![]() เซ ฯ
ยังไม่ตาย ! ผู้เขียนฯ มีโอกาสลงพื้นที่ในภาคเหนือ ชายขอบประเทศไทย จากสภาพพื้นที่ไกลปืนเที่ยงและผู้คนถูกกล่าวหาว่าเป็นคนชายขอบ
ทำให้หน่วยงานรัฐหลายๆ หน่วยงานพยายามผลักดันให้ อ.เวียงแหงเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วยการวาดโครงการพัฒนาสถานที่ต่างๆ
ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีการสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยว อ.เวียงแหง นอกจากนี้ยังมีการผลักดันพันธุ์ไม้ที่ชื่อนางพญาเสือโคร่งให้เป็นไม้ประจำเมือง
ทั้งที่ชาวเวียงแหงเพิ่งเห็นต้นไม้ชนิดนี้เข้ามางอกงามที่นี่ได้ไม่นานมานี้เอง
แต่แล้ว แนวคิดการผลักดันเวียงแหงเป็นเมืองท่องเที่ยวก็ได้ถูกเก็บเข้าแฟ้มอย่างฉับพลันเมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟฝ.)
ได้ค้นพบว่าพื้นที่อาณาบริเวณของ อ.เวียงแหงนั้น เต็มไปด้วยลิกไนต์จำนวนมหาศาลและอยู่ตื้นจนแทบไม่ต้องขุดเจาะ
!!! ย้อนหลังไปในปี
2526-2530 กฟฝ.ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี
ได้เข้าไปสำรวจแหล่งถ่านหินเวียงแหงใน อ.เวียงแหง ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2531 ให้มอบพื้นที่แอ่งเวียงแหงให้กับ กฟฝ.เพื่อการพัฒนาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งผลการศึกษาทางธรณีวิทยาแหล่งถ่านหินพบว่ามีปริมาณสำรองรวมกันทั้งสิ้นประมาณ
139 ล้านตัน และเป็นถ่านหินคุณภาพดีกว่าที่เหมืองแม่เมาะ
จ.ลำปาง คือมีค่าความร้อน (Gross heating value) เฉลี่ยประมาณ
3,100 kcal / kg มีความชื้นเฉลี่ยประมาณ 32% ขี้เถ้าเฉลี่ยประมาณ 15% และกำมะถันเฉลี่ยประมาณ 1%
โดยน้ำหนัก (As Received Basis) โดยคุณสมบัติดังกล่าวเหมาะที่จะนำไปผสมกับถ่านหินที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์และความต้องการของตลาดและผู้ใช้เวลานั้น (พ.ศ. 2530-2535) พบว่ายังไม่มีความจำเป็นในการพัฒนาเหมืองเวียงแหงและไม่คุ้มทุน ดังนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2535 ให้ กฟฝ. ส่งคืนแหล่งถ่านหินเวียงแหงให้แก่กรมทรัพยากรธรณีเพื่อนำไปเปิดประมูลใช้งานด้านอื่นต่อไป
ต่อมาสถานการณ์และเงื่อนไขต่างๆ ได้เปลี่ยนไป ดังนั้น เมื่อต้นปี 2541 กฟฝ. จึงได้ทบทวนแผนการศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการพัฒนาแห่งถ่านหินเวียงแหงเพื่อนำไป ใช้ประโยชน์ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยได้สำรวจข้อมูลเพิ่มเติมร่วมกับกรมทรัพยากรธรณีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลการสำรวจออกมาว่า แหล่งถ่านหินเวียงแหงมีศักยภาพเหมาะสำหรับการพัฒนาเป็นเหมืองเปิด โดยมีปริมาณ สำรองสำหรับการทำเหมืองได้ประมาณ 15
ล้านตัน จะใช้เวลาในการผลิตทั้งสิ้นประมาณ 20 ปี ดังนั้น กฟฝ.จึงได้ยื่นเรื่องนำเสนอขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี และเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2544 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ได้มีมติอนุมัติข้อเสนอที่เห็นควรให้มีการยกเว้นการปฏิบัติ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 10 มีนาคม 2535 เพื่อกันแหล่งถ่านหินเวียงแหงให้ กฟฝ. เข้าไปพัฒนาโดยไม่ต้องมีการประมูล ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25
กันยายน 2544 เห็นชอบตามมติ กพช.เมื่อวันที่ 10
กันยายน 2544 โดยมีเงื่อนไขกำหนดให้
กฟฝ.จัดทำรายงานศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาก่อน
แล้วจึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อตัดสินใจอนุมัติให้ กฟฝ.เข้าไปพัฒนาต่อไป
" เรื่อง ...โรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนท์...
: ซึ่งรัฐบาลกำลังปัดฝุ่นขึ้นมา ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบและเป็นอีกหมู่บ้านอีกแห่งซึ่งเป็น ...สถานที่ตั้งของ " โครงการเหมืองถ่านหินเวียงแหง" อยู่ห่างจากตัวอำเภอเวียงแหงไปทางทิศเหนือประมาณ 7 กม. มีพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 8 หมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ - บ้านกองลม ต.เมืองแหง ที่ผ่านมา กฟฝ.ได้ปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์โดยการเสนอภาพลักษณ์ของโครงการเหมืองเวียงแหงให้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน รวมทั้งการนำเสนอผลประโยชน์ต่างๆที่ชุมชนเวียงแหงจะได้รับจากเหมืองลิกไนท์
นอกจากนี้ยังมีการพาชาวเวียงแหงไปดูงานที่เหมืองแม่เมาะด้วย
ทว่าประเด็นปัญหาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองลิกไนต์นั้น กฟฝ. กลับไม่ได้นำเสนอหรือชี้แจงให้ชาวเวียงแหงทราบแต่อย่างใด การดำเนินการทำเหมืองถ่านหินเวียงแหง จะใช้วิธีทำเหมืองเปิด โดยการขุดเปิดเปลือกหน้าดิน แล้วขนไปยังที่ทิ้งดินที่กำหนดไว้ แล้วจึงขุดตักถ่านหินไปใช้ประโยชน์ ผลการศึกษาทางธรณีวิทยาพบว่า
แหล่งถ่านหินที่เวียงแหงมีปริมาณสำรองรวมกันทั้งสิ้น ประมาณ 139 ล้านตัน ซึ่งมีปริมาณสำรองที่คุ้มทุนประมาณ
15 ล้านตัน จากการศึกษาข้อมูล ถ่านหินลิกไนท์ ที่ขุดได้ถูกกำหนดให้ลำเลียงไปยังโรงงานไฟฟ้าแม่เมาะโดย 2 เส้นทางหลักพร้อมกัน
คือ ๑.
เส้นทางผ่าน อ.เชียงดาว - อ.แม่แตง - อ.แม่ริม ตัวเมืองเชียงใหม่
- จ.ลำพูน-ตัวเมืองลำปาง ระยะทาง 285 ก.ม. ๒. เส้นทางผ่าน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ - อ.เวียง ป่าเป้า
จ.เชียงราย - อ.วังเหนือ อ.แจ้ห่ม และตัวเมืองลำปาง ระยะทาง 315 ก.ม. การศึกษาผลกระทบทางสุขภาพจากโครงการพัฒนาเหมืองถ่านหินเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ที่เคยเกิดขึ้นจากการทำเหมืองที่มีลักษณะเดียวกันจากทั้งในและต่างประเทศมาผนวกกับผลการศึกษาวิถีชุมชน พบว่า ผลกระทบที่จะได้รับจากการทำเหมืองถ่านหินพบว่า 1. ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงที่มาจากเครื่องจักร
และเสียงระเบิด เนื่องจากทำงานตลอก 24 ชั่วโมง 2. แรงสั่นสะเทือนจากเสียงระเบิดทำให้อาคารก่อสร้างแตกร้าว
3. ในการทำเหมืองถ่านหิน ทำให้น้ำเสีย
ไม่สามารถนำน้ำมาใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ 4. ฝุ่นละอองที่เกิดจากการทำเหมืองส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรง
5. กลิ่นเหม็นที่มาจากการลุกไหม้ ก่อให้เกิดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ค่ำคืนที่แวะผ่านเราต่างแลกเปลี่ยนทั้งวิถีชีวิตทั้ง
ฅนเมืองและฅนชายขอบ ยังมีเรื่องเล่าในขวดน้ำสีอำพันอยู่อีกหลากเรื่องราว ..... !
ภาษาเพลง ..แม้จะฟังไม่เข้าใจ แต่สัมผัสได้ ... จากน้ำเสียงท่วงทำนองที่ขับขานออกมาจากหัวใจของชายหนุ่มนักต่อสู้แห่งเวียงแหง
!
โอ่ มึ โช เปอ (ภาษาปกากะญอ : แปลว่าสวัสดี )
ศรัทธา - มั่นคง
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | สิงหาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |