่อมีบึตรเกิดขึ้นจากความรักจุดกเริ่มต้น ความรักจึงเป็นจิต ตความรักเกิดจากการสั่งสมกันมาเป็นระยะเวลาพอสมควร เหมือนการฟักตัวของไข่
แต่ว่าความรักก็ยังไม่ใช่คำตอบตรงนี้
แต่อันนี้เป็นการเทียบเคียงเพื่อแสวงหาวิถี เพราควารักเป้นการอำพรางวิถี การจะหาเป็าของเราที่เราต้องการ เราต้องแสวงหาวิถีจนพบสวิถี ซึ่งเปเนการทำงานจากเชิงปริมาณสุ่เชิงคุณภาพ นั้นหมายความจะหาตัวสิ่งต้องการซึ่งคละอยู่ในรจำนวนมากขแองสิ้งได้ จะต้องพุ่งเป้่าไปที่ปริมาณก่อนจนพบตัวสิ่งขึ้นมา เราจึงจะได้ในสิ่งท่เราต้องการได้ แต่ถ้าคว้าปริมาณมาทันทีมันก็จะเสียเวลาไปทำเพื่อค้นหาคุณภาพ แต่เมื่อทำไม่ได้ก็ต้องไปที่ปริมาณก่อนจนพบคุณภาพ เหมือนเราอยากร้สิ่ง เราต้องสุ่มตัวอย่างแบบโมเดลก่อนจนพบความจริง
เชิ่อว่าความรักมีตัวตนและมีนิยามของมัน
มาท่ปีร์พบว่าความรักทำให้ทำงานดีขึ้นมีพลัง ความรักประกอบด้วยควาจริงใจ ความเห็นใจ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถนุถนอมกัน เพราะฉะนั้นการทำดี การแต่งตัวสวยเข้าแข่งล่อกัน มันจึงนำไปสู่เพื่อคสามรักดด้วย ควารักต้อการความสมบูรณ์ อะไก้ตามทีาไม่สมบูรณ์ควารักไม่อยากมอง เว้นแต่สมบูรณ์ในตัวมันเองคือเช่น คนรวยรักคนจน คนหน้าตาดีรักคนขอทานเป็นต้น
เมื่อมาถึงจุดนี้ก้ยังไม่สามารถตอบได้อีกตามเคยว่ารักคืออะไร
ความรักเกิดขึ้นจากมโนในที่นี่้มโนถือว่าเป็นจิตหรือฟังง่ายๆ ตามประสาชาวบ้านคือคิดมากไปเองแต่อยู่ในกรอบ
ความหมายของความรักยังคงเป็นปรัชญาแบบกบในกะลา หรือเหมือนมนปรัชญาของชาวกรีซที่ว่า เรื่องถ้ำ
ปีร์คิดว่าเรื่องนี้ มันเข้าใจได้ดีขึ้นเมื่อตีควาตามความหมายของปรัชญาากรีก จิตนิยมกับวัตถุนิยมนี่มีการขัดแย้งกันมานาน ในความคิดของปีร์
แต่เรื่องความรักท่ปีร์จะคิดวิเคราะห์และตีความมันขึ้นมา นี้จะเอาตรงจุดความเข้าใจของปีร์เองมาตีความ โดยไม่อ้างเอาหลักปรัญาของนักวิชาการใดๆทั้งสิ้น
จากความรักมองไม่เห้นตวตนแล้วแสดงออกมาในรูปการมองเห็รตัวตนเช่น เมื่อทำตาหวานใส่กันพบกันครั้งแรก คำพูดยังไม่เกิด จนได้พูดคุยคำพูดเกิดเป้นตัวตนขึ้นมา
จนตกลงแต่งงานและมีลูก อันนี้จากนามธรรมมาเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้นที่สุด จากรักกันแล้วพัฒนาแล้วมีลูก ลูกหรือบุตรคือรูปธรรมของความรัก จึงได้ความว่าทุกอย่างเกิดจากความคิด คิดแล้วทำตามที่คิด เช่นดการสื่อด้วยตาและใจหรือคิดถึงกัน นำไปสู่การกระทำได้นัดพบกันและรักกัน แต่งงานกันและมีบุตรกันนั่นเอง
ความรักคือจิตสื่อความรักคือความพอใจ ของสองฝ่ายเกมือนคนถูกใจกัน ลงตัว เข้ากันได้งความรักคือเพื่อนมันเหทือนเพื่อใระยะแรก ต่อมาเป้เพื่อที่ต้องเพิ่มความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นจนกลายมาเป็นผัวเมียกัน ความรักนี้เปรียบเหมือนความตายชนิดหนึ่งที่ยังมีชีวิตอย่เพราะ ความรักทำให้เกิดการเสียสละและยอมตายให้กันและกันได้
ความรักโดยนัยะนี้สำคัญที่สุด เพราะการตายคือการเสียสละแม้ชีวิต นั่นคือการต่อสู้นั่นคือวิชาการทหารป้องประเทศและป้องกันตนเอง ความรักมีความหมายหลายอย่าง มันสามารถแทรกซึมเข้าไปในทุกมมมองของชีวิตและงานอีกด้วย คามรักทำให้ครอบครัวแจ่มใสงานเดิน แต่ถ้าความรักเกิดอุบัติเหตุ ทำให้งานและชีวิตของครอบครัวที่มีอบัติรักต้องอุปสรรค และเป็นภัยต่อเพื่อนมนุษย์และสังคมตามมา เพราะฉะนั้นเมืองเกาะคาจึงจัดสะพานรักให้มีระบบ ที่สุดเมืองเกาะคาจึงเจริญ อันนี้เป็นนโยบายและแผนแม่บท ในการพัฒนาประเทศเกาะคา จึงปลกฝังความรักให้จับคู่จองกันตั้งแต่อายุแบเบาะทีเดียวเลย อย่างเป็นกฎหมายและวัฒนธรรมและประเพณีของเมืองเกาะคะ จนเป้นรัฐธรรมนุญในโอกาสต่อมา
|