สื่อไม่ควรเป็นกลาง เป็นกลาง เป็นคุณสรรพที่น่ากลัว ถ้าเราสรุปว่า สื่อต้องเป็นกลางเท่านั้น จากเมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่คุยกับคุณว่า กระแสงานข่าวกำลังมาแรง แต่ถ้าไหลตามกระแสนั้นอย่างรวดเร็ว ก็ไม่เหนื่อยดี แต่แล้วก็ต้องรีบดึงตัวเองออกจากกระแสนั้นเพื่อนั่งคิดให้ดีก่อนว่า มาถูกทางไหม และใช้ความเร็วมากเกินไปหรือเปล่า ช่วงนี้มีผู้รู้และนักคิดหลายท่านได้ชวนดิฉันนั่งคุยว่า สื่อกำลังทำหน้าที่เต็มกำลังและวิ่งไปถูกทางจริงหรือ...ดิฉันเชื่อว่าทุกสื่อทุกค่ายกำลังทำหน้าที่ของตัวเองเต็มสูบและตั้งใจดีให้งานมีประโยชน์ แต่กำแพงแก้วเพดานล่องหนอาจทำให้เราอยู่กับที่วิ่งไปไหนไม่ได้หาทางออกที่ดีกว่าไม่เจอ สื่อโทรทัศน์โดนวิจารณ์มากในช่วงที่ผ่านมาว่า ถูกครอบงำ ไม่เป็นกลาง รับใช้ฝ่ายนั้น เลียขาฝ่ายนี้ เอียง...ต่างๆ นานา ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คนทำงานสื่อต้องพิจารณาตัวเอง แต่แม้คำนั้นจะมาจากคนที่ไม่ได้อยู่ตรงกลางเสียเอง สื่อก็ยังต้องเปิดใจน้อมรับคำกระทบความรู้สึกนั้นเช่นกัน เพียงแต่ต้องยึดจุดที่เรายืนให้มั่นแล้วก้าวต่อไป เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่จะมี คำวิจารณ์จัดตั้ง เพื่อทำลายความมั่นใจ ทำร้ายความรู้สึก ถ้ามีฝ่ายหนึ่งรักเราเห็นว่าเราทำงานดี เป็นกลาง ตรง กล้า อีกฝ่ายก็จะมองว่า เราทำงานแย่ เอียง ก้าวร้าว เลือกข้าง เสียงสะท้อนเหล่านี้จะมีเข้ามาปะปนกับความรู้สึกของผู้ชมตัวจริงอยู่เสมอ ทั้งที่ความจริงแล้วสื่อไม่ควรเป็นกลางซะด้วยซ้ำ หากคำนิยามของ เป็นกลาง หมายความว่า ไม่มีวิจารณญาณ แยกแยะถูกผิดไม่ออก ไม่กล้าบอกขาวดำ หน้ามึนไปเรื่อย คิดแค่ว่าปลอดภัยไม่โดนด่าเป็นพอ...ซึ่งก็ควรจะพอจริงๆ แล้วหยุดหน้าที่ตัวเองไป เพราะทำงานไปก็ไม่สร้างประโยชน์แก่สังคม แต่ถ้า เป็นกลาง คือ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ลำเอียง ไร้อคติ สื่อถึงจะสมควรเป็นกลาง คุณสุทธิชัยเคยบอกว่า คำว่า เป็นกลาง ในภาษาไทยอาจถูกแปลหรือตีความผิด แต่ถ้าเทียบเป็นภาษาฝรั่ง สื่อควร impartial ไม่ใช่ neutral มีนักคิดคนหนึ่งพูดกับดิฉันว่า คุณขวัญ ทำไมเรายังต้องการให้สื่อเป็นกลางอยู่อีก ผมว่ามันไม่ชัดเจน มันเป็นเรื่องปกติที่สื่อเองต้องมีจุดยืนทางใดทางหนึ่ง แต่ถ้าเราต้องการให้สื่อทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ในความหมายเดียวกับเป็นกลาง เราน่าจะบอกว่า สื่อต้องเป็นธรรม จะตรงความหมายกว่าไหม ดิฉันทำตาโตแล้วก็ยิ้มตอบกลับไปว่า คุณเป็นคนแรกเลยที่พูดกับขวัญว่า สื่อไม่ต้องเป็นกลาง และคำว่าเป็นธรรมก็ชัดเจนที่สุดจริงๆ ถ้าเราต้องการนิยามจุดยืนของสื่อ โดยไม่ต้องตีความหมายคำว่าเป็นกลางที่เสี่ยงจะนิยามต่างกัน หลังจากการทำหน้าที่รายงานหรือสัมภาษณ์ สื่อ ค่ายข่าว หรือแม้แต่คนข่าวมักจะโดนจัดหมวดหมู่เสมอว่า เราอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะกระแสที่ผ่านมาในช่วงที่สังคมแบ่งแยก มีพวก มีขั้ว ทำให้เราแทบจะทุกคนถูกแบ่งแยกตามไปด้วย ทั้งที่ความจริงแล้ว การจัดประเภทไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสรุปในเวลาสั้นๆ ว่า ใครยืนฟากไหน อยู่ข้างใคร การสัมภาษณ์เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่ทำให้คนทำสื่อโทรทัศน์ถูกจัดกลุ่ม ที่จริงแล้วในการสัมภาษณ์โดยเฉพาะสัมภาษณ์คนที่ทำงานการเมือง คนทำหน้าที่ต้องตั้งคำถามตรงในประเด็นที่ชัดเจน ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่เพื่อ รุก-ต้อน-ไล่บี้ เพื่อให้แขกรับเชิญจนมุมแล้วก็สับจนเละ แต่หน้าที่ของเราคือ ถามในสิ่งที่ประชาชนต้องการรู้ มีสิทธิจะรู้ ในทางกลับกัน ดิฉันก็แน่ใจว่าผู้ถูกสัมภาษณ์ส่วนใหญ่ที่ใจกว้างและเข้าใจหน้าที่สื่อ ก็ต้องการให้เราถามแบบนั้นเช่นกัน เพราะนั่นคือโอกาสที่ดีของเขาที่จะได้พูดในสิ่งที่ประชาชนสงสัย และเมื่อมีคนกล้าถาม แต่ละท่านก็จะมีโอกาสได้พูดให้ชัดเจน ผลที่ควรออกมาคือ คนที่สงสัยจะได้ฟังคำตอบต่อคำถามในใจ และคนที่ต้องตอบนั้นก็จะสบายใจมากขึ้นที่ได้พูดในสิ่งที่หลายคนสงสัยอยู่ แต่ในช่วงนี้พอเราสัมภาษณ์แล้ว ทั้งผู้ถามและผู้ตอบ ยิ่งถูกจัดประเภทชัดขึ้น เป้าหมายจริงๆ ของงานกลายเป็นประเด็นรอง ขณะที่สิ่งซึ่งกลับขึ้นมาเป็นเรื่องแรกๆ กลายเป็นว่า ไล่บี้, จับผิด, ชงคำถาม, อวยพวกเดียวกัน และปิดท้ายสุดคลาสิคว่า ไม่เป็นกลาง! แต่ก็มีเสียงสะท้อนไม่น้อยที่มองเห็นว่า เออ หายสงสัย, อืม เข้าใจคนตอบคนนี้มากขึ้นนะ, อ๋อ อย่างนี้เหรอ...แต่เสียงสะท้อนที่ว่านี้อาจจะเบาสักหน่อย หลายคนมองเห็นปัญหานี้ จึงไม่แปลกใจที่ช่วงปีที่ผ่านมา มีคนชวนดิฉันคุยเรื่องบทบาทและหน้าที่ของสื่ออยู่บ่อยๆ และดิฉันก็อธิบายซ้ำๆ ว่า สื่อถูกบีบรัดในหลายด้าน ทั้งคำนิยาม ความคาดหวัง ค่านิยม ความนิยม มาตรฐาน คำวิจารณ์ ผู้น้อยอย่างดิฉันมองว่า เหล่านี้คือสิ่งที่เราควรสวนกระแส แม้ว่าธุรกิจข่าวโทรทัศน์จะเป็นขาขึ้นและกำลังวิ่งเร็ว และเราอาจใช้ความเร่งมากไปและเสียดายแรงดันแรงดันกระแสกันอยู่หรือเปล่า...ถ้านั่งสบายๆ รายงานผิวๆ ว่ากันไปเนียนๆ ยิ้มหวานๆ ก็ดีอยู่ ไม่ต้องรับแรงกระแทก แต่ผู้ชมจะได้อะไร แล้วดิฉันจะกล้ายืนยันกับผู้ชมหรือว่า ได้ทำงานรับใช้ทุกท่านอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว
สื่อต้องชี้นำ ชี้นำ เป็นกิริยาสุดสะพรึง ถ้าเราคิดว่า สื่อห้ามชี้นำเด็ดขาด คำอธิบายว่า ชี้นำ คืออะไร คงเป็นทางออกเดียวเหมือนกับการนิยามคำว่า เป็นกลาง เพราะถ้าเรามีคำจำกัดความเดียวกันก็น่าจะทำให้เรามีมาตรฐานทางความคิดไปทางเดียวกัน แม้จะคิดต่างกันก็ตาม เพราะความจริงแล้ว ก็มีคนไม่น้อยที่บอกว่า เป็นสื่อก็ต้องชี้นำในทางที่ถูก ถ้าการชี้นำ คือ การชี้ผิดจุดและนำไปผิดทาง...ก็แน่นอนว่าไม่ควรทำ แต่ถ้าชี้นำไปถูกที่ถูกทาง...ก็ต้องทำ แต่เมื่อเทียบนิยามกับการทำหน้าที่จริง มันไม่ง่ายขนาดนี้น่ะสิคะ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่า เรากำลังชี้นำเรื่องอะไร กับใคร เพื่อสิ่งใด ยกตัวอย่าง การรายงานข่าวช่วงก่อนเลือกตั้ง ทุกพรรคพูดเรื่อง เรียนฟรี รักษาฟรี ในการรายงาน เราพูดแค่ว่าพรรคนั้นพรรคนี้มีนโยบายที่ว่าก็ได้ แต่ถ้าชี้ของจริงว่า เรียนฟรีมันเป็นเรื่องที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ตั้งแต่ก่อนจะถูกฉีกแล้ว แล้วรัฐบาลช่วงนั้นทำไมไม่ทำซะล่ะคะ เรื่องนี้ไม่ใหม่เลย แล้วเรื่องนี้ไม่ว่าพรรคไหนขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำ เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ก็เขียนไว้เหมือนเดิม สำคัญที่ว่าทำให้ได้สักทีเถอะค่ะ อย่างนี้จะแปลว่าคนรายงานชี้นำผิดๆ และทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคที่เคยเป็นรัฐบาลในช่วงใช้รัฐธรรมนูญปี 40 หรือเปล่าคะ การชี้นำจะถูกนำไปผูกโยงกับความเป็นกลาง เพราะสองคำนี้มักจะถูกนิยามต่างกันในความคิดแต่ละคนและในคนแต่ละกลุ่ม ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่คนพูดฝ่ายเดียวว่าเป็นกลางและชี้นำผิดหรือไม่ แต่อยู่ที่ผู้ฟังด้วยว่าได้ฟังอย่างเป็นกลางและมีมุมมองต่อการชี้นำอย่างไร หน้าที่รับผิดชอบของคนที่ทำงานกับการตรวจสอบและนำเสนอข้อมูล ไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งที่ประชาชนควรรู้ได้ แต่การรายงานนั้นย่อมต้องมีแรงกระแทกกลับจากคนที่เสียประโยชน์หรือผู้ที่คิดต่าง ซึ่งในสังคมเสรี เราย่อมต้องเข้าใจและเคารพความแตกต่างนั้น หัวข้อสำคัญสำหรับการทำงานสื่อสารมวลชน คือ การเฝ้าดูสังคมอย่างไม่วางเฉย เพราะสังคมเติบโตและเปลี่ยนแปลงทุกวัน ซึ่งหมายความว่า ความแตกต่างและหลากหลายย่อมจะเกิดขึ้นทุกวินาที และสิ่งที่สื่อมวลชนควรจะทำต่อความหลากหลายและแตกต่างนั้น คือ การทำให้ค่านิยมเดิมเติบโตและปรับเปลี่ยนไปด้วย เพราะบรรทัดฐานหลายอย่างไม่สามารถยืนอยู่ได้ตลอดไป ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องการแต่งตัวรัดรูป สั้นกุด เปิดเผย ของเด็กผู้หญิง สมควรถูกวิจารณ์...จริงหรือ? ในเมื่อเราพยายามจะผลักดันความเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจในตัวเอง รู้จักคิด รู้จักทำ ใส่หัวเด็กรุ่นหลังเสมอ สมมติว่ามีข่าวเด็กสาวที่แต่งตัวอย่างนั้นถูกข่มขืน เราควรโทษว่าเด็กเหล่านั้นเป็นผู้ชักนำภัยมาสู่ตัวเอง...อย่างนั้นหรือ? ในเมื่อไม่มีใครมีสิทธิข่มขืนหรือกระทำการทางเพศใดๆ โดยปราศจากความยินยอม ไม่ว่ากฎหมายจะเขียนกำหนดไว้อย่างไรก็ตามมิใช่หรือ มีสองอย่างที่เราน่าสนใจคือ หนึ่ง การออกความเห็นส่วนตัวในเรื่องบางอย่าง ถ้าผู้รายงานข่าวนั้น มีอาวุโสทั้งด้านวัย ความรู้ และประสบการณ์ และที่สำคัญคือมีข้อมูลจริงในเชิงลึก เป็นน่าจะสมเหตุผลให้เกิดการวิพากษ์ในการรายงานข่าวไปด้วยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เป็นกลาง หรือชี้นำ เพราะการตรวจสอบจะเกิดขึ้นกับตัวผู้วิพากษ์เองว่า เรื่องนั้นแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร เป็นอย่างนั้นจริงหรือเลอะเทอะ เพราะถ้าเป็นอย่างหลังสิ่งนั้นจะมีผลและเป็นบทเรียนต่อคนทำงานสื่อในแง่ความน่าเชื่อถือ และทำให้ระยะในการยืนของเส้นทางงานสั้นลงไปเอง สอง การออกความเห็นส่วนตัวของผู้รายงานที่ยังไม่มีอาวุโสเป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่จะฟังไม่ได้ เพราะกรณีนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมมีความเข้าใจในความหลากหลายและแตกต่าง หากแต่ต้องอยู่บนเหตุผลและเป็นการสะท้อนแทนกลุ่มคน มิใช่ส่วนตัวคนเดียวโดดๆ ถ้าดิฉันออกความคิดเห็นในรายการว่า จะไปโทษเด็กผู้หญิงที่ถูกข่มขืนฝ่ายเดียวว่าแต่งตัวโป๊ ทำให้ถูกข่มขืนก็ไม่ได้ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขานะคะ จะมาใช้เป็นข้ออ้างมาข่มขืนได้ยังไง... อย่างนี้จะเข้าข่ายชี้นำ ให้ท้าย และส่งเสริมให้น้องๆ ผู้หญิงแต่งตัวโป๊หรือไม่คะ เพราะประโยคจบของข้อความทั้งหมด คือ แต่น้องๆ ก็ต้องคิดเผื่อด้วยนะว่า การแต่งตัวแบบที่เราชอบตามสิทธิของเรามันคุ้มหรือเปล่า ในเมื่อเราก็ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นไม่ได้ เพราะดิฉันคิดว่า สิทธิยังเป็นของทุกคน แต่งตัวโป๊ไม่ใช่เรื่องต้องด่า ถูกข่มขืนไม่ใช่เรื่องต้องซ้ำเติม แต่เขาต้องคิดให้เป็นว่า ข้อดีข้อเสียของการใช้สิทธินั้นมีอะไร แล้วชั่งน้ำหนักให้เป็น ช่วงหลังมานี้ การออกความคิดเห็นส่วนตัวในการรายงานข่าว มักถูกวิจารณ์และกลายเป็นเรื่องต้องห้าม ซึ่งดิฉันกลับเห็นต่างออกไปว่า นั่นคือการปิดกั้นค่านิยมของสังคมไม่ให้ขยับเปลี่ยนรูป การชี้นำบางอย่างเกิดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจความหลากหลาย-เพื่อไกล่เกลี่ยความแตกต่าง-เพื่อส่งสัญญาณให้ตรวจสอบ หรือเพื่อเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น ถ้าเรานิยามการ ชี้นำ ในทางเดียวกัน แม้เราจะคิดต่อประเด็นที่ชี้นำนั้นต่างกัน เราก็จะเข้าใจตรงกันอยู่ดีว่า ทำไมสื่อถึงจำเป็นต้องชี้นำค่ะ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
Timeout | ||
![]() |
||
555 ;D |
||
View All ![]() |
Dancing! | ||
![]() |
||
Lovely:) |
||
View All ![]() |
<< | มกราคม 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |