โอกาสโกงการเมืองด้วย ภาษากฎหมาย

ภาษาที่ใช้สื่อสารได้ดี ไม่ควรขังตัวเองในกรอบหรือขนบประเพณีใดๆ ภาษาในศาสตร์ใดก็ตามที่ใช้สื่อสารให้คนเข้าใจได้ดีชัดเจนไม่คลุมเคลือ ย่อมดำรงอยู่อย่างเป็นประโยชน์กับสังคมที่ใช้ศาสตร์นั้น 

ภาษากฎหมายควรได้รับการทบทวนหรือไม่? 

 โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษากฎหมายเป็นภาษาที่ใช้พูดใช้เขียนมีผลกระทบกับคนโดยรวมในสังคม และมักทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เข้าใจผิด เข้าใจสับสนอยู่เป็นปกติสามัญเป็นที่ปรากฎ ชัดเจนว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ความไม่สงบสุข ความขัดแย้งแตกแยก ความอยุติธรรม กับผู้คนในสังคมที่ถูกบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม การสร้างความสลับซับซ้อนของโครงสร้างและไวยากรณ์มีเกินกว่าความจำเป็นหรือไม่?  

 หากมองในแง่ดี หรือเป็นเพราะผู้เขียนหรือผู้กำหนดที่เป็นต้นกำเนิดของศาสตร์ไม่สามารถหาวิธีสื่อสารแบบง่ายๆ ในการทำความเข้าใจให้กับคนส่วนใหญ่ของสังคมในยุคแรกเริ่ม? เนื่องด้วยปัญหาของความแตกต่างของระดับการเรียนรู้และการศึกษาในยุคนั้น

ในปัจจุบันหากมีความพยายามทำให้ ผู้คนในสังคมเข้าใจด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์โดยไม่จำกัดกรอบความคิดหรือยึดติดวิธีคิดกับจารีตอย่างไม่มีเหตุผล? โดยไม่คำนึงถืงเหตุวิบัติที่เกิดขึ้น สมควรหรือไม่? และถึงเวลาหรือยัง? ที่ผู้นำทางความคิดในสังคม ผู้เกี่ยวข้องในวิชาชีพโดยตรง ผู้คนในวิชาชีพอื่น นักวิชาการในศาสตร์ต่างๆ และประชาชนผู้ถูกบังคับใช้กฎหมายจะได้ช่วยกันจุดประกายหาหนทางและแนวทางร่วมกันในการทบทวนวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมให้สอดคล้องกับพัฒนาการของสังคม

ปล. ภาษาที่สลับซับซ้อนมักเปิดช่องให้เกิดการใช้ประโยชน์ในการกำหนดเงื่อนไขและกฎเกฌฑ์ที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ วางกับดักให้เกิดการตีความ ในหลายๆกรณีทั้งที่เจตนาและโดยเหตุที่เกิดจากความคลุมเคลือของภาษา การตีความเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจเข้าแทรกแซงทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม เบี่ยงประเดนให้เกิดประโยชน์กับตนเอง เพราะผู้ีมีอำนาจสามารถยืดกุมอำนาจแวดล้อมไว้ได้ ขณะเดียวกัน ปิดโอกาสผู้ไม่มีอำนาจและประชาชนผู้ถูกบังคับใช้ศาสตร์ดังกล่าว ในการพึ่งพาความยุติธรรมจากบทบัญญัติของกฎหมาย

ติดตาม Bug of LAW ตอนที่ 1-6 และตอนต่อไปได้ที่ ลิ้งค์ด้านล่าง

http://www.oknation.net/blog/change/category/LAWBUG