....วันนี้อยู่ที่เยอรมันแล้วนะคะ  ดิฉันจะไปเที่ยวปราสาทนอยวานชไตน์ค่ะ  ดีใจจัง  มาเยอรมันก็หลายครั้งแต่ยังไม่เคยไปปราสาทนอยวานชไตน์สักที  วันนี้แหละที่ฝันจะเป็นจริง

....พี่ที่เคารพให้เรายืมรถใช้ในช่วงระหว่างที่ดิฉันมาอยู่ในเยอรมัน  แหม! ขับรถในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยนานๆทีได้รถมาขับเองที่เยอรมันก็ไม่ง่ายสักเท่าไรนะคะ  เกร็งค่ะไม่คุ้นทาง  กว่าจะถึงทางออกจากเมืองเพื่อจะไปนอยวานชไตน์ก็วนหาทางออกอยู่นานเหมือนกัน  แต่ไม่ค่อยกังวลเพราะไปกันเองสองคนไม่มีใครร่วมทางมาด้วย

....ในที่สุดก็ออกจากเมืองมาจนได้  ขับมาในเส้นทางสายสวยไม่รู้เค้าเรียกว่าสายอะไร  รู้แต่ว่าสวยมาก  เยอรมันนี่สวยสะอาดจริงๆนะคะ  ผู้คนมีคุณภาพมีความรู้ระเบียบวินัยดีอะไรๆก็ดูดีไปหมด

.

วิวสวยหยดตามทางระหว่างขับรถไปยังปราสาทนอยวานชไตน์

....ใกล้ถึงนอยวานชไตน์มองเห็นปราสาทอยู่บนยอดเขา  เราขับรถมากันเองเลยหยุดถ่ายรูปโรแมนติคกันสักหน่อยค่ะ  ก็ทริปนี้ทริปท่องเที่ยวสองคนสามีภรรยานี่คะ  งานเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะเธอถึงนัดให้ดิฉันมาได้  ทริปนี้ต่อส่วนตัวจุดมุ่งหมายคือพาดิฉันไปโน่นมานี่โดยเฉพาะ

.

เห็นปราสาทอยู่บนยอดเขา  สวยงามเหมือนปราสาทในเทพนิยายสมคำร่ำลือจริงๆ

....ไปถึงเชิงเขาทางขึ้นปราสาท  ต้องจอดรถตรงนี้  จะขึ้นไปชมปราสาทก็ต้องเลือกหนึ่งในสามทางทีมีให้เลือกคือเดิน  ขึ้นรถ  หรือรถม้า  ดิฉันอยากขึ้นรถม้า  แต่สามีบอกช้าไปรถบัสดีกว่า  บัสก็บัสค่ะแหมวัยรุ่นใจร้อนจัง!

....อาศัยที่เธอเคยมาหลายหนแล้ว  พอรถจอดเธอก็พาเดินดุ่มๆตรงไปยังสะพานที่เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นปราสาทได้สวยที่สุด  แต่สะพานจุดชมวิวที่ทำทอดยาวพาดโตรกเขาให้เดินเพื่อเป็นจุดดูปราสาทน่ะสิคะน่ากลัวมาก  ถ้าเป็นหน้าหนาวหิมะตกน้ำแข็งเกาะก็ไม่น่าเดิน  แต่ก็รู้สึกว่าเค้าจะปิดเมื่อย่างเข้าหนาวจัดค่ะ

....หลังจากชมวิวแล้วก็พากันเดินไปยังตัวปราสาท  ไม่ได้เข้าไปดูข้างในเลย  วันนั้นคนเยอะคิวยาวมาก  คิดว่าน่าจะเกินชั่วโมงกว่าจะได้เข้า  เลยตัดสินใจเดินดูแค่รอบๆแล้วก็จากมา  แค่ดูภายนอกก็ว่าปราสาทเค้าสวยจริงๆ  สวยสมคำร่ำลือค่ะ  ยังตะหงิดๆว่าภายนอกสวยขนาดนี้ภายในจะสวยขนาดไหนกันหนอ

.

....เดินกลับจากปราสาทลงมายังที่จอดรถด้านล่าง  ตามธรรมเนียมค่ะต้องขอเดินเข้าไปชมของในร้านขายของที่ระลึกสักหน่อย  เข้าไปหาซื้อสโนโดมสักลูก  เป็นของสะสมค่ะ  สะสมร่วมกันกับลูกสาว  พาเธอเดินทางแต่เล็กๆน่ะค่ะแล้วเธอก็มีความคิดริเริ่มที่จะสะสมสโนโดม  แต่ต้องเป็นสโนโดมของสถานที่ที่เธอได้เดินทางไปเท่านั้นนะคะ  ดิฉันถูกใจเห็นเป็นเรื่องดีเลยสะสมร่วมกันแม่ลูก

....วันเวลายังยาวไกลนัก  สามีดิฉันบอกจะขับรถพาไป Plansee....Plansee เป็นทะเลสาปในแคว้นทิโรลของออสเตรียที่อยู่ติดกับเยอรมัน  แต่ทะเลสาปจะมีอาณาเขตข้ามไปเยอรมันด้วยหรือเปล่าไม่ทราบนะคะ 

....เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองในสมัยนาซี  บางส่วนของค่ายกักกันดาเชาก็มาตั้งฐานอยู่ที่ Plansee....ค่ายกักกันดาเชานี่เป็นค่ายกักกันค่ายแรกของนาซีในเยอรมัน

....ระหว่างทางจากนอยวานชไตน์ไป Plansee มิพึงต้องให้ถึง Plansee ก่อนหรอกค่ะ  แค่ธรรมชาติข้างทางที่ขับผ่านก็สวยจะแย่แล้ว  ต้องขอให้สามีจอดรถเป็นระยะๆเพื่อลงไปชื่นชมความงาม

.

บางส่วนของบรรยากาศข้างทางสายที่ขับรถจะไป Plansee

....สำหรับเรา Plansee ไปไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเพราะใช้ GPS ในรถนำทาง  ถ้าไม่มี GPS ก็คงหลงกินข้าวหมีกันอยู่ในป่าแถวนั้นแหละค่ะ  Plansee สวยมากค่ะ  เงียบมากด้วย  แทบจะมีแค่เราสองคนที่ขับรถเลียบทะเลสาปกันอยู่  ตลอดทางมีรถสวนมาแค่เพียงคันสองคัน  ส่วนรถตามไม่ต้องพูดถึงไม่มีเลยค่ะ

....เป็นบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ  สวยงามมาก  อยากหยุดอยู่ตรงนี้นานๆฟังเสียงเงียบๆของธรรมชาติ  อยากนอนเล่นแถวนี้สักอาทิตย์  คิดไปเรื่อยเปื่อยแหละค่ะ  ก็นานๆจะมีความสุขกับธรรมชาติแบบนี้สักที 

....ดิฉันว่า Plansee ธรรมชาติสวยเหมือนจิ่วจ้ายโกวของเมืองจีน  แต่บรรยากาศคงเทียบกันไม่ได้  ที่ Plansee สุดยอดกว่าเพราะความสงบที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่านมากมายเหมือนจิ่วจ้ายโกว 

.

ดูรูปแล้ว  คนที่เคยไปจิ่วจ้ายโกวที่เมืองจีน  คงคิดเหมือนๆดิฉัน

....ขับรถเลียบทะเลสาปนานแค่ไหนจำไม่ได้  แต่ความรู้สึกเหมือนแป๊ปเดียวเพราะเพลินไปกับธรรมชาติและบรรยากาศ  ออกมาจาก Plansee สามีดิฉันบอกจะพาไป Linderhof ต่อ

....เส้นทางที่ต่อจาก Plansee ไป Linderhof ก็สวยค่ะ  แค่ขับรถอยู่ในเส้นทางธรรมชาติสวยๆแบบนี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ  แต่ได้แวะเที่ยวที่โน่นที่นี่อีกเหมือนได้สองขั้นบวกได้โบนัสค่ะ 

.

บรรยากาศระหว่างขับรถไป Linderhof

....Linderhof เป็นวังขนาดเล็กของกษัตริย์ลุดวิกที่สองแห่งบาวาเรียที่สร้างจนเสร็จในขณะที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่  ขนาดของวังก็ไม่ใหญ่ดูจากภายนอกเหมือนบ้านขนาดใหญ่ธรรมดาๆหลังนึง  แต่ทว่าที่นี่เป็นวังฤดูร้อนจึงมีสวนขนาดใหญ่ที่สวยงามค่ะ 

....ที่นี่มีคนมาเดินชมไม่มากนักและเห็นว่าวังมีขนาดเล็กดิฉันเลยบอกสามีว่าอยากจะเข้าไปชมข้างใน  สามีดิฉันบอกว่าให้เข้าไปคนเดียวเธอจะไปเดินเล่นรอ  ที่นี่ต้องเข้าไปเป็นกลุ่มซึ่งจะมีไกด์ของสถานที่เป็นคนนำเข้าไปค่ะ 

....ดิฉันไปซื้อตั๋วของรอบต่อไป  มีคนรอจะเข้าอยู่แล้วหนึ่งกลุ่ม  ดิฉันก็เลยเดินเข้าไปรวมกลุ่มอยู่ด้วย  คิดเอาเองว่าเพิ่มมาอีกคนคงไม่เป็นไร  พอถึงเวลาดิฉันเดินไปพร้อมกับกลุ่มคน  เจ้าหน้าที่มองหน้าแล้วบอกให้ไปคิวอื่นเพราะกลุ่มนี้จะบรรยายเป็นภาษาสเปน 

....อ้าว! แล้วทำไงดีล่ะ  สามีดิฉันก็รออยู่ด้วยกลุ่มต่อไปคงต้องรอนานนับชั่วโมงกว่าจะถึงคิว  ดิฉันจึงถามไปว่าแล้วกลุ่มต่อไปเมื่อไร  เธอบอกว่าอีกสีสิบห้านาทีก็คงพอทนได้  แต่แล้วเธอก็พูดต่อว่ารอบหน้าเป็นภาษาเยอรมัน!

....หุหุ  ฟังไม่รู้เรื่องทั้งสองภาษานั่นแหละ  ดังนั้นจึงเจรจาว่าดิฉันต้องการจะเข้ารอบนี้ภาษาสเปนก็สเปน  ไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร  ขอเข้าไปชมภายในก็พอ  เธอก็ทำยึกยักนิดหน่อยแต่ในที่สุดก็ได้เข้าไปร่วมกับกลุ่มสเปน  แหม! วังก็เล็กดูภายนอกก็งั้นๆจะอะไรกันนักหนานะ!

....ก่อนจะเข้าไปชมภายในไกด์บอกว่าห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด  แล้วกำชับนักกำชับหนาเรื่องถ่ายรูป....จะแค่ไหนกันเชียวหวงจัง!  แต่ก็ยินดีปฎิบัติตามค่ะ

....ค่อยๆเดินเข้าไปชมทีละส่วนจากโถงบันไดเดินขึ้นไปข้างบน  โอ้โหสวยจริงๆมิน่าล่ะถึงได้หวงนักหวงหนา  สวยมากค่ะสวยทุกรายละเอียดและสวยหวานไปทุกห้อง  รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจซื้อบัตรเข้ามาชมภายในวัง  แต่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปชมภายในของนอยวานชไตน์  เพราะ Linderhof เล็กกว่าตั้งเยอะยังสวยขนาดนี้  นอยวานชไตน์งานมาสเตอร์พีช  ภายนอกก็สวยภายในจะสวยขนาดไหน!

รูปของห้องนึงใน Linderhof  เอามาจากเว็บทางการ www.schlosslinderhof.de 

.

สวนสวยในวันที่ยังไม่ค่อยสวยสักเท่าไรนัก

รูปปั้นกษัตริย์ลุดวิกที่ 2....ทั้งรูปปั้นทั้งรูปวาดที่เห็น....ท่านงามมากจริงๆนะคะ

....จาก Linderhof ขับรถต่อเข้าไปในเมือง Oberammergau เมืองนี้ดิฉันเองก็พึ่งเคยได้ยินชื่อเสียงและพึ่งรู้จักเมื่อไม่นานมานี้นะคะ  อาจจะเพราะเมื่อก่อนไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวของทัวร์ไทยทั่วๆไป  เลยไม่ค่อยมีบรรจุอยู่ในโปรแกรม  แต่หลังๆมานี้ความที่คนไทยเริ่มเที่ยวกันมากขึ้น  ไปไหนต่อไหนกันจนไม่รู้จะไปที่ไหนกันแล้ว  Oberammergau  เมืองเล็กๆ(แต่น่ารัก)จึงถูกหยิบยกขึ้นมาใช้งาน 

....Oberammergau สวยจริงๆค่ะ  ตามอาคารแต่ละหลังจะมีภาพวาดลวดลายงดงามต่างๆเอาไว้  ซึ่งแต่ละหลังก็มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง  เป็นเมืองที่สวยหวานน่ารักอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามจริงๆ

....Oberammergau มีชื่อเสียงทางด้านการแกะสลักไม้  และการแสดงที่เรียกว่า Passion Play แปลเป็นภาษาไทยไม่ถูกนะคะ  คำจำกัดความภาษาอังกฤษของ cambridge ว่าดังนี้ค่ะ a play that tells the story of the suffering and death of Jesus Christ  และที่ทำให้คนรู้จัก Oberammergau อีกอย่างคือเป็นที่ตั้งของ NATO School

....NATO School คือที่อบรมหลักและศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับการปฎิบัติงานของ NATO เพียงแห่งเดียวในโลก  ปัจจุบันมีหลักสูตรมากมายสำหรับกลุ่มพันธมิตรและ  ในเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบาย กลยุทธ ภารกิจและการดำเนินงาน

.

อาคารบ้านเรือนต่างๆในเมือง Oberammergau

เป็นเพราะเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนาโต้  จึงจะเห็นมีทหารเดินอยู่ในเมืองประปราย

....หลังจากถึงโรงแรม  ด้วยความเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปเดินดูภายในนอยวานชไตน์  กลับมาถึงโรงแรมก็รีบเปิดหาดูรูปภายในของนอยวานชไตน์ทันทีค่ะ  หลังจากที่ได้ดูรูปแล้วความเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปดูภายในลดดีกรีลงไปได้นิดหน่อย

....ดูรูปแล้วก็ทำใจคิดว่าภายในนอยวานชไตน์นั้นเหมือนปราสาทราชวังสวยๆอื่นๆทั่วๆไปที่เคยได้ไปเห็นมาบ้างแล้วนั่นแหละค่ะ  แต่ Linderhof เป็นวังขนาดเล็กที่ภายในตกแต่งได้สวยหวานเหลือใจ  สมควรแก่การเข้าไปชมเป็นอย่างยิ่ง....สำหรับนอยวานชไตน์แล้วดิฉันเปรียบเหมือนจิ้งจอกเห็นองุ่นเปรี้ยวนั่นแหละค่ะ  แต่สำหรับ Linderhof นั้นทำให้ดิฉันมีความสุขมากที่ได้เข้าไปชมวังเล็กๆแต่สวยหวานเหลือใจของกษัตริย์หนุ่มรูปงามแห่งเยอรมันนี....สวัสดีค่ะ  

.........................................................