4.ยักยอกอำนาจรัฐ (๒) 4.2 โกงธุรกิจดาวเทียม ธุรกิจดาวเทียมเป็นธุรกิจต้นน้ำที่แม้จะต้องลงทุนสูงจน เงินจมมาก แต่รายได้ก็ยั่งยืนยาวนาน การลงทุนจึงต้องค่อยๆ ขยายเท่าที่จำเป็น ซึ่งตามแผนการลงทุนในสัญญาสัมปทานที่ชินคอร์ปทำกับรัฐนั้น ก็ให้ชินแซทลงทุนแต่พอตัวด้วยโครงการไทยคม 1, 2 และ 3 ที่มุ่งให้บริการต่อตลาดในประเทศเป็นสำคัญ และเงื่อนไขในสัญญาทั้งปวงก็ทำกันในกรอบนี้ทั้งสิ้น มาในปี 2544 ทักษิณและฝ่ายนำในชินคอร์ปได้ตัดสินใจเปลี่ยนเข็มธุรกิจดาวเทียมไปสู่ตลาด ต่างประเทศ โดยยอมลงทุนราคาสูงในดาวเทียมไอพีสตาร์ที่มีเทคโนโลยีเท่าระดับสากล และมีช่องสัญญาณมากเกินความต้องการใช้สอยในประเทศ เมื่อยิงดาวเทียมนี้แล้วจึงใช้อำนาจรัฐตามกฎหมายส่งเสริมการลงทุน ให้สัญญายกเว้นภาษีเงินได้ในตลาดต่างประเทศ 1.6 หมื่นล้านบาทแก่ชินแซท ครั้นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มทุนในสัญญาส่งเสริมการลงทุนก็ ให้กระทรวงไอซีทีแก้สัญญาลดสัดส่วนถือครองหุ้นในชินแซทของชินคอร์ปลง จาก 51% เป็น 40% ทั้งนี้ เพื่อผลักภาระการลงทุนให้ตลาดหลักทรัพย์ เมื่อบิดเบือนอำนาจรัฐจนลุล่วงแล้ว ก็เป็นงานด้านการตลาดที่ต้องหาลูกค้า มาให้คุ้มทุนให้ได้ ตรงจุดนี้ก็ต้องใช้อำนาจรัฐ อีกทั้ง การบีบบังคับให้ ทศท.เช่าใช้ช่องสัญญาณสร้างสถานีเกินความจำเป็น จน ทศท.เงินจมเสียหายไปกว่า 1 พันล้านบาท จนทุกวันนี้ สำหรับตลาดต่างประเทศก็ อาศัยการเจรจาการค้าเสรีบุกเบิกเปิดตลาดให้แก่ชินแซท ทั้งพม่า, ลาว, เขมร, กัมพูชา, จีน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ ฯลฯ สิทธิเข้าสู่ตลาดเหล่านี้ล้วนแลกมาด้วยความสูญเสียของเศรษฐกิจการเกษตรของ ไทยทั้งสิ้น พฤติการณ์ที่น่าเกลียด โจ่งแจ้งที่สุดก็คือ การให้รัฐบาลไทยให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่รัฐบาลพม่า 1 พันล้านบาท เพื่อให้วิสาหกิจพม่า (ลูกขิ่น ยุ้นต์ เป็นเจ้าของ) นำมาซื้ออุปกรณ์สื่อสารดาวเทียมของชินแซท โดยรัฐบาลไทยต้องนำงบประมาณแผ่นดินมาชดเชยส่วนต่างดออกเบี้ย ให้แก่ธนาคารส่งเสริมการส่งออกของไทยตลอดอายุสัญญากู้ รวมเป็นเงินหลวงที่ต้องเสียไปกว่า 100 ล้านบาท การใช้อำนาจรัฐไทย เงินประชาชนไทยไปบุกเบิกตลาดพม่าให้แก่ธุรกิจดาวเทียมของนายกรัฐมนตรีไทย เช่นนี้ เป็นเรื่องที่น่าขายหน้า (..เชิญขายหน้าไปคนเดียวเถิด..พ่อคนหน้าบาง) และ วิพากษ์วิจารณ์กันทั่วไปในวงการทูตว่า นโยบายเข้าสนิทสนมเป็นมิตรกับพม่าเช่นที่รัฐบาลทักษิณผลักดันจนล้ำเส้นท่าที ของสากลนี้ เป็นนโยบายการค้าหรือนโยบายการทูตกันแน่? แต่เมื่อความจริงเริ่มคลี่คลายอธิบายได้ว่า เป็นเพราะความต้องการของลูกชายผู้นำ รสช.พม่าด้วย วงการทูตก็เริ่มยอมรับกันต่อไปแล้วว่าไทยเริ่มก้าวหน้าถึงขั้นส่งออกคอรัป ชันได้แล้ว ทั้งหมดนี้คือความไร้ศักดิ์ศรีในสายตาประชาคมโลกที่นายกฯ ชินคอร์ปได้มอบให้แก่ประเทศที่ตนยืมมาอาศัยถือกำเนิดเกิดขึ้นมาเท่านั้น (..ไอ้คนเขียนนี่...มันไม่เข้าใจ มันไม่ยอมรับโลกาภิวัตน์เลยนี่หว่า)
ทั้งหมดนี้ล้วนทำกำไรได้ด้วยอำนาจแฝงของนายกรัฐมนตรีกับเจ้าหน้าที่นายหน้า ใน บสท.ทั้งสิ้น และเป็นความผิดตามกฎหมายฐานที่บริษัทนายกฯ เข้าซื้อที่ดินจากรัฐทั้งสิ้น หนึ่งแปลงก็หนึ่งกระทง กระทงหนึ่งก็จำคุก 3 ปี แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดจัดการเลย อย่างไรก็ดี กรรมเวรนั้นมีจริง เพราะในที่สุด 2 สามีภริยานี้กลับไปตายน้ำตื้น เซ่อไปใช้ชื่อคุณหญิงซื้อที่ดินรัชดาฯ จากกองทุนฟื้นฟูฯ ในราคา 772 ล้านบาท ทั้งๆ ที่รัฐมีต้นทุนอยู่ที่ 2,000 ล้าน โดยฝ่ายกองทุนมีพฤติการณ์ไม่ชอบมาพากลอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเปิดประกวดราคารอบแรกนั้น ได้วางราคากลางไว้ 800 ล้านบาท และผู้สู้ราคาต้องวางประกันข้อเสนอ 10 ล้านบาท ครั้นเมื่อไม่มีผู้เสนอราคาก็ต้องยกเลิกแล้วเปิดประกวดราคาใหม่อีกรอบ รอบนี้แม้ไม่มีการกำหนดราคากลาง แต่ก็ควรรักษาประโยชน์ของรัฐ โดยต้องเปิดให้มีการแข่งขันเข้มๆ ที่สุด แต่ฝ่ายกองทุนกลับเพิ่มราคาหลักประกันเป็น 100 ล้านบาท จนมีผู้สู้ราคาเพียง 3 รายเท่านั้น จากการสืบทราบของเราเองก็พบว่าเงินวางประกันของคู่แข่งคุณหญิงจำนวน 2 รายนั้น แท้จริงก็มาจากคุณหญิงนั่นเอง แต่น่าเสียดายที่ คตส.สอบไปไม่ถึง จะได้แถมคุกให้คุณหญิงอีกคนหนึ่งด้วยในฐานฮั้วประมูล
ภาพที่กล่าวนี้เป็นเพียงภาพที่เห็นเท่านั้น ทุกวันนี้ยังไม่มีใครกล้าพูดความจริงเลย แท้ที่จริงขนมทั้ง 2 ถาดนี้เป็นขนมชั้น แต่ละถาดจะมีสลากชั้นที่ 2 ซ่อนอยู่อีกชั้นหนึ่ง เป็นสลากเถื่อนที่ส่งรายได้เป็นเงินติดกระเป๋า หรือ Pocket Money ของระบอบทักษิณไปแล้วกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ในถาดสลากกินแบ่งนั้น จะมีสลากการกุศลที่ออกตามมติ ครม. ที่ทำเงินมาแล้ว 2 หมื่นล้านบาท ถูกนำไปใช้บริจาค (บางส่วน?) ตามอำเภอใจสร้างทั้งบุญคุณ หรือหาเสียงทั่วราชอาณาจักร กว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยไม่มีผู้ใดตรวจสอบ ครั้นเกิดรัฐประหารแล้ว นายศุภรัตน์ ควระกุล ปลัดคลังผู้รู้เห็น ก็รีบกลบเกลื่อนส่งเข้าคลังนั่งใจเต้น กลัวใครจะมาตรวจสอบอยู่จนทุกวันนี้ ในถาดหวยบนดินนั้น มีหลักฐานแน่ชัดแล้วว่า ตั้งแต่ปี 2548-2549 หนึ่งอาทิตย์ก่อนวันออกหวยบนดิน จะมีการอ้างว่าหวยไม่พอขาย แล้วมีคำสั่งให้พิมพ์หวยเพิ่ม 1 ชุด ในทุกงวด งวดละ 20 ล้านบาททุกครั้งไป หวยพิมพ์เพิ่มงวดลึกลับนี้จะไม่รู้จักพิมพ์ให้พอ พิมพ์เพิ่มแล้วเพิ่มอีกอยู่ได้ทุกงวด เป็นเวลา 2 ปี ตรวจสอบแล้ว หวยเพิ่ม 1 ชุดนี้ ไม่มีการส่งเข้าระบบจำหน่ายที่เป็นทางการของกองสลากเลย ใครคือยี่ปั๊วพิเศษที่รับหวยก้อนนี้ไปขาย และส่งรายได้ให้ใคร ใช่มูลนิธิกองสลาก ที่ พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ลูกน้องทักษิณยืนกุมเงินอยู่เพียงผู้เดียวหรือไม่ แฟ้มหลายหอบที่นายวราเทพ รัตนากร รีบโยกย้ายไปจากห้องรัฐมนตรีเมื่อมีรัฐประหารนั้น คือแฟ้มบัญชีใช้จ่ายเงินสลากมืดทั้ง 2 ก้อนนี้ใช่ไหม? ถ้าคดีสลากมืดนี้ถูกเปิดโปงกวาดจับคนที่เอาเงินก้อนนี้ไปใช้เมื่อใด ก็น่าเชื่อว่านอกจากทักษิณและวราเทพ แล้วจะมี ส.ส.ขาใหญ่ ขากลางของไทยรักไทยติดคุกอีกหลายสิบคนทีเดียว คดีเหล่านี้ถ้ารัฐบาลขิงแก่ตั้งหลักปราบคอรัปชั่นจริงๆ แล้ว รัฐมนตรีคลังจะต้องขุดมาฆ่าได้หมดแน่ๆ แต่กลับไม่ทำอะไรเลยในแทบทุกกระทรวง ยกเว้นกระทรวงไอซีทีเท่านั้น การปล่อยให้ คตส.รับงานปราบคอรัปชั่นอยู่ฝ่ายเดียว ก็คือจุดที่ล้มเหลวที่สุดของการรัฐประหาร 19 กันยาฯ
----------------------------------------------------- ที่มา จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์นะครับ ... |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | เมษายน 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |