....มาต่อจากเยอรมันในเอนทรีที่แล้วนะคะ....ฐานเราอยู่ที่เยอรมันแต่ว่าอยู่นอกเมืองไปหน่อย  ก็ไม่ได้เน้นเที่ยวอะไรเป็นพิเศษมากมายนักนะคะ  พอดีสามสี่วันในเยอรมันเรามีรถใช้ตลอด  ก็เลยคิดว่าไปกันไกลๆหน่อยละกัน

....ตกลงที่จะไปซอลซ์บูร์กกันค่ะ  ไม่ได้รีบร้อนอะไร  ตื่นตอนไหนไปตอนนั้น  วันนี้โล่งแล้วค่ะ  เริ่มจำทางออกจากเมืองได้  ขับรถสบายๆไม่กี่ ชม.ก็มาถึงซอลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย

....ดิฉันเคยมาที่ซอลซ์บูร์กครั้งนึงแล้วเมื่อหลายปีก่อน  ตอนนั้นมากันสองคนกับลูกสาวตัวเล็ก  แต่สามียังไม่เคยมา  เลยได้โอกาสโชว์ความเก๋าพาสามีเที่ยวค่ะ 

....ก็ไม่เก๋าอะไรเท่าไรหรอกค่ะเขียนไปอย่างนั้นเอง  ซอลซ์บูร์กเป็นเมืองเล็กๆ  สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองก็มีไม่มากมายเท่าไรและก็อยู่ใกล้ๆกัน  และเวลาไปเที่ยวกันถ้ามีสามีดิฉันไปด้วยก็จะเที่ยวแบบสบายๆค่ะ  จะไม่ค่อยมีเรื่องลุยๆสนุกๆมาเขียนให้่อ่านเหมือนกับที่ดิฉันไปกันสองคนกับลูกสาวนะคะ

....ถ้าดิฉันกับลูกสาวจับคู่เที่ยวกันเองด้วยกันเมื่อไร  ทริปนั้นจะลุยและคุ้มมากเพราะเราชอบอะไรเหมือนๆกัน  และดิฉันเป็นคนที่ค่อนข้างใช้ประโยชน์กับสิ่งของคุ้มค่ากับที่จ่ายไปค่ะ  ดังนั้นจึงเที่ยวคุ้มทุกเม็ดเงินและทุกนาทีที่ผ่านไปค่ะ

....แต่กับสามีดิฉันไม่ต้องลงลึกไม่เน้นรายละเอียดมากมายอะไรนัก  แค่พอผ่านแค่พอเห็นเธอก็พอใจแล้วไม่ต้องถึงกับต้องเห็นทุกอย่างกับตาเอาแค่ภาพรวมก็พอ....วันนี้ทริปคุณนายเต็มตัวค่ะ!

....ซอลซ์บูร์กเป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของออสเตรีย  อยู่ทางเหนือของเทือกเขาแอลป์  เป็นบ้านเกิดของโมสาร์ท กวีเอกของโลก  กลางเมืองมีเมืองเก่าสวยงามซึ่งยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไว้เมื่อปี 1997  มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย  และเคยเป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์อเมริกันเรื่อง The Sound of Music  อันโด่งดัง

....เข้ามาใกล้ตัวเมืองซอลซ์บูร์กก็เริ่มเห็นตัวปราสาท Hosensalzburg อยู่บนเขาในเมืองลิบๆ  ดูสวยงามเหมือนภาพวาด  ความสวยนี้ได้เห็นนานค่ะ  เพราะรถติด  ติดมากเลย  ติดตั้งแต่ทางหลวงจนถึงทางแยกเข้าเมือง 

.

ปราสาท Hosensalzburg  รูปนี้ถ่ายในเมืองถึงเห็นชัดแบบนี้ค่ะ

....ถนนในเมืองเป็นถนนเล็กๆส่วนใหญ่รถวิ่งเลนเดียวสวนกันไปมา  แยกก็เยอะ  ดังนั้นเมื่อมีรถมาวิ่งมากๆรถก็ย่อมติดเป็นธรรมดาค่ะ  ติดยาวกันเป็นกิโลๆติดนานเป็นชั่วโมง  ก็ดีเหมือนกันค่ะได้ใช้เวลาดูบ้านเรือนชาวซอลซ์บูร์ก  บ้านแต่ละหลังสวยงามสะอาดน่าอยู่มาก  เป็นเรื่องดีที่ดิฉันจะได้นั่งรถดูสภาพบ้านเมืองอยู่อาศัยของชาวซอลซ์บูร์กสบายๆโดยไม่ต้องเดินให้เมื่อย

....บ้านที่ซอลซ์บูร์กนี่ราคาคงแตกต่างกันไปตามขนาดและทำเล  เห็นตามป้ายโฆษณาซื้อขายบ้านที่ติดเอาไว้ตามทาง  อพาร์ทเมนท์หนึ่งห้องนอนในเมืองเก่า 800,000 ยูโร  แต่ถ้าเป็นอพาร์ทเมนท์หนึ่งห้องนอนตามชานเมืองราคา 230,000 ยูโร  บ้านขนาดกลางเป็นหลังๆชานเมืองราคา 2,400,000 ยูโร  ก็ดูไปงั้นๆแหละค่ะ  บ้านฝรั่งแพงเพราะต้องสร้างอย่างดีและแน่นหนาแข็งแรง  บ้านเราอากาศดีสร้างไม่แน่นเท่าบ้านฝรั่งราคาถูกกว่าเยอะตามค่าครองชีพแหละค่ะ....แหม! (ฝันว่า)จะมาซื้ออยู่สักหลังคงจะไม่มีเวลาตกลงราคากันเปลี่ยนใจดีกว่าค่ะ....

.

บ้านของชาวซาลซ์บูร์กระหว่างทางรถติดเข้าเมือง 

บ้านสไตล์นี้เกือบทั้งนั้น

บ้านสมัยใหม่แบบนี้ก็มีเยอะ

หลังนี้ก็เช่นกัน

หลังนี้ดั้งเดิม

หลังนี้เป็นอพาร์ทเมนท์  เด็กๆเดินกลับจากโรงเรียน

รถมาจอดติดตรงนี้นาน  หลังนี้กำลังต่อเติมหรือปรับปรุง  ระบบป้องกันความปลอดภัยอย่างดีเลย

หลังนี้ทันสมัยน่ารักดี  บ้านฝรั่งส่วนใหญ่จะมีสวนใหญ่อยู่หลังบ้าน

....จนเข้าถึงกลางเมืองเก่าที่ที่เราจะเดินเที่ยวกัน  ดิฉันก็เริ่มนำทางให้สามีเอารถเข้าไปจอดในที่จอดรถในอุโมงค์ภูเขากลางเมือง  เริ่มแสดงความเก๋าแล้วไงคะ  อันที่จริงคราวที่แล้วที่มากับลูกสาวตัวน้อยนั้นไม่ได้ขับรถมานะคะ  นั่งรถไฟมาจากเวียนนากันค่ะ  แต่ความที่เราต้องลุยต้องเดินไงคะ  เดินมากก็รู้มาก  เดินหลงมาโผล่ที่จอดรถก็เลยรู้ว่ามีที่จอดรถที่อุโมงค์ใต้เขาในเมืองใกล้กับทางขึ้นปราสาท Hosensalzburg

....เค้าเจาะภูเขาทำอุโมงค์จอดรถในเมือง  ดีมากเลยค่ะ  เหมือนอาคารจอดรถตามห้างบ้านเรา  มีหลายชั้นมีลิฟท์ขึ้นลง  มีห้องน้ำบริการ  ทางเดินเข้าออกตกแต่งด้วยสินค้าโฆษณาน่าดูน่ามอง  ระบบการจ่ายเงินเข้าออกเป็นแบบอัตโนมัติค่ะ 

.

ในกลางเมือง

ทางเข้าอุโมงค์จอดรถอยู่ข้างหน้า

ทางเดินเข้าออกอุโมงค์

โฆษณาสะอาดๆสองข้างทางเดิน

....มีที่จอดรถแล้วก็สบายแล้วค่ะ  ดิฉันก็พาสามีเดินเที่ยวในเมืองเก่า  พาเดินไปทางขึ้นปราสาท  มีเคเบิลคาร์เสียตังค์เยอะหน่อยหรืออยากออกกำลังก็เดินขึ้นไปได้  แต่ไม่ได้ขึ้นเพราะสามีเธอไม่อยากขึ้น  คราวนี้ไม่เป็นไรไม่เสียดายเพราะดิฉันเคยขึ้นเคยเข้าไปเดินดูปราสาทมาแล้วตั้งแต่ครั้งกระโน้น....ปราสาท Hosensalzburg นี้นับว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปค่ะ 

....ยังไม่ทันได้ดูอะไรมากก็พากันเดินเข้าไปในเมืองเดินก่อนค่ะ  ไปดูบ้านเมืองดูร้านค้าเปิดหูเปิดตาพร้อมกับหาของรับประทาน  เกิดอยากทานอาหารญี่ปุ่นขึ้นมา  เดินตรงเข้าไปร้านนึงเป็นร้านจีนบวกญี่ปุ่น  นั่งได้สักพักมองไปมองมา  อ้าว!ร้านนี้เราเคยเข้ามานั่งทานคราวที่มากับลูกสาวนี่นา  ไม่ได้ตั้งใจเลยค่ะ 

....เสร็จจากอาหารก็พากันเดินดูร้านค้า  ดิฉันน่ะตกค้างจากการเดินหาบู๊ทที่อิตาลี  ที่ยังหาคู่ถูกใจไม่ได้  มาถึงที่ซอลซ์บูร์กนี่ก็เลยได้โอกาสสอดส่ายสายตาหารองเท้าบู๊ท  ที่นี่หาง่ายกว่าที่โรมค่ะ  เพราะร้านค้ามีน้อยกว่าทำให้เราดูอะไรต่ออะไรหรือเลือกอะไรก็ได้ง่ายกว่า

....ดูไปดูมามีแต่รองเท้าสวยๆอยากได้ไปหมด  สามีดิฉันเธอเกิดไปถูกใจคู่นึงเธอบอกว่าสวยถ้าจะเอาเธอจะซื้อให้....ทันทีเลยค่ะไม่เรื่องมากแล้ว  เอาคู่ที่เธอว่าสวยนั่นแหละ  ขืนเรื่องมากเดี๋ยวต้องจ่ายเอง!

.

....ได้มาก็เก็บคู่เก่าลงกล่องใส่คู่ใหม่เดินเฉิดฉายทันที  แหมรองเท้าคู่ใหม่กับคนสวยคนเก่าดูเข้ากันมาก  ทำให้การเดินเที่ยวมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ....พร้อมที่จะเดินเที่ยวต่อแล้วนะคะ  มาว่ากันต่อเอนทรีหน้าค่ะจะได้ไม่ยาวจนเกินไป....สวัสดีค่ะ

...............................................................................