.... กลับมาโม้เรื่องญี่ปุ่นต่ออีกนิดนะคะ ดิฉันยังไม่ได้เล่าเลยว่าจากโอซาก้าจะมาโตเกียว ดิฉันไปแวะที่ไหนก่อน.... .... เดาไม่ยากหรอกค่ะ ไปแวะที่เกียวโตค่ะ เกียวโตอยู่ห่างจากโอซาก้าไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เป็นทางผ่านของเราเพื่อที่จะไปโตเกียวค่ะ.... เด็กๆก็ไม่ได้สนใจจะไปเกียวโตกันสักเท่าไร แต่ตามใจแม่ แม่ว่าไงก็ว่ากันค่ะ .... ไปถึงสถานีเกียวโต ลากกระเป๋าใบโตไปหาล้อคเกอร์เก็บกันก่อนค่ะ ล้อคเกอร์เก็บกระเป๋าที่สถานีเกียวโตนี่มีอยู่หลายจุดนะคะ เราเดินไปทุกจุดที่มีล้อคเกอร์ แต่ดูไม่มีล้อคเกอร์ว่างให้เราเลยสักจุดเดียว ไม่มีล้อคเกอร์เก็บกระเป๋าเราก็เที่ยวไม่ได้ค่ะ ไม่ยอมแพ้ค่ะเดินวนไปมาจนหาได้ในที่สุด .... ล้อคเกอร์น่ะมีเยอะค่ะ แต่เป็นล้อคเกอร์เก็บกระเป๋าใบเล็กๆเสียเป็นส่วนใหญ่ กระเป๋าเราน่ะใบบะเฮิ่มค่ะ สามคนใช้กระเป๋าใบเดียวค่ะ สิ่งของและเสื้อผ้าสามคนแม่ลูกอัดกันมาอยู่ในนั้นแหละค่ะ ชั่งแล้วหนักราวๆเกือบสามสิบกิโลได้ โชคดีที่กระเป๋าปัจจุบันนี้มีล้อลากที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เลยไม่ค่อยมีปัญหากับการเดินทาง จะหนักหน่อยก็หนุ่มน้อยหนึ่งเดียวในทีมนะคะ ที่ทำหน้าที่เป็นเด็กยก(ลาก)กระเป๋าขึ้นลงบ้างนิดๆหน่อยๆค่ะ .... กว่าเราจะได้ล้อคเกอร์ว่างก็เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง เสียดายเวลาเที่ยวจังค่ะ เอากระเป๋าเก็บใส่ล้อคเกอร์ได้ก็รีบออกไปหาที่เที่ยวกัน.... ใช้วิธีเดิมคือถาม จนท.ในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเวลานิดๆหน่อยๆไม่กี่ชั่วโมงเนี่ยไปเที่ยวตรงไหนดี เธอก็แนะนำมาบอกว่าให้ไปวัดอะไรก็ไม่ทราบฟังไม่ถนัด แต่รู้ว่าต้องไปอย่างไร ให้ลูกชายช่วยฟังแล้วออกนำทีม . บริเวณสถานีรถไฟที่โอซาก้า หิวข้าว หาข้าวทานกันก่อนขึ้นรถ ได้ข้าวหน้าแกงกะหรี่รองท้องคนละจาน สถานีรถไฟเกียวโต ใหญ่โตมโหฬาร ล้อคเกอร์เจ้าปัญหา .... ออกจากสถานีเกียวโตมาขึ้นรถเมล์ อากาศร้อนอึดอัดมากค่ะ คนก็เยอะ มาเที่ยวผิดหน้าจริงๆเล๊ยเรา ถึงจุดที่ต้องลงรถเมล์ก็เดินตามทางที่เจ้าหน้าที่บอกมา ไม่ยากหรอกค่ะ เดินตามๆกันไปใครๆก็ไปวัดนี้ ทางเป็นเนินเดินขึ้นไปเรื่อยๆทั้งร้อนทั้งเหนื่อย ดิฉันก็เกิดลืมเอาร่มมาเสียอีกเก็บลงกระเป๋าใหญ่ไปหมด ทั้งๆที่พกมาจากบ้านถึงสามคัน ทำให้ต้องแวะซื้อร่มคันใหม่อีกคันข้างทาง . ป้ายรถเมล์หน้าสถานีเกียวโต บนรถเมล์ มีแต่คนใส่หมวก ก็แดดมันร้อน.... นักท่องเที่ยวบางคนนิยมเดิน.... ร้อนแบบนี้ดิฉันไม่สู้ค่ะ ลงรถเมล์ เห็นคนเยอะๆเดินไปทางไหน ก็ตามเค้าไป ทางเดินขึ้นวัด ร้อนจัดต้องแวะหาซื้อน้ำ เดินทางลัด ทางซอกแซกก็น่าดูแบบนี้ .... เดินจนถึงทางขึ้นวัด ก็ยังไม่รู้ว่าวัดอะไรนะคะ ไม่มีอารมณ์สนใจเท่าไรค่ะ....ร้อน รู้แต่ว่าใครๆก็มาวัดนี้กัน ก็เดินดูโน่นนี่ไปเรื่อยๆนะคะ.... เดินเข้าไปในวัดได้สักพัก อะไรๆก็เริ่มคุ้นตา จนเดินเลยเข้ามาถึงจุดชมวิว แล้วมองย้อนกลับไปตามทางที่เดินมา ความคุ้นตาก็ยิ่งชัดเจน แล้วคำว่า"วัดน้ำใส"ก็แวบเข้ามาในหัวทันทีค่ะ ก็ภาพนี้เห็นบ่อยนี่คะทั้งจากโบรชัวร์ท่องเที่ยว และตามเว็บหลายๆเว็บ . ถึงทางขึ้นวัด ทั้งร้อนทั้งเมื่อยเดินแทบไม่ไหวค่ะ มาเกือบถึงแล้วร้อนและเหนื่อยอย่างไรก็ต้องขึ้นไปให้ถึง คนอื่นยังไหว ทำไมเราจะไม่ไหว ขึ้นมาเห็นบรรยากาศร่มรื่นสวยงามแบบนี้ หายเหนื่อยเลยค่ะ มุมอันโด่งดังไปทั่ว.... ทั้งในแมกกาซีน ทั้งในเว็บ .... อ๋อ นี่เรามาเดินกันอยู่ที่"วัดน้ำใส"อันโด่งดังหรือนี่! วัดสวยดีนะคะ แต่ถ้าจะให้ดูรื่นรมย์กว่านี้ก็ไม่น่ามาในช่วงเวลานี้หรอกค่ะ.... เดินชมความงามของวัดกันได้สักพัก เราก็ตัดสินใจกลับสถานีรถไฟ ชวนกันไปเดินเล่นเย็นๆใจในห้างอิเซตันที่อยู่ภายในสถานีรถไฟดีกว่า .... ตอนกลับไม่ได้เดินลงไปทางถนนเส้นเก่าที่ใช้เดินขึ้นมานะคะ ไปอีกทางนึง ทางนี้คนจะพลุกพล่านกว่า มีร้านขายของเยอะ แต่ไม่ได้แวะดูอะไรสักร้านค่ะ ทั้งๆที่มีของสวยงามน่ารักน่าซื้อเต็มไปหมด ก็มันร้อนน่ะค่ะ . ร้านค้าระหว่างทางลง มีของสวยๆให้ดูละลานตา ของฝากอันเล็กๆน่าซื้อ สาวๆแต่งชุดประจำชาติเดินอวดโฉมกันไปมา .... นั่งรถเมล์กลับมาถึงยังสถานีรถไฟ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเดินหาอาหารรับประทาน ร้านอาหารตามสถานีรถไฟนี่เยอะมากค่ะ น่าทานทั้งนั้น มื้อนี้โจทย์คือหาร้านข้าวหน้าปลาดิบที่ดูน่าทานที่สุด เพราะดิฉันอยากทานค่ะ ส่วนเด็กๆก็เลือกเอาเมนูอื่นที่ร้านนั้นมี .... เลือกได้ดังใจค่ะ ทานอาหารที่นี่ไม่เคยมีมื้อไหนที่ไม่อร่อย สามคนแม่ลูกเอ็นจอยกับอาหารมากๆเลยค่ะ ร้านนี้มีคิวยาวต้องรีบทานต้องรีบไปค่ะ . จะทานอะไรต้องดูเข้าไปก่อน จะได้ไม่เสียเวลา .... ทานเสร็จเข้าไปเดินเล่นในห้างอิเซตันที่อยู่ในสถานีนั่นแหละค่ะ ของน่าซื้อเยอะแยะมากมาย ทั้งของลดราคาและไม่ลดราคา ได้แต่เดินดูไม่ซื้อค่ะ ต้องตัดใจ ของหลายอย่างเคยซื้อไปแล้วเอาไปกองทิ้งไว้ กว่าจะเปิดมาดูอีกทีก็หลายเดือนผ่านไป ไม่เอาแล้วแบบนี้เลิกประพฤติแล้วค่ะ . ห้างอิเซตันในสถานีรถไฟใหญ่โตมโหฬารเช่นกัน เดินจนเกือบตกรถไฟ .... จนใกล้เวลาเดินทาง นั่งชินคันเซนจากเกียวโตไปโตเกียว สองชั่วโมงเศษก็ถึง ลงที่สถานีชินากาวาตามที่นัดไว้กับคุณพี่ผู้หญิง ลงจากรถไฟก็งงเล็กๆค่ะว่าต้องออกประตูไหน? โทรหาคุณพี่ฯท่านบอกว่ากำลังเดินเข้ามาหา งงไปงงมามีหนุ่มเข้ามาทักแล้วพาออกไปรอรถด้านนอก .... คุณแซ๊กพ่อครัวหัวป่าก์ประจำสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารฯนั่นเอง เธอคงเคยเห็นดิฉันจากรูปที่โพสท์ไว้ในเฟสบุ๊ค ทำให้เธอเข้ามาทักดิฉันถูก.... ดิฉันเริ่มถูกชะตากับคุณแซ๊กตั้งแต่แรกเจอแล้วละค่ะ.... . ชินกันเซน ดีใจได้นั่งตั้งหลายรอบ นั่งเบื่อๆ ถ่ายรูปทิวทัศน์ระหว่างทาง ทุ่งนาแทรกอยู่ตามบ้านเรือน เขียวสวยสบายตาค่ะ อาหารมื้อค่ำแถบเมกูโระ อิ่มอร่อย มีความสุขที่ได้พบกัน .... รถวนมารับ คุณพี่ผู้หญิงอยู่ในรถแล้ว ต่างคนต่างดีใจที่ได้เจอกันที่ญี่ปุ่น ท่านพาแวะรับประทานอาหารมื้ออร่อยที่ร้านเจ้าประจำแสนอร่อยของท่านแล้วจึงพาเข้าที่พัก.... แหม! ดิฉันมาญี่ปุ่นนี่วันๆมีแต่เรื่องรับประทานนะคะ อิอิ.... สวัสดีค่ะ ............................................ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | ตุลาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |