*/
<< | พฤศจิกายน 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |
จะไปภูกระดึง....ก็ไปสิ ไปเลย ไปเลย (25 พ.ย. - 28 พ.ย. 2553) และแล้วก็ถึงกำหนดวันเดินทางไปภูกระดึง อันเป็นทีเลื่องลือกันนักกันหนา ว่าเป็นสุดยอดของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ที่ใจไม่ถึงอย่าไป คนรักกันไม่จริง อย่าไป คนสุขภาพกายไม่ดี อย่าไป คนสุขภาพจิตไม่ดี ก็คงมีแอบไปบ้าง เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าคนไหนจิตใจเป็นอย่างไร จิตเสื่อม จิตทราม บ้านเมืองล่มจม อุ้ย...เลยเถิดกันไปใหญ่ ภูกระดึง ทำไมต้องไป ผมตอบไปแล้วว่าจะไปดึงหน้าให้ตึง ๆ เกี่ยวกันไหมอะครับ ก็ไม่เกี่ยวนั่นแหละ ไปภูกระดึงคือผู้พิชิต ในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข่งแรง ดังนั้น ใครไปถึงได้ ก็แสดงว่า ได้คุย แล้วว่า ฉันไปมาแล้ว ผมไปมาแล้ว นี่แหละครับไอ้ประโยคนี้แหละ ที่ทำให้ผมต้องไป ไม่ใช่อะไร หรือหมั่นไส้ใคร เวลาเขาพูดสิ ท่าทางช่างภูมิอกภูมิใจกระหยิ่มเสี่ยนี่กระไร ไม่มีใครถามผมมั่งว่า ไปภูเขาไฟฟูจิมาหรือยัง ผมจะได้บอกว่า ผมไปปีนมาแล้ว จนถึงปากปล่องภูเขาไฟเลยทีเดียว จะด้วยเหตุใดก็ตามที ภูกระดึง ก็เป็นที่หมายของผมที่จะต้องไปสักครั้ง หรืออีกหลาย ๆ ครั้ง ถ้าแต่ละครั้ง ไปกับคนที่ไม่ใช่คนเดียวกันเลยสักครั้ง เพราะเลิกกันทุกครั้ง แหม..ไม่ใช่หรอกครับ บังเอิญคู่บุญของผม อึดระดับ มหา ไม่มีทางเลิกรากันได้หรอก เหนียวแน่น ๆ ชาว โอเค เนชั่น จัดกันไปในครั้งนี้ เห็นบอกว่า ภูกระดึงเดินเองได้ ไม่เอากระเช้า แต่ขอให้เจียมสังขารเป็นสำคัญนะครับ ก็เป็นเรื่องที่ถกเถียงและต่อต้านกันมาโดยตลอด และโครงการนี้น่าจะล้มเลิกไปแล้ว แต่ผมว่า บ้านเราเมืองเราน่าจะมีกระเช้ากับเขาเสียบ้าง สร้างที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นภูกระดึง เอาที่ง่าย ๆ ข้ามทะเล หรือภูเขาเล็ก ๆ อาศัยว่าเอาไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเฉย ๆ ตอนที่ผมไปเที่ยว ฮาโกเนะ ก็มีรถกระเช้าขึ้นไปที่บ่อน้ำร้อน นั่งไปแล้วก็เพลินดี เพราะได้ชมวิวไปตลอดทาง แต่ใครสนใจจะเดิน หรือขับรถก็มีหนทางให้ กระเช้าลอยฟ้า ไม่ใช่จะคัดค้านเสียทุกที่นะครับ เอาที่ที่เหมาะสมไปสร้างก็แล้วกัน ไม่ใช่จะไปสร้างในที่ที่มันเป็นธรรมชาติอันสมบูรณ์ แต่บ้านอื่นเมืองอื่นเขามีกันหมดแล้ว ที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่า มีหรือไม่มี อยู่ที่ว่าจำเป็นหรือไม่ บ้านเราเมืองเราพัฒนาไปในรูปแบบที่ผิดทิศทางกันมานานพอสมควร ผิดทางจนอยากที่จะกลับลำ หรือจะหวนไปใช้หนทางอื่นได้ เพราะมันติดที่ความ เคยชิน เสียแล้ว ยกตัวอย่าง บ้านเมืองเราจะเร่งพัฒนาแต่ถนนหนทาง ทำ 2 เลน เป็น 4 เลน จาก 4 เลน เป็น 8 เลน ต่อมาก็ต้อง ทำสะพานข้ามทางแยก สงสัยทนรอสัญญาณไฟไม่ได้ สะพานข้ามทางแยกแค่นั้น ใช้งบประมาณไปหลายร้อยล้าน เอาไปพัฒนาทางการเกษตร ช่วยเหลือชาวนาได้เป็นชาติ ๆ เมื่อถนนกว้างขึ้น ก็ต้องทำสะพานกลับรถ ท่าทางจะกลับรถยาก ยิ่งคนขับรถใหม่ ๆ สงสัยคงจะไม่ได้กลับบ้านกันแน่ อยู่ออยุธยา คงจะไปกลับรถที่นครสวรรค์โน่นแหละ เพราะมันกลับรถยาก ไม่ใช่กลับรถไม่เป็น ชนกันก็บ่อย ก็เลยจำเป็นต้องสร้าง สะพานกลับรถ สร้างกันเข้าไป เมื่อมีถนนหลายเลน ก็ต้องมีสะพานคนข้าม นี่ก็ใช่ย่อย สะพานหนึ่งใช้งบประมาณหลายแสน และมีสะพานเยอะมาก แต่คนไม่ค่อยข้าม หรือสะพานที่คนข้ามเยอะ ๆ ก็ไม่ขยายให้กว้าง ๆ ปล่อยให้เบียดกันขึ้นลงอย่างนั้น นี่เป็นตัวอย่างของการพัฒนาที่ไม่อาจจะหันกลับไปในทิศทางอื่น ทำไมรัฐบาลไม่ส่งเสริมระบบการขนส่งทางอื่น โดยเฉพาะระบบราง ทำไมรัฐบาลไม่สร้าง และขยายทางรถไฟให้มาก และเปลี่ยนระบบให้เป็นรถไฟฟ้า รัฐบาลทำไม่ได้ หรือกลัวอะไร ในขณะที่สร้างถนน สร้างสะพาน สร้างกันได้ทุกวี่วัน ทุกปี ทุกสมัย แต่ระบบรถไฟนั้น จอดสนิท วิ่งเป็นสนิมเกาะรางกันไปเรื่อย ๆ เป็นเวรกรรมอะไรนักหนา การสร้างระบบคมนาคมที่เจริญขึ้นนั้น ในอีกทางหนึ่ง คือการเพิ่มความเสี่ยงในการเดินทางที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพราะในประเทศไทย คนตายด้วยอุบัติเหตุวันละหลายราย มองทางด้านความเท่าเทียมกัน การสร้างระบบคมนาคมทำให้ เกิดความไม่เสมอภาคในด้านการใช้สาธารณูปโภค ถ้าจะบอกว่าสร้างทาง แล้วทุกคนใช้ประโยชน์ ก็ไม่เชิง เพราะใครไม่มีรถ จะถือโอกาสได้ใช้ทางน้อยมาก ยกเว้น ใครที่อยากฆ่าตัวตาย ก็ไปใช้ทางได้ คนที่ไม่มีรถก็โดยสารรถ ปีหนึ่งจะใช้สักกี่ครั้ง กี่วัน เฉพาะการเดินทางระยะไกล ๆ นี่คือความไม่เสมอภาคระหว่าง งบประมาณที่เสียไป กับการใช้ประโยชน์ คนใช้ถนน คือคนที่มีรถ แต่ถ้ารัฐบาลส่งเสริมลงทุนด้านระบบราง คนไม่มีรถ ก็ใช้ได้ ความเท่าเทียมกันมีมากกว่า นี่แค่เรื่องจะไปภูกระดึงนะครับ พากันไปไหนก็ไม่รู้ ก็บอกกับที่บ้านว่า จะไปภูกระดึงนะ จึงได้รับคำตอบด้วยเสียงอันแหลมเล็กว่า ก็ไปสิ ไปเลย ซึ่ง หมายความว่า อืม...ใช่ ๆๆ ภูกระดึงอยู่จังหวัดเลย ก็เชิญไปเลย อุ้ย มองโลกในแง่ดีสุด ๆ ก่อนไปนี่ผมก็ไม่ค่อยมีเวลาหาข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับภูกระดึงเลย มาถามเอาวันสุดท้ายว่า จะต้องเตรียมอะไรบ้าง ถามนายสิบหมื่นก็บอกไม่ต้องเอาอะไรไปมาก เพราะมีให้เช่าให้ซื้อข้างบนภู สอบถามคนโน้นคนนี้ จนได้ข้อมูลที่อันไม่ตรงกัน แต่มาประมวลเอาเอง มีคนหนึ่งกำชับว่า อย่าลืมเอากางเกงในไป เอ..ผมก็ต้องใส่กางเกงในขึ้นภูกระดึงอยู่แล้ว แน่นอนว่าก็ต้องใส่กางเกงนอกทับอีกทีหนึ่ง แต่ละคนแนะนำมาก็งง ๆ เหมือนกัน เป็นที่สงสัยของผมอยู่อย่างหนึ่งว่า ภู กับ ดอย มันต่างกันอย่างไร ทำไมทางเหนือ ดอย เยอะมาก แต่ทางอีสาน ภู มีเยอะกว่า จึงไปค้น ๆ ดู อ๋อ ภู ก็แปลว่า เขา กระดึง ก็แปลว่า กระดิ่ง หรือ ระฆัง ก็คงจะแปลรวมกันว่า ระฆังใหญ่ เพราะเขาลูกนี้เป็นลักษณะระฆังคว่ำ ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร (217,575 ไร่) ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึง ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่) มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร (จากวิกิพีเดีย) แล้วทำไมทางเหนือชอบเรียกว่า ดอย จังเลย ดอยวาว ดอยเสมอดาว ดอยภูแว ดอยภูคา (นี่แถวจังหวัดน่านบ้านผม) เรื่องของดอยนี่แหละ เป็นคำที่อันตราย เมื่อนำมาประสมกับคำจำพวก ห นำ แล้วก็กลายเป็นเรื่องตลกกันไป เมื่อคืนผมเก็บสัมภาระข้าวของเรียบร้อย พร้อมถุงนอน 1 ใบ แต่ไม่เอาเต้นท์ไป เพราะกะจะไปเช่าที่โน่น การเดินทางก็คงจะรอขึ้นรถบัสของชาว โอเคเนชั่น แถว ๆ ถนนวงแหวนตะวันออกจรดกับถนนมิตรภาพ ซึ่งคนชอบเอาไปใช้ในวงการประกวดนางงาม แต่บ้านเรามียิ่งกว่านั้น เพราะมี เทพี ด้วย บางเวที ก็มี ธิดา หรือ นางฟ้า แล้วแต่จะประกวดกัน ล่าสุด มีการประกวด เทพี เห็ดโคน อ๋อ พอเห็นหน้าแล้วต้องบอกว่าใช่เลย ไม่ใช่นางงามถนนมิตรภาพ ตามมุกของพี่เต็งพ้ง เขามีแต่นางงามมิตรภาพ ตำแหน่งนี้สำหรับบ้านเราคงจะไม่ค่อยมีใครอยากได้ เพราะถ้าเก่งจริง ทางคณะกรรมการสมานฉันท์ต้องเชิญไปเป็นผู้เชี่ยวชาญคอยปรองดองระหว่างสีต่าง ๆ เมื่อคืนเตรียมตัวนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม หลับสบาย ๆ เตรียมใจไว้ขึ้นภู แต่เสียงของคำที่บอกว่า ไปเลย ๆ มันยังไง ๆ
อยู่นะครับ กลับมาแล้วคงจะได้มาเฉลยให้ฟังว่า ภูกระดึง ในรูปแบบของผมเป็นอย่างไรบ้าง เร็ว ๆ นี้ครับ ขอขอบคุณ ภาพจาก นายสิบหมื่น http://www.oknation.net/blog/namsean คมฉาน ตะวันฉาย http://www.oknation.net/blog/tawanyimchang |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |