*/
oh.......my buddha!!! | ||
![]() |
||
THX>>[wiki] [p'tia] [p'sos] [untoneo] & [p'gone] |
||
View All ![]() |
<< | ตุลาคม 2007 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |
7 ปีให้หลัง นับจากปีสหัสวรรษที่บรรดาผู้คนทั่วโลกพากันตื่นเต้น ในครั้งนั้น ทุกวินาทีที่ผ่านไปราวกับเป็นวินาทีทองที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอุบัติใหม่ ท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการ ตรงกันข้าม...จิตใจคนกลับดำดิ่งสู่ความตกต่ำ อดีตนั้นชาวสุเมอร์ต่างก็ร่วมใจกันทำการเกษตร จนเกิดผลผลิตล้มหลามสร้างความมั่งคั่งในดินแดนอันอุดมขึ้นเรื่อยๆ ผู้นำของพวกเขาในสมัยนั้นก็คือ "นักบวช" ผู้ซึ่งเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างเทพเจ้ากับชาวบ้าน ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือแด่นักบวช ผู้ที่เขาไว้วางใจมอบอำนาจในการบริหารดูแลจัดการพืชผลและสินค้าทั้งหมด สูงกว่านักบวชก็คือ "เทพเจ้า" ซึ่งพวกเขาต่างแสดงความขอบคุณเป็นล้นพ้นที่ได้ประทานความสมดุลให้แก่ดินแดน พร้อมกับใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เทพเจ้าพิโรธโกรธกริ้ว เกิดบันดาลโทสะให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ หรือน้ำหลากท่วมพืชผลตลอดจนบ้านเรือนเสียหาย เวลาต่อมา คนใหญ่คนโตประเภท "ผู้นำตระกูลมั่งคั่ง" ก็ได้แผ่อำนาจสู่อาณาจักรเข้าเคียงคู่กับนักบวช (แม้จะยังให้ความเคารพอยู่ก็ตาม) กระทั่งมีการก่อตั้งสภาอาวุโส และนครรัฐต่างๆ แบ่งแยกการปกครองกันตามพื้นที่ โดยเกิดเป็นเมืองขนาดใหญ่ล้อมรอบวิหารที่นักบวชอยู่นั่นเอง เมื่อมีความอุดมสมบูรณ์ มีนครรัฐ และมีอำนาจ ก็ย่อมจะนำมาซึ่งการสงครามในที่สุด ทั้งนี้ผู้คนต่างพลีชีพเพื่อการแย่งชิงดินและน้ำซึ่งนับเป็นทรัพยากรอันมีค่าอย่างมากในขณะนั้น และแน่นอนว่า ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น จึงจะได้กุมอำนาจสูงสุดกระทั่งตั้งตนเป็น "กษัตริย์" จากนั้นจึงเสริมอำนาจบารมีตนเองด้วยการสร้างพระราชวังขยายอำนาจสืบไป โดยไม่ลืมอวดอ้างว่าตนได้รับการสนับสนุนจากนักบวชและเทพเจ้า ต่อมาก็อดไม่ได้ที่จะปฏิบัติตนราวกับเป็นเทพเจ้าเสียเอง สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดในสมัยนั้นคือ เมื่อราว 2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในพระราชพิธีศพของกษัตริย์ผู้เกรียงไกรนั้น ได้คาดหวังกันไปถึงภพหน้า จึงได้รับการเชิดชูเกียรติด้วยการเซ่นสรวงด้วยของมีค่านานา กระทั่งการ "ประหารชีวิตข้าราชบริพาร" เพื่อให้ติดตามไปรับใช้กันต่อในภพหน้า เหล่านี้คือค่าตอบแทนราคาแพงที่ชนชาติในยุคโบราณต้องจ่าย (และยินดีจ่าย) ให้แก่อาณาจักรซึ่งให้อำนาจแก่ผู้ปกครองรัฐอย่างล้นเหลือ ส่งผลให้เกิดช่องว่างในสังคมอย่างมาก ด้วยความลุ่มหลงในอำนาจ ทำให้เมโสโปเตเมียเริ่มเข้าสู่ประวัติศาสตร์ใหม่ เมื่อชาวสุเมอร์อ่อนแอและเสียอำนาจให้แก่ "ซาร์กอน" ซึ่งต่อมาซาร์กอนได้สถาปนาจักรวรรดิที่มีอาณาเขตจากอ่าวเปอร์เซียจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยราชวงศ์ของซาร์กอนครองอำนาจอยู่ได้ไม่ถึงศตวรรษด้วยซ้ำ เพราะบรรดาผู้ปกครองรัฐในเมโสโปเตเมียทั้งหลายต่างก็พยายามเจริญรอยตามซาร์กอน และแย่งชิงอำนาจกันไม่หยุดหย่อน ด้วยหมายครอบครองเมโสโปเตเมียทั้งหมดให้ได้ สุดท้าย ทั้งหมดก็พ่ายแพ้ต่อผู้พิชิตที่หลักแหลมมากคนหนึ่ง คือ "ฮัมมูราบี" จากเมืองบาบิโลน โดยจักรวรรดิของพระองค์ได้ครอบคลุมอาณาบริเวณของเมโสโปเตเมียไว้ทั้งหมดได้สำเร็จ ทั้งนี้ พระองค์ทรงมีมรดกที่ยิ่งใหญ่ คือ การสานต่อการพัฒนาด้านกฎหมายซึ่งชาวสุเมอร์ยุคก่อนได้วางรากฐานไว้ และประมวลกฎหมายของพระองค์ฉบับนี้เองที่ช่วยผนึกเมโสโปเตเมียให้เป็นหนึ่งเดียว แต่ความสงบก็อยู่นิ่งได้ไม่นานนัก ภายหลังจึงเกิดความสั่นคลอนขึ้น เนื่องจากดินแดนอันอุดมแห่งนี้ยังคงตกเป็นเป้าหมายของชนผู้กระหายสงครามจากดินแดนต่างๆ ที่อยู่รายรอบเสมอมา หนึ่งในนั้น คือ ชาว "อิตไทต์" ซึ่งยกทัพมาปล้นกรุงบาบิโลนเมื่อประมาณ 1,595 ปีก่อนคริสต์ศักราช แล้วยึดสมบัติทั้งหมดขนกลับไปยังบ้านเกิดในตุรกี ก่อนจะสิ้นอำนาจลงในราว 1,200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งทำให้เกิดช่องโหว่ในตะวันออกกลาง โดยปัจจัยหนึ่งที่บั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางในเวลาต่อมาภายหลังการล่มสลายของชาวฮิตไทต์ คือ การผลิตเครื่องเหล็ก นั่นหมายความว่า ดินแดนที่สั่งสมความเจริญงอกงามมาช้านานเริ่มเดินทางตามกาลเวลาเข้าสู่ยุคเหล็กในที่สุด ซึ่งนอกจากอาณาจักรยิ่งใหญ่นี้จะมีลักษณะเด่นทางด้านภูมิศาสตร์เป็นของล้ำค่าแล้ว สินแร่ต่างๆ ตลอดจนอาวุธทั้งหลายที่ประดิษฐ์คิดค้นกันขึ้นมาได้นั้นก็กลายเป็นของมีค่าไปด้วย และผู้ที่ก้าวขึ้นมาครองอำนาจต่อจากชาวอิตไทต์ ก็คือชาว "อัสซีเรีย" ผู้ทำการปกครองดินแดนท่ามกลางความวุ่นวายอันมาจากความเด็ดขาด และอำมหิต กระทั่งถึงยุคสมัยของ "เซนนาเชริน" ซึ่งครองราชย์ในขณะที่อัสซีเรียเรืองอำนาจสูงสุดในราว 700 ปีก่อนคริสต์ศักราช แต่ด้วยเทคนิคการปกครองด้วยการขูดรีดอย่างหนักของพระองค์ ทำให้เกิดกระแสการต่อต้าน และในที่สุดพระองค์ก็ "ถูกพระราชโอรสของพระองค์เองโค่นบัลลังก์" ซึ่งต่อมาก็ถูกพระราชโอรสอีกพระองค์โค่นบัลลังก์ที่พี่น้องด้วยกันถือครองอยู่อีกครั้ง แล้วทำการฟื้นฟูระเบียบวินัยและบูรณะกรุงบาบิโลนให้กลับมาสวยสง่าทรงอำนาจอีกครั้ง พร้อมทั้งประกาศตนว่าเป็น ราชันย์ผู้ครองโลก อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวสู่ความรุ่งเรืองระยะสั้นๆ ของบาบิโลนก็ถือเป็นจุดสิ้นสุดของดินแดนเมโสโปเตเมียเช่นกัน สิ่งที่คงเหลือและตระหนักในความทรงจำของชนรุ่นหลังเสมอมาก็คือ ผืนดินระหว่างแม่น้ำทั้งสองไม่เพียงหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนเท่านั้น แต่ยัง "ก่อเกิดศาสตร์และศิลป์ต่างๆ มากมาย" ไม่ว่าจะเป็นนักดาราศาสตร์ชาวบาบิโลนที่ประสบความสำเร็จในการคำนวณการเกิดจันทรุปราคา หรือแม้แต่นักคณิตศาสตร์ที่คิดค้นระบบการคำนวณด้วยเลขฐาน 60 อันเป็นที่มาของระบบเวลา 60 วินาที เป็น 1 นาที 60 นาที เป็น 1 ชั่วโมง รวมทั้งวงกลมที่มี 360 องศาก็ตาม จะเห็นได้ว่า จากจุดเริ่มต้นที่มีเพียงผืนแผ่นดินว่างเปล่าอุดมด้วยดินและน้ำ ต่อมาเมื่อมีการลงหลักปักฐานกระทั่งเกิดความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น อย่างไรก็ดี ความไม่รู้จักพอและอยากได้ใคร่ดี ก็นำมาซึ่งศึกสงครามและการแย่งชิงโค่นล้มอำนาจ ภายใต้ความสับสนอลหม่านและการสูญเสีย การเปลี่ยนมือผู้เป็นเจ้าของ คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมอยู่รอด และผู้ที่อ่อนแอกว่าย่อมตกเป็นเหยื่อ
เฮ้อ...เบื่อจัง แรงบันดาลใจ : ไม่มี...มีก็ไม่บอก ป.ล. เขียนเรื่องนี้เสร็จแล้ว ลงกลุ่มเนื้อหาไม่ถูก เลยลงเป็นเรื่องมั่วไป เอ้ย ทั่วไปแทน |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |