....เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาดิฉันได้มีโอกาสพาน้องที่น่ารักสองคนจากปารีสตระเวนรอบมอสโคแบบหลักสูตรเร่งรัด  พอไหวค่ะที่มอสโค  ถ้าไม่ได้เข้าพิพิธภัณฑ์ทั้งหลายยยย....สามวันสองคืนก็โอเคค่ะ....น้องเธอก็ง่ายๆอะไรอย่างไรก็ได้ก็แหมนักเที่ยวอย่างเธอ....ลุยไปเกือบทั่วแล้วนี่คะ

....เริ่มกันด้วยเราสองคนสามีภรรยาไปรอรับชาวปารีเซียงทั้งสองที่สนามบิน  วันนั้นรถติดค่ะ  ไปถึงสนามบินก็หวุดหวิดเวลาที่เครื่องลง  ดิฉันจึงขอลงก่อนเพื่อไปรอดักน้องสองคน  ปล่อยให้สามีไปหาที่จอดรถ

....เข้าไปถึงเป็นเวลาที่ไฟลท์บินทั้งหลายประดังประเดกันเข้ามา  คนเยอะมากทั้งคนเดินทางและคนรับ  ดูเวลาน่าจะพอดีที่น้องสองคนกำลังจะเดินออกมา

....คนทยอยกันออกมาแต่ไม่มีทีท่าว่าคนที่เรามารับจะออกมา  จนสามีดิฉันจอดรถเสร็จก็เข้ามาสบทบ  สองคนตายายก็รอกันอีกนานนับชั่วโมง  สามีดิฉันชักเอะใจ  เปิดเช็คเมสเสจในโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  อ่านเสร็จเงยหน้าทำหน้าซีเรียส(กันดิฉันโวย)บอกว่ามาผิดวัน 5555....น้องเธอจะมากันวันรุ่งขึ้นค่ะ

....ตัดมาถึงว่าน้องสองคนมาถึงบ้านเราแล้ว  เธอมาถึงกันตอนเย็นค่ะ  เวลาอาหารเย็นพอดี  ทานข้าวเสร็จไม่ให้เสียเวลา  เราก็พาน้องไปที่ Red Square  ดูบรรยากาศ Red Square ตอนกลางคืน

....Red Square นี่จะให้ดีต้องไปชมทั้งสองบรรยากาศทั้งกลางวันกลางคืนนะคะ  มอสโคตอนกลางคืนนี่สวยมาก  ที่นี่ค่าไฟถูก  ตึกประดับไฟกันสวยทั้งเมืองค่ะ 

....ใช้เวลาชม Red square กันนานหน่อยเพราะต้องจอดรถลงเดินเพื่อจะเข้าไปที่ลาน Red square หลังจากนั้นก็ขับรถชมเมือง  แล้วก็วนรถไปดูโน่นนี่ที่คิดว่าน่าจะพาไปดูแหละค่ะ  ในรูปเป็นหนึ่งใน Seven Sisters ตึกสวยของเมืองมอสโคค่ะ  ดูรูปเอานะคะ

....ก่อนกลับบ้านเห็นซุ้มขายคาตอชก้า (kar-toch-ka) (картошка) หน้า Sparrow Hill อยากให้แขกจากปารีสลองชิม  แวะซื้อกลับบ้านเอาเข้าตู้เย็นไว้อุ่นตอนเช้า....คาตอชก้า....มันเผาทั้งลูก  ผ่าครึ่ง  ตะกุยเนื้อมันเหมือนพรวนดิน  โปะเนย  โปะชีส  ตะกุยอีกทีให้เข้ากับเนื้อมัน  แล้วโปะอีกทีด้วยหน้าต่างๆ....อร่อยมากค่ะ

....เช้าวันต่อมา  พาน้องออกเที่ยว  ไปไหนเหรอคะเครมลินค่ะ  ทุกครั้งที่แขกมาก็ต้องพาไปเครมลิน  เหมือนบ้านเราก็ต้องไปวัดพระแก้ว  คนพาไปก็เข้าแล้วเข้าอีก  แต่ไม่เบื่อค่ะ  ดิฉันเองก็ไม่ได้พาทุกกลุ่มไปเช่นนี้ทุกครั้ง  ก็แล้วแต่ช่วงค่ะ  บางช่วงแขกก็ต้องไปกันเอง  

....ดิฉันเลือกที่จะเข้าไปด้วย  สามีขอเดินเล่นอยู่ข้างนอก  สนุกดีค่ะถือโอกาสคุยโน่นนี่กันไป  เดินอยู่นานทั้งบริเวณโบสถ์และตัวพิพิธภัณฑ์ Armoury จนได้เวลานัดกับสามีที่รออยู่ด้านนอกก็พากันออกมา

....ว่าจะพาน้องสองคนไปทานอาหารรัสเซียแบบสบายๆ  แต่ผิดแผน  เลยต้องเข้าร้านอาหารบริการตนเองในห้างกุม  อาหารอร่อยรสชาดดี  บริการตัวเองก็สนุกสนานไปอีกแบบ  จะว่าไปถ้าไปกับสามีดิฉันก็ไม่ค่อยได้บริการตัวเองสักเท่าไรหรอกค่ะ

....ทานเสร็จเดินเล่นต่อในห้างนั่นแหละค่ะ  window shopping ค่ะ  หลังๆนี้้ยึดนโยบายนี้เป็นหลักค่ะ  เพลินมากเดี๋ยวหมดตัว

....ออกจากกุมก็เลยไปที่โบสถ์เซนต์ซาเวียร์  เข้าไปชมความงดงามอลังการของโบสถ์ที่ถูกทำลายเพราะสงคราม  แต่ด้วยแรงศรัทธาของคนที่มีต่อศาสนาก็ช่วยกันบริจาคเงินสร้างกันขึ้นมาใหม่ค่ะ

....เสร็จจากการชมความงามของโบสถ์ฯ  ก็ไปเดินกันต่อที่ถนนอารบัท  วันนั้นที่ไปค่อนข้างสะบักสะบอมค่ะ  เพราะเจอกันทั้งลมทั้งฝนและหิมะ  สะใจจริงๆค่ะ

....อารบัทวันนี้ไม่ค่อยมีคน  ไม่มีอะไรให้เดินดูมานัก  อากาศหนาวลมแรงมีทั้งฝนทั้งหิมะ  ใครล่ะจะมาเดิน....นอกจากพวกเรา 

....ที่อารบัทมีร้านของฝากเยอะแยะมากมายนะคะ  แต่ในราคาที่แตกต่างกันไป  ร้านแรกๆที่อยู่หัวถนนก็จะแต่งร้านสวยจูงใจให้เข้า  แต่ก็มักจะตั้งราคาแพง  เราพากันเดินลึกเข้าไปตั้งใจไปเข้าร้านของฝากที่เป็นร้านของรัฐบาล  ของเหมือนๆร้านอื่น  แต่ราคานิสัยดีกว่าที่อื่นค่ะ

....เสร็จจากการซื้อของออกมาเดินเล่นต่อ  น้องสาวคนสวยเห็นร้าน Cinnabon เธอขอเข้าไปนั่งทานกาแฟร้อนๆพร้อมขนมหอมกรุ่น  มื้อนี้เธอขอเป็นเจ้ามือค่ะ 

....เดินออกมาผ่านร้าน Dunkin Donut  เด็กๆเต็มร้านเลยค่ะ  แวะเข้าไปซื้อโดนัทกลับบ้าน  ลูกสาวดิฉันต้องทานโดนัทรัสเซียฝืดๆหน้าบ้านมานาน  มาถึงที่นี่ต้องซื้อกลับไปฝากค่ะ....ร้าน Dunkin Donut แห่งนี้พึ่งเปิดได้ไม่กี่เดือนนี้เองนะคะ  เป็นร้าน Dunkin Donut ร้านแรกในมอสโคเชียวนะคะ

....เสร็จกิจจากการเดินชมถนนอารบัทก็พาแขกสองคนไปชมสถานีรถไฟใต้ดินของมอสโคที่เค้าว่ากันว่าสวยงามนักหนาค่ะ....ไปถึงสถานีพอดีกับเวลาเลิกงานเย็น  คนเยอะมากยังกับหนอน  แน่นไปหมดค่ะ  เราตกลงกันว่าแค่ลงไปดูแต่จะไม่นั่งรถเพราะดูจากปริมาณคนแล้ว  ลงไปชมเฉยๆก็พอค่ะ

....สถานีที่เราพาน้องสองคนไปชมชื่อสถานีเคียฟสกายา  ที่นับว่ามีทางลงที่ลึกและชันที่สุดสถานีนึงนะคะ  ดิฉันก็ไม่ใช่ผู้นำชมที่ดีนัก  ลำพังตัวเองอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยได้ขึ้นเมโทรหรอกค่ะ  โอกาสที่จะได้มาชมก็ต่อเมื่อพาแขกมาเท่านั้น

....ดิฉันคุยกับน้องผู้หญิงว่าทางลงสถานีนี้ลึกมากแต่น่าจะสู้ที่สถานีเมโทรบางแห่งที่ปารีสไม่ได้  น้องบอกว่าที่มอสโคกินขาดค่ะ....เรื่องลึกๆนี่ดิฉันกลับมาคุยกับลูกที่บ้าน  ลูกบอกว่าสถานีที่อารบัทลึกกว่าที่เคียฟสกายามาก  ดิฉันก็ยังไม่เคยไปวันหลังจะให้ลูกพาไปแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังค่ะ

....วันเดียวเที่ยวครบ  เหนื่อยพอสมควรนะคะ  ดังนั้นวันนี้ไม่ไปไหนต่อแล้วกลับบ้านนอนค่ะ  วันรุ่งขึ้นน้องสองคนจะต้องต่อไฟล์ทไปเซนต์สปีเตอร์เบิร์กกัน  

....นักท่องเที่ยวอย่างเราๆเป็นประเภทนอนหัวค่ำตื่นสายค่ะ  วันที่สามในมอสโคตื่นกันสบายๆค่ะ  รอไปขึ้นเครื่องบินตอนบ่าย  มีเวลานิดเดียวก่อนขึ้นเครื่อง  จะไปไหนมาไหนก็คงรีบเร่งเกินไป  จะไปตลาดอิชไมลอฟ  ก็เช้าเกินไปและก็เป็นวันธรรมดาอากาศก็หนาวของคงน้อย

....สาวน้อยจากปารีสบอกหนูขอไปสำรวจซุปเปอร์มาร์เก็ต  ได้เลยค่ะ  ออกจากบ้านเพื่อไปขึ้นเครื่องก็ไปแวะอาชานหรืออูชองในชื่อฝรั่งเศส  อาชานเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่สัญชาติฝรั่งเศสที่มากอบโกยเงินจากชาวรัสเซีย  เหมือนๆกับโลตัสในบ้านเราน่ะค่ะ....แต่แทนที่จะสำรวจอาหารเราก็สำรวจไวน์กันเสียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ....

.....นอกจากอาชานแล้ว  แฟชั่นนิสต้าสาวจากปารีสก็เดินชมร้านรวงต่างๆในมอลล์ขนาดใหญ่ที่อาชานตั้งอยู่  สำรวจข้าวของและแฟชั่นต่างๆ  เธอบอกแฟชั่นที่มอสโคก็สวยไม่แพ้ที่ปารีส....แค่นี้แหละค่ะ  เอ้อ..ไม่เห็นจะมีอะไรเลยเรื่องแฟชั่นไม่รู้จะเขียนทำไมเนี่ย....

....เครื่องออกตั้งบ่ายสี่  หาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า  แวะร้านอาหารญี่ปุ่น  อาหารญี่ปุ่นที่นี่ใช้ได้เลยนะคะ  รสชาติดี  ดิฉันพวกคอจรเข้  ทานอะไรที่ไหนก็อร่อยค่ะ  ไม่จำเป็นต้องเป็นในประเทศต้นตำรับ  ขอให้เลือกร้านดีๆละกัน

....ในที่สุดก็ถึงสนามบิน  เข้าไปส่งแล้วร่ำลากันนิดหน่อยพอเป็นพิธี  หนักไปในทางฝ่ายหญิงร่ำลากันค่ะ  เพราะสามีดิฉันกับน้องผู้ชายก็พบปะกันเป็นประจำอยู่แล้ว 

....ที่จริงดิฉันวางแผนว่าจะไปเป็นแขกของน้องเธอที่ปารีสก่อนที่น้องเธอจะมาเป็นแขกเราที่มอสโคนะคะ  แต่เผอิญให้มีเหตุต้องเลื่อน  เลยได้ทำหน้าที่เจ้าภาพเสียก่อน  ได้ไปปารีสเมื่อไรแล้วจะเอามาโม้ให้อ่านกันนะคะ....สวัสดีค่ะ

..............................................................